26 ธ.ค.2558 น้อย มาลีฮวนน่า ดับกะทันหันก่อนขึ้นคอนเสิร์ต | คมชัดลึก

 

 

****************************

 

พูดถึงวงมาลีฮวนนา นักฟังเพลงไทยต้องรู้จักเป็นอย่างดี วงนี้โด่งดังในสายเพลงเพื่อชีวิต เพลงปักษ์ใต้ ที่กำเนิดเติบโตมาจากกลุ่มนักศึกษาจากแดนด้ามขวาน ที่ไม่เพียงชื่นชอบในงานศิลปะ แต่ยังยังรักในเสียงเพลงและเสียงดนตรี

 

ส่วนชื่อวง แม้จะหมายถึง "กัญชา" แต่นัยยะของชื่อน่าจะหมายถึงการปลดปล่อย หรือ อิสรภาพจากกรอบกำบังของสังคม กรอบแห่งความคิดมากกว่า

 

วงนี้เริ่มต้นด้วยสมาชิก 4 คน แต่น่าเสียดายที่วันนี้เมื่อ 4 ปีก่อน ตรงกับวันที่ 26 ธันวาคม 2558 สมาชิกคนหนึ่งได้มาลากไปอย่างกะทันหัน เขาคือ มือกีตาร์ ที่คนไทยเรียกเขาว่า “น้อย มาลีฮวนน่า”

 

วันนี้เรามารำลึกถึงเรื่องราวของวงนี้กัน

 

 

กำเนิดแห่งเสียงเพลง

 

ในช่วงปี 2534 ไข่ คฑาวุธ ทองไทย ที่กำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยศิลปากร, ธงชัย รักษ์รงค์ ผู้ซึ่งเล่นดนตรีอยู่ตามผับทางภาคใต้ และ สมพงษ์ ศิวิโรจน์ ที่กำลังศึกษาที่โรงเรียนช่างศิลป์  ได้รวมตัวกันขึ้นก่อตั้งวงมาลีฮวนน่าขึ้นมา

 

 

ภาพนี้คือปกอัลบั้มชุดแรก 

 

 

แต่วงก็ต้องพักลงช่วงหนึ่งด้วยปัญหาบางประการ ทุกคนจึงจำต้องแยกย้ายกันไประยะหนึ่ง จนกลับมาอีกครั้งในปี 2537 วงมาลีฮวนน่าได้ออกอัลบั้มแรก โดยใช้ชื่อว่า “บุปผาชน" ว่ากันว่าเกิมทีอัลบั้มนี้ใช้ชื่อ บุปผาแห่งเสียงเพลง แต่ภายหลังเปลี่ยนมาเป็นบุปผาชน

 

เทปของพวกเขาออกวางขายแบบใต้ดิน ฝากขายตามแผงเทปต่างๆ เช่นร้านน้องท่าพระจันทร์ จนเริ่มมีคนฟังมากขึ้นเรื่อยๆ แบบปากต่อปาก

 

ไม่นานก็แหวกกระแสเพลงอัลเทอร์เนทีฟที่กำลังมาแรงออกมาได้ในยุคนั้น โดยมีเพลง หัวใจพรือโฉ้ ลมเพลมพัด เรือรักกระดาษ เป็นแรงส่งสำคัญที่ทำให้ชื่อของเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ส่งผลให้ผลงานในชุดที่ 2 ประสบความสำเร็จเกินคาด กับอัลบั้ม คนเช็ดเงา ในปี 2539 มียอดขายถึง 1,000,000 ตลับ!

 

ต่อมาปี 2542 ออกอัลบั้ม กลับกลาย, ปี 2543 อัลบั้ม เพื่อนเพ ปี 2545 ชรอยต่อช่วงนี้สมาชิกในวงเริ่มมีปัญหา ระหว่าง อ.ไข่ คฑาวุธกับ ธง ธงชัย ทำให้การทำอัลบั้มชุดที่ 5 ไม่สมบูรณ์

 

แต่ก็ยังออกมาวางแผงโดยธงชัยทำต่อจนเสร็จชื่อว่าอัลบั้ม เปรือย, ตามมาด้วยปี 2546 มีอัลบั้ม ลมใต้