5 ธ.ค.2444 กำเนิดราชาการ์ตูนโลก 'วอลต์ ดิสนีย์' | คมชัดลึก

 

 

***************************

 

 

ถ้าเอ่ยชื่อ “วอลต์ ดิสนีย์” เชื่อได้เลยว่าเราจะต้องนึกถึงเจ้าตัวการ์ตูนน่ารักๆ อย่าง มิกกี้ เมาส์, โดนัลด์ ดั๊ก, เจ้าพลูโต และอื่นๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วน อ้อ! รวมถึงเจ้ากระรอก “ชิพกับเดล” อีกด้วย (ฮา)

 

แต่น้อยคนที่จะนึก "วอลเตอร์ ดิสนีย์" ผู้เป็นต้นกำเนิดของเจ้าตัวการ์ตูนที่โด่งดังระดับโลกข้างต้น เขาได้ชื่อว่าเป็น "ราชาการ์ตูนโลก" ผู้บุกเบิกแอนิเมชั่นของอเมริกา และยังเป็นบุคคลแรกที่สร้างภาพยนตร์การ์ตูนแบบสีอีกด้วย

 

วันนี้เมื่อ 118 ปีก่อน คือวันที่ ด.ช. วอลเตอร์ เอเลียส ดีสนีย์ ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ เพื่อประกาศว่าในโลกของจินตนาการและเด็กๆ เขานี่แหละคือตัวจริง!

 

 

 

 

 

 

 

 

ชีวิตช่วงต้น

 

วอลเตอร์ เอเลียส ดีสนีย์ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ วอลต์ ดิสนีย์ เกิดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2444 ที่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ บิดาของเขาคือ อีเลียส ชาร์ลส์ ดิสนีย์ ชาวแคนาดา ส่วนมารดาคือ ฟลอร่า คอล ดิสนีย์

 

พระเอกของเราเป็นลูกชายคนที่ 4 โดยมีพี่ชาย 3 คน คือ เฮอร์เบิร์ต, เรยมอนด์ และ รอย Roy และมีน้องสาวอีกคน ชื่อ รูธ

 

ประวัติระบุว่า วอลต์มีความรักในการวาดภาพมาตั้งแต่วัยเด็กแค่ 7 ขวบ และยังมีความสามารถ จนมีโอกาสเข้าไปวาดการ์ตูนลงคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์ของโรงเรียน กระทั่งมีโอกาสไปทำงานพิเศษช่วงฤดูร้อนกับบริษัทรถไฟ ด้วยการขายหนังสือพิมพ์ น้ำดื่มและขนม ให้กับผู้โดยสาร

 

 

 

 

 

 

ต่อมาเมื่อครอบครัวของเขาย้ายไปอยู่ที่แคนซัสซิตี้ รัฐมิสซูรี่ วอลต์ ดิสนีย์ ก็ได้ทำงานพิเศษโดยการส่งหนังสือพิมพ์ในเมือง จนเมื่อย่างเข้าวัยรุ่นเขาได้เดินตามความฝันในการเป็นนักวาดการ์ตูน จึงเข้าเรียนสาขาศิลปะและการถ่ายภาพที่สถาบันศิลปะแคนซัสซิตี้

 

ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 วอลต์เองก็เป็นหนึ่งในชายหนุ่มที่มีส่วนร่วมในสมรภูมิ แต่เขานั้นอยู่ที่หน่วยกาชาดของทหารอเมริกัน มีหน้าที่รับส่งผู้ป่วยระหว่างประเทศเยอรมันกับฝรั่งเศส

 

จนกระทั่งในปี 2426 ขณะที่เขามีอายุ 18 เขาได้ปลดประจำการและกลับมายังบ้านเกิด วอลต์ดิสนีย์ในวันนั้น ก็ยังคงไมละทิ้งความฝัน แม้ว่าพ่อของเขาจะไม่เคยเห็นด้วยก็ตาม เขาจึงตัดสินใจเดินหน้าทำตามความฝัน โดยการออกจากบ้านไป

 

 

 

 

ตะลุยโลกการ์ตูน

 

วอล์ตได้พบกับ อับบ์ ไอเวิร์ค และจับมือกันก่อตั้งธุรกิจขึ้นมาในชื่อ Iwerks-Disney Commercial Artists เมื่อปี 2427 แต่ทำได้ไม่นานนักก็ต้องปิดตัวลงเพราะทั้งคู่ขาดประสบการณ์ในการทำธุรกิจ

 

