21 พ.ย.2535 กำเนิด "นัทสึมิ" ฆาตกรเด็ก | คมชัดลึก

          ราวกับหนังสยองขวัญไซโค เมื่อเราได้รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงกับเด็กหญิงชาวญี่ปุ่น 2 คน ซึ่งเป็นเพื่อนกัน

          โดยหนึ่งในนั้น ต้องมาจบชีวิตลงด้วยน้ำมือของอีกคน ด้วยวิธีการสังหารที่เลือดเย็นสุดๆ ช่างแตกต่างราวฟ้ากับเหว เมื่อเทียบกับวัยเพียง 12 ขวบ ซึ่งควรจะเป็นเพียงเด็กไร้เดียงสา

          เธอคือ “นัทสึมิ ซึจิ” นักเรียนประถมโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ญี่ปุ่น ผู้ซึ่งในเวลานี้จะเติบโตขึ้นเป็นหญิงสาวที่สะสวย เพราะเธอถือกำเนิดเมื่อวันนี้ของ 26 ปีก่อน หากแต่ในช่วงวัย 12 ไม่มีใครรู้เลยว่า เหตุใดเธอจึงก่อเหตุสยองขวัญขึ้นกับเพื่อนของเธอเอง!!

           ซึ่งคดีนี้เรารู้จักกันในการขนานนามว่า “คดีเชือดซาเซโบ (Sasebo Slashing)” ขณะที่ด้วยใบหน้าอันน่ารักน่าเอ็นดูของเธอ ทำใหหลายคนถึงกับเรียกว่า เป็น "ฆาตกรที่น่ารักที่สุด"!!

 

          หลับตาย้อนนึกภาพในไปท้องฟ้าแห่งแดนซากุระเดือนมิถุนายนอันสดใส วันที่ 1 มิถุนายน 2547 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองซาเซโบะ จังหวัดนางาซากิ ทุกคนไปโรงเรียนตามปกติ เช่นเดียวกับ "นัทสึมิ" นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนนี้

          อย่างไรก็ดี โดยทั่วไปแล้ว นัทสึมิ เป็นนักเรียนดีเด่น ไอคิวสูงคนหนึ่งที่เพื่อนๆ ยอมรับ หากแต่มีข้อมูลระบุว่าเธอมักใช้เวลาว่างในการเล่นอินเตอร์เน็ต และดูภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาค่อนข้างรุนแรง

          ว่ากันว่าเหตุที่เธอใช้เวลากับอินเตอร์เนทและดูภาพยนตร์อย่างมากนั้น เพราะในปีนั้นเธอถูกครอบครัวสั่งให้เลิกเล่นบาสเก็ตบอล และให้ออกจากชมรมกีฬา ทั้งๆ ที่เป็นสิ่งที่เธอชอบมาก แต่เพราะผลการเรียนตกลง ครอบครัวจึงสั่งห้าม

          นั่นแหละจึงทำให้เธอเริ่มดูภาพยนต์มากขึ้น และเล่นอินเทอร์เน็ตอย่างหนัก ทั้งยังเขียนนิยาย และไดอารี่ พอๆ กับที่เธอชอบเข้าชมเว็บไซต์ที่มีเนื้อหารุนแรงสยองขวัญที่ถูกห้ามสำหรับเด็กมากมาย

          แน่นอน เด็กวัยนี้หลายคนก็ชอบบริโภคสื่อในท่วงทำนองแบบนี้ แต่มันกลับแตกต่างกับ “นัทสึมิ” เพราะเธอไม่สามารถจัดการอารมณ์ของตนเองได้ เพียงแค่โดนเพื่อนสนิทของเธอเองที่ชื่อ "ซาโตมิ มิทาไร" ล้อว่าอ้วน!!

          ข้อมูลระบุว่าช่วง 1 สัปดาห์ก่อนที่ซาโตมิจะถูกฆ่า เธอได้กล่าวล้อเลียนนัทสึมิ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2547 โดยซาโตมิได้ล้อว่าเธอ “ตัวหนัก” จึงทำให้ นัทสึมิรู้สึกไม่พอใจมาก

          จากนั้นไม่กี่วัน ทั้งคู่ก็มีปากเสียงกันเรื่องคอมเม้นท์ในโฮมเพจ ทำให้นัทสึมิ เกิดความแค้น ถึงขนาดวางแผนที่จะฆ่าซาโตมิ

          อย่างไรก็ดี ข้อมูลบางแหล่งระบุว่าที่จริงแล้ว นัทสึมิเธอไม่ค่อยจะชอบเพื่อนร่วมชั้นวัย 12 ขวบคนนี้ของเธอเท่าไหร่นัก

          เพราะตลอดมา ซาโตมิมักจะมาคอมเม้นท์ล้อเลียนและจิกกัดเธอในโฮมเพจของเธออยู่บ่อยๆ ก็เลยขัดเคืองกับตามประสาวัยรุ่นหญิง

