4 พ.ย. 2559 ไวไปนะฟ้า สันติ ดวงสว่าง ลาโลกกลับดาว
3 ปีที่แล้วในวันนี้ คือวันที่ฝนน้ำตาของมิตรรักแฟนเพลงท่วมนองหน้า
***************************
วันนี้เมื่อ 3 ปีก่อน มีดวงดาวต้องกลับฟ้าก่อนเวลาอันควรอีก 1 ดวง ดาวดวงนั้นสุกสกาวอยู่ในบันเทิงลูุกทุ่งไทยยาวนาน เป็นที่ยอมรับ
ดาวดวงนั้นคนไทยส่วนใหญ่ รู้จักเขาในนาม สันติ ดวงสว่าง บ้างก็รู้จักเขาในนามอื่น เช่น เสน่ห์ สุดหล่อ, กำธร เทวดา หากแต่ชื่อดั้งเดิมโดยกำเนิดเขา คือ จเร ภู่ทอง เจ้าพ่อเพลงหวานที่มีผลงานเพลงดังมากมาย เช่น จูบไม่หวาน, ถอนคำสาบาน, รักนี้มีกรรม, น้ำกรดแช่เย็น, ลูกชาวบ้าน
จเร ภู่ทอง เกิดเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2511 เป็นบุตรของนายประสิทธิ์ นางวรรณา ศรีประเสริฐ แต่เดิมอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ที่ 6 ตำบลท่าเยี่ยม กิ่งอำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร พ่อแม่มีอาชีพทำนา
จเรชอบร้องเพลงมาตั้งแต่สมัยเด็ก ว่ากันว่ามรใครมาจ้างร้อง 5 – 10 บาท ก็จะรับร้องโดยไม่เกี่ยงราคา เมื่อพ่อแม่เห็นว่าเขาชอบเสียงเพลง และพอมีพรสวรรค์ จึงพาไปสมัครประกวดร้องเพลงตามเวทีต่างๆ งานวัดบ้าง เวทีเล็ก เวทีใหญ่ สถานที่ต่างๆ ตามตำบล ตามอำเภอ หรือต่างจังหวัด เขาจะรับรางวัลชนะเลิศทุกครั้ง
ต่อมา ตอนเขาอายุได้ 9 – 10 ปี พ่อแอ๊ด เทวดาได้ฟังเสียงแล้วชอบใจมาก จึงขอไปอยู่ด้วย พ.ศ. 2529 พอโตเป็นหนุ่ม อายุเพียง 18 ปี สันติได้อัดเสียง เพลงแรกของเขาคือเพลง “แม่จ๋าพ่ออยู่ไหน” ตั้งแต่ตอนนั้นสันติมีความมั่นใจในฝีมือการร้องเพลงมากขึ้นจึงได้ไปร้องเพลงในห้องอาหารที่แม่กลอง
ที่สุด ความฝันของเขาก็เป็นจริง เมื่อเขาได้ร้องเพลงในห้องอาหาร “ดวงนภา” จนวันหนึ่งแมวมองหานักร้องเข้าประกวดในรายการ “ลูกทุ่งสิบทิศ” ของ ดำรง พุฒตาล ทางช่อง 5 จึงมีโอกาสได้เข้าฝากเนื้อฝากตัวกับครู “มนต์ เมืองเหนือ”
จากนั้นมีการนำเพลงเก่ามารีมาตส์เตอร์ เช่น เพลงจูบไม่หวาน ส่งผลทำให้เขาโด่งดัง และเป็นนักร้องลูกทุ่งคนแรกในค่ายอาร์เอส ในโครงการอัลบั้ม “ท็อปฮิตลูกทุ่งมาตรฐาน”
ขอบคุณ Sabaidee TV Official
ในโครงการนี้เขาทำไว้มากที่สุดถึง “23 อัลบั้ม” เขาเป็นนักร้องที่เขาห้องอัดร้องเพลงวันละ 20-30 เพลงต่อวันเลยทีเดียว และเขายังได้รับรางวัลในบทเพลง “ดวงดาวชาวนา” อีกด้วย จึงทำให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปและกลายมาเป็นเจ้าพ่อเพลงหวานจนถึงทุกวันนี้
บั้นปลายชีวิต สันติได้ทำค่ายเพลงไว้ค่ายหนึ่งตามที่ฝัน คือค่าย “รวงข้าวเรคคอร์ด” โดยก่อนเสียชีวิต สันติ ดวงสว่างได้บันทึกเพลงเอาไว้กับค่ายแสงรวี คือเพลง รักสาวม.2, เดือนจ๋า, ไอ้หนุ่มนาดอน, ลาสาวเข้าโบสถ์, อดีตรักงานงิ้ว และ คำสุดท้าย
สันติ ดวงสว่างป่วยเป็นโรคเบาหวาน และโรคไต อันเนื่องมาจากการขาดยาและไม่ได้รับการพักผ่อน โดยก่อนหน้านั้น 1 ปีสันติเคยประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน
ช่วงที่ป่วย ราวเดือนกรกฎาคม 2559 ทีมข่าวคมชัดลึกเคยมีโอกาสไปสัมภาษณ์เจ้าตัว ซึ่งเป็นนักร้องชายยอดเยี่ยม“คมชัดลึกอวอร์ด” 2 ปี ซ้อน เขาเล่าว่า ตอนนี้เป็นเบาหวานกับความดัน เบาหวานขึ้นตา จนตาพร่ามัวมองอะไรไม่ชัด คนเดินมาใกล้ๆ ยังไม่รู้เลยว่าเป็นใคร