หลังจากนั้นวอลต์จึงไปสมัครทำงานที่ “Kansas City Film Ad.” และเอิร์บเพื่อนของเขาก็ตามมาทีหลัง ในเวลาเพียง 2 ปี วอลต์และเพื่อนนับว่าได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และความรู้ในการทำงานภาพยนตร์แอนิเมชั่นมาพอสมควร

 

 

วอลต์และเอิร์บ (ซ้าย)

 

 

 

จากนั้น วอลต์และเอิร์บจึงได้พยายามเปิดบริษัทใหม่ขึ้น โดยใช้ชื่อว่า Laugh-O-Gram Film, Inc. เน้นการผลิตการ์ตูนสั้นอิงนิยายสำหรับเด็ก แต่อีกครั้งที่ไม่ประสบความสำเร็จ แถมยังถึงขั้นล้มละลาย จนต้องปิดตัวลงอีกครั้ง

 

วอล์ตตัดสินใจนำกล้องไปขายเพื่อนำเงินที่เหลืออยู่มุ่งหน้าไปยัง ฮอลลีวู้ด แอลเอ รัฐแคลิฟอร์เนีย คราวนี้เขาตั้งใจจะหันมาเป็นผู้กำกับ ไม่เอาแล้วงงานแอนิเมชั่น

 

แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีบริษัทไหนรับเขาเข้าทำงานเลย วอลต์จึงกลับมาจับงานเดิมอีกครั้ง คราวนี้เขาให้กำเนิดบริษัท Walt Disney Studios จนจังหวะดี ส่งงานไปที่ บริษัท New York Film ตัวแทนจัดจำหน่ายภาพยนตร์ ในเมือง New York ซึ่งกำลังมองหาการ์ตุนเรื่องใหม่ๆ อยู่พอดี

 

งานของวอล์ตคือเรื่อง Alices’s Wonderland ที่เขาเคยทำมาตั้งแต่ทำอยู่บริษัทเก่า แต่ล้มละลาย ปรากฏว่าคราวนี้ งานเข้าตากรรมการจนบริษัทเสนอให้ทำงานเรื่องอื่นๆ ส่งมาอีก

 

ที่สุดวอล์ตกับ "รอย" พี่ชายของเขา จึงก่อตั้งบริษัท “Disney Brothers Studio” ขึ้นมาในวันที่ 16 ตุลาคม 2466 จากนั้นเปลี่ยนชื่อเป็น “Walt Disney Studios” มีสำนักงานอยู่ในเมือง Hollywood

 

 

Walt and Lillian Disney with unnamed friend, London, 1935. (AP Photo)

 

 

ต่อมาใน 2468 ขณะที่วอลต์อายุ 24 ปี เขาก็พบรักกับ ลิเลียน มารี บาวด์ พนักงานของเขาเองที่ทำงานด้านแผ่นฟิล์ม ความใกล้ชิดทำให้ทั้งคู่รักกันและแต่งงานกันในที่สุด

 

 

 

เส้นทางราชา

 

ในปี 2470 วอลต์กับเอิร์บเพื่อนเก่าได้สร้างตัวละครใหม่ขึ้นมานั่นก็คือ Oswald the Lucky Rabbit โดยนำกระต่าย Oswald ไปเป็นตัวเอกในซีรี่ย์การ์ตูนถึง 26 ตอน

 

 

Oswald the Lucky Rabbit

 

 

แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี ทางผู้จัดจำหน่ายก็ได้หยุดให้ทุนในการสร้างซีรี่ย์นี้ โดยได้นำกระต่าย Oswald ไปให้บริษัทอื่นผลิตแทน

 

อย่างที่รู้วอล์ตกับเอิร์บนั้น แม้จะทำธุรกิจมามาก แต่ด้วยวัยที่ยังน้อย บางครั้งก็ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมกลเกมธุรกิจ และไม่ได้เฉลียวใจเรื่องของการจดลิขสิทธิ์ในตัวละคร พวกเขาจึงเสียกระต่าย Oswald ไป (เชื่อหรือไม่ว่าต่อมาในปี 2549 ทางวอล์ต ดิสนีย์ก็ได้ซื้อลิขสิทธิ์ในการ์ตูนกระต่ายออสวอลล์ รวมไปถึงซีรี่ย์ทั้ง 26 ตอน ที่พวdเขาสร้างกันมากลับคืนมาในที่สุด)

 

อย่างไรก็ดี แม้พวกเขาจะผิดหวัง แต่ชีวิตต้องดำเนินต่อ ระหว่างนั้นเอง เขาก็ได้คิดค้นตัวการ์ตูนขึ้นมาใหม่ ที่ต้องเป็นหนูฉลาดๆ ขึ้นมาสักตัว