นัทสึมิอีกมุมหนึ่ง

          แต่นัทสึมิค่อนข้างอ่อนไหว เมื่อเธอเกินจะทน เธอจึงเริ่มคิดที่จะฆ่าซาโตมิ

           ว่ากันว่าที่จริงเธอคิดที่จะฆ่าเพื่อนคนนี้ตั้งแต่วันรุ่งขึ้นแล้ว (28 พ.ค.2547) แต่ก็ทำไม่ลง จนกระทั่งอีกวัน ซาโตมิยังไม่หยุด กลับยังคงกล่าวล้อเลียนนัทสิมิอีกหลายครั้ง โดยเขียนคอมเม้นท์ลงในโฮมเพจของนัทสึมิว่า “กระแดะ” ซึ่งทันทีที่นัทสึมิได้เห็น เธอก็ลบคอมเม้นท์นั้นออกจากหน้าโฮมเพจเธอทันที 

          แต่ซาโตมิ ก็ยังไม่ยอมหยุด ยังเข้ามาเขียนข้อความซ้ำอีกว่า “ฉันจะฆ่าแก” โดยหารู้ไม่ว่า คนที่เธอกำลังพูดด้วยนั้นกำลังคิดที่จะทำแบบนั้นกับเธออยู่แล้ว!

          วันรุ่งขึ้น หรือ 29 พ.ค.2547 ทั้งสองก็ทะเลาะกันอีกครั้งผ่านโฮมเพจของทั้งคู่ นาทีนี้้นัทสึมิจึงมั่นใจแล้วว่า เธอจะต้องกำจัดซาโตมิเสียที เธอจึงไปซื้อมีดคัตเตอร์เพื่อเตรียมสำหรับการก่อเหตุ

          ที่สุดเช้าวันอังคารที่ 1 มิถุนายน ก็มาถึง นัทสึมิเรียกซาโตมิเข้าไปในห้องเรียนห้องหนึ่งที่ชั้น 3 ในช่วงพักกลางวัน แล้วบังคับให้ซาโตมินั่งลงบนพื้น จากนั้นเธอปิดม่านหน้าต่างห้อง แล้วดึงแว่นตาออกจากหน้าของเพื่อน

          พร้อมกับใช้มือปิดตาซาโตมิ จากนั้นก็ควักมีดคัตเตอร์ขึ้นมาปาดคอซาโตมิอย่างโหดเหี้ยม และยังกรีดที่หลังมือของซาโตมิลึกจนเห็นกระดูก

          ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง ซาโตมินั้นเมื่อรู้ว่าตัวเองถูกทำร้าย ก็พยายามกระเสือกกระสนหนีตาย แต่สายเกินไป เธอได้ขาดใจตายที่ประตูห้องเสียก่อน

          จากนั้น นัทสึมิก็รอเวลาประมาณ 15 นาที เมื่อแน่ใจว่าซาโตมิเสียชีวิตแน่นอนแล้ว เธอก็เอามีดคัตเตอร์ชุ่มเลือดห่อไว้กับเสื้อผ้าที่ใส่อยู่แล้วออกจากที่เกิดเหตุ แล้วกลับไปยังห้องเรียน

          แต่ระหว่างทางนั้น เธอได้เดินสวนกับครูคนหนึ่ง แต่ยังไม่ทันที่ครูจะถามอะไร เธอก็โวยวายบอกว่า “ไม่ใช่เลือดฉัน ไม่ใช่เลือดฉัน” ก่อนจะวิ่งเข้าห้องเรียนไป

          ไม่นานครูในโรงเรียนก็มาพบศพซาโตมินอนจมกองเลือดอยู่ โดยลำคอถูกปาดจนเห็นกระดูก บาดแผลนั้นยาว 10 เซนติเมตร และลึกกว่า 10 เซนติเมตร จึงเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยด่วน ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง ก็นำตัวนัทสึมิไปสอบสวนทันที

          ข่าวบางแหล่งระบุว่า ตอนที่เพื่อนๆ รู้ว่าเป็นนัทสึมิที่ก่อเหตุ หลายคนพยายามถ่ายรูปเธอ แต่เธอก็หันมายิ้มหวานให้กล้อง หากแต่ข่าวบางแหล่งระบุว่า นัทสึมิได้แต่ร้องไห้ พูดซ้ำๆว่าขอโทษ และสารภาพว่าเป็นคนทำ พร้อมระบุสาเหตุจูงใจจากการทะเลาะกันในโฮมเพจ และยังมีแรงบันดาลใจมาจากหนังฆาตกรรมที่นำเสนอก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน

          ที่สุดในการดำเนินคดี หลังจากนั้น 3 เดือนและได้มีการตรวจสภาพจิตของนัทสึมิ พบว่าเธอไม่ได้มีอาการป่วยทางจิต เป็นเด็กที่ปกติดีทุกอย่าง หากแต่มีความเครียดมากเกินไป โดยคนรอบตัวของเธอได้ให้การว่า เธอมีอาการเก็บตัว ปลีกตัวออกจากสังคม และเคยมีการใช้กำลังกับเพื่อนคนอื่นๆ ก่อนหน้านั้น

          ที่สำคัญ ภายหลังมีการพบข้อความในไดอารี่ที่เธอบันทึกไว้ก่อนลงมือฆ่าซาโตมิ ทำเอาหลายคนถึงกับขนหัวลุก ดังนี้

          วันที่ 28 พฤษภาคม นัทสึมิเขียนในไดอารี่ ถึงวิธีฆ่าที่ตนจะเลือกใช้สามแบบคือ ใช้มีดคัตเตอร์ ใช้ที่เจาะน้ำแข็ง หรือไม่ก็บีบคอ พร้อมเขียนว่า “ฉันอยากจะฆ่ามันวันนี้แหละ แต่ทำไม่ได้”

          วันที่ 29 พฤษภาคม นัทสึมิพยายามยื่นข้อเสนอให้ซาโตมิ เขียนคำขอโทษตน แต่ซาโตมิไม่ยอม กลับตอบเธอว่า “อวดเก่ง” แม้นัทสึมิจะทำการลบคอมเม้นท์ทิ้ง แต่ซาโตมิก็เขียนขึ้นมาใหม่อีกหลายครั้ง จนในที่สุดนัทสึมิก็ตอบโต้ด้วยคำว่า “แกหายไปจากโลกนี้ซะเถอะ!”

          วันที่ 31 พฤษภาคม นัทสึมิเขียนไดอารี่ว่า “วันพรุ่งนี้ ฉันตัดสินใจจะฆ่ามันด้วยมีดคัตเตอร์”

          และวันที่ 1 มิถุนายน นัทสึมิ มาเรียนตามปกติ เธอได้ถ่ายรูปหมู่ร่วมกับเพื่อนๆ และครูในโรงเรียน ตัวเธอสวมเสื้อยืดสีน้ำเงินเข้ม สกรีนคำว่า “NEVADA” ยืนถ่ายรูปใกล้กับซาโตมิ (เด็กใส่แว่นตา) ด้วยท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใสทั้งคู่

ซาโตมิ (ซ้าย) นัทสึมิ (ขวา)

          จนกระทั่งมาก่อเหตุเลือดในวันนั้นเอง

          กลับมาที่คดีความ ที่สุดนัทสึมิก็ถูกส่งตัวไปควบคุมความประพฤติ 2 ปี ก่อนจะถูกส่งตัวไปยังสถานส่งเสริมการฟื้นตัวของเด็กในเวลาต่อมา โดยอยู่ในการควบคุมของทางการตลอดนับตั้งแต่นั้นมา

          อย่างไรก็ดี นัทสึมิได้พ้นโทษออกมาแล้วตั้งแต่ปี 2556 หรือเมื่อ 5 ปีก่อน

          วันนี้หลายคนยังคงถามหานัทสึมิ ว่าเธออยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ ซึ่งไม่มีใครรู้ได้ แต่ที่แน่ๆ ตัวเธอเองคงได้รู้แล้วว่า ระหว่างที่เธออยู่ในความดูแลของสถานกักกัน เรื่องราวของเธอทั้งถูกนำมาสร้างเป็นการ์ตูน และภาพยนตร์

          หลายคนแปลกใจว่าสังคมญี่ปุ่นให้คุณค่ากับการนำผู้ร้ายมาเป็นตัวละครได้ยังไง แต่นัทสึมิก็กลับได้รับเกียรติจากนักวาดการ์ตูนสมัครเล่นหลายคน ที่พากันวาดรูป "แฟนอาร์ต" ของเธออย่างมากมาย

คอสเพลย์ ที่วัยรุ่นแต่งแบบนัทสึมิ

   

          โดยเป็นรูปของนัทสึมิที่สวมเสื้อกันหนาวสีน้ำเงิน สกรีนคำว่า "NEVADA" ซึ่งเป็นชุดในวันที่เธอก่อเหตุ แถมยังให้ฉายาเธอว่า “เนวาด้าทัน” ซึ่งแปลว่าเด็กหญิงเนวาด้า (คำว่า ทัน แผลงมาจาก จัง)

          และยังมีการแต่งคอสเพลย์เป็น “เนวาดาทัน” กันอย่างกว้างขวาง ราวกับว่า "นัทสึมิ ซึจิ" เป็นฮีโร่ ทั้งๆ ที่เธอเคยเป็นฆาตกร โปรดดึงสติกันด้วย!!

/////

ขอบคุณภาพและข้อมูลจากวิกิพีเดีย

http://hot.muslimthaipost.com/content.php?page=sub&category=136&id=17146

https://www.tvpoolonline.com/content/461489