“บางคนไม่เข้าใจว่าผมเป็นอะไร ก็บอกว่าสันติทำไมหยิ่งนัก ผมไม่ได้หยิ่งนะ แต่ผมมองไม่เห็น เพราะเบาหวานมันขึ้นตา”
การรักษาเบาหวานของสันติ ถึงขนาดต้อง ฉีดยาเข้าที่เบ้าลูกตาทั้ง 2 ข้าง ที่ต้องฉีดยาเข้าที่ตาเพราะว่าพอเบาหวานมันขึ้นมากๆ มันมีเลือดไปคั่งอยู่ เส้นเลือดที่ตามันแตก ทั้งนี้ หมอยังยิงเลเซอร์รักษาตาไม่ได้เพราะมีเลือดคั่งอยู่ก็เลยต้องฉีดยาเข้าที่ตาเพื่อไปละลายเลือดที่คั่งออกมาก่อน ตาจะได้มองเห็น
ส่วนเรื่องรับงานร้องเพลง สันติบอกวันนั้นว่า ไม่มีปัญหาอะไร รับงานไหว มีบางครั้งที่ความดัน กับเบาหวานมันขึ้นมากๆ ก็ไม่ไหว แต่ก็ต้องไปร้องเพลง ก็ต้องทำให้เต็มที่
"บางครั้งงานกินเลี้ยงจะเป็นลมให้ได้ ฝนก็ตก เราร้องอยู่บนเวที เจ้าภาพเขาก็ดึงเราลงไปถ่ายรูปตรงนั้น ตรงนี้บ้าง จนเรามึนหัวไปหมด แล้วไม่ไหว หน้าซีดก็ขอเขาว่า ขอหยุดร้องนะ ไม่ไหวจริงๆตอนนี้ไม่ยุ่งเลยเหล้า บุหรี่ หยุดตั้งแต่รู้ว่าเราเป็นเบาหวาน เราต้องรักษาชีวิตเราก่อน เบาหวานกับความดัน เวลาผมเป็นมันจะมีอาการวูบไปเลยเหมือนกับเราถอดปลั๊กทีวีออกมันวูบเดียวไม่รู้ตัวไปเลย” สันติเล่า
เมื่อถามว่าตอนนี้เห็นมีเพลงใหม่ออกมาทำเองหรือสังกัดบริษัท สันติเล่าว่า
“ตอนนี้ผมมาทำอัลบั้มชุด ”รักสาวม.2“ กับ สังกัด ”รวงข้าวเร็คคอร์ด“ เป็นบริษัทของผมเอง ก็ได้รับแรงใจจากแฟนเพลงมากทีเดียว ทั้งพี่น้องนักจัดรายการในต่างจังหวัด ทั่วประเทศ แฟนเพลงที่ให้การตอนรับผมดีเหลือเกิน ผมก็จะทำงานเพลงลูกทุ่งดีๆให้แฟนเพลงฟังไปเรื่อยๆ ผมจะทำให้เป็นอัลบั้ม เพื่อให้บริษัทที่ผมตั้งมาอยู่ได้ เป็นบริษัทบ้านนอกเล็กๆ บริษัทอยู่ได้ผมจะได้มีเงินมารักษาตัว” สันติกล่าวสรุป
ที่สุด อาการมากำเริบหนักช่วงปลายเดือนตุลาคม 2559 และเสียชีวิตอย่างสงบด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก ต้องรักษาตัวในห้องผู้ป่วยขั้นวิกฤติ(ไอซียู) นานถึง 4 วัน แต่ก็ไม่อาจยื้อชีวิตไว้ได้
เขาเสียชีวิตในช่วงสายของวันที่ 4 พฤศจิกายน 2559 รวมอายุได้ 48 ปี ได้สวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศล ณ วัดมูลจินดาราม จังหวัดปทุมธานี เป็นเวลา 5 วัน ก่อนจะนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศล ณ วัดท่าคล้อ จังหวัดพิจิตร บ้านเกิด และมีพิธีพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2560 ที่วัดท่าคล้อ อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร
อนึ่งที่สุดแล้ว สันติ ดวงสว่าง นักร้องฉายาเจ้าของฉายา “เจ้าพ่อเพลงหวาน” เขาคือเจ้าของรางวัล นักร้องชายยอดเยี่ยม คมชัดลึกอวอร์ด ถึง 3 ครั้ง คือ ครั้งที่ 4 จากเพลง “คืนพี่คอย” ครั้งที่ 5 จากเพลง“ ยอมยกธง”และครั้งที่ 11 จากเพลง “ที่สุดแห่งรัก”
และครั้งล่าสุด ในปีที่ 13 สันติ ดวงสว่าง ได้รับรางวัลนักร้องลูกทุ่งชายยอดเยี่ยม คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 14 จากเพลง "รักสาว ม.2” ซึ่งลูกสาวของสันติ ดวงสว่าง มารับรางวัลแทน โดยเป็นรางวัลที่ 3 หลังจากที่เคยได้รับมาก่อนหน้านั้น 2 ครั้งในสาขาเดียวกัน
บางทีสวรรค์อาจต้องการให้เจ้าพ่อเพลงหวานคนนี้กลับไปเป็นเทวดาขับกล่อมบนฟ้า ไม่อยากรอนาน เพราะเสียงหวานเหลือเกิน
************************