 

ตอนแรกเขาได้ชื่อมันว่า Mortimer Mouse แต่ภรรยาของเขาแนะนำว่าควรจะเปลี่ยนชื่อ จนกระทั่งพวกเขาตกผลึกที่ชื่อ “Mickey Mouse” นั่นเอง

 

 

 

วอลต์ และรอย ดิสนีย์

 

 

 

ที่สุดเจ้าหนูตัวน้อย ก็ได้กลายเป็นขวัญใจเด็กๆ และผู้คนทั่วโลก และปรากฎตัวต่อสาธารณชนทั่วโลกผ่านทางการ์ตูนครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2471 ในเรื่อง Steamboat Willie

 

ถึงจวบจนปัจจุบันเราคงไม่ต้องบรรยาว่าเจ้ามิกกี้เม้าส์ยิ่งใหญ่ขนาดไหน แถมยังมีผองเพื่อนตามมาอีกเพียบ เช่น มินนี่ เมาส์, กู๊ฟฟี่, พลูโต และโดนัลด์ ดั๊ก

 

 

 

 

 

Disneyland แดนดินที่ยิ่งใหญ่

 

 

ช่วงปี 2498 ความรุ่งเรืองของดิสนีย์ นำพามาซึ่งอาณาจักรสวนสนุกที่ยิ่งใหญ่ของโลกอย่าง “ดิสนีย์แลนด์” ที่ราชาการ์ตูนของพวกเราได้สร้างขึ้นที่เมืองอนาไฮม์ รัฐแคลิฟอร์เนีย

 

ต่อมาในปี 2507 ก็ตามมาอีกแห่งในรัฐฟลอริดา ชื่อว่า “Walt Disney World” คราวนี้มีพื้นที่กว้างใหญ่กว่าเดิมอีก

 

 

AMANDA GARRITY Associate Lifestyle Editor

 

 

 

ภายหลังตามมาอีก 2 ที่ คือ Disneyland ปารีส ฝรั่งเศส Aulani Disney Resort & Spaที่ฮาวายสหรัฐอเมริกา และร่วมลงทุนอีก 2  ที่คือ Hong Kong Disneyland Resort Disney และ Shanghai Disney Resort Disney

 

แต่น่าเสียดายที่เพียง 2 ปีต่อใน ในปี 2509 วอลต์ได้ป่วยเป็นมะเร็งปอดจากการที่เขาสูบบุหรี่มาเป็นเวลานาน และได้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเซนต์โจเซฟ ใกล้กับดิสนีย์สตูดิโอ

 

เพียงไม่นาน ที่สุดในวันที่ 15 ธันวาคม ปีเดียวกัน เขาก็ได้เสียชีวิตลง หลังฉลองครบรอบวันคล้ายวันเกิดในวัย 65 ปี ได้เพียง 10 วันเท่านั้น

 

จากนั้น รอยพี่ชายของเขาก็ได้รับช่วงต่อในกิจการแห่งความฝันของเด็กๆ ทั้งโลก จนกระทั่งมาเสียชีวิตจากไปในปี 2514 ในวัย 78 ปี

 

 

 

 

 

ทุกวันนี้ การ์ตูนวอลต์ ดิสนีย์ ยังคงมนต์ขลังต์อเด็กและคนทั่วโลก และบริษัทแม่ เดอะวอลต์ดิสนีย์ มี บริษัทลูกมากมาย คือ วอลต์ดิสนีย์สตูดิโอส์ โมชันพิกเชอส์, ดิสนีย์เนเชอร์, วอลต์ดิสนีย์แอนิเมชันสตูดิโอส์, ดิสนีย์มิวสิกกรุป, ดิสนีย์เทียทริเคิลกรุป, ดิสนีย์สตูดิโอเซอร์วิส, วอลต์ดิสนีย์สตูดิโอส์มาร์เก็ตติง และบริษัทในเครือ อย่าง วอลต์ดิสนีย์พิกเชอส์, ลูคัสฟิล์ม, พิกซาร์, มาร์เวลสตูดิโอส์

 

อย่างที่รู้กันว่าช่วงหลังๆ มานี้หนังทำเงินอย่าง Avengers ก็เรียกว่าเป็นสุดยอดหนังฮิตของคนทั่วโลก นี่ก็คือธุรกิจของวอลต์ ดิสนีย์ เหมือนกัน

 

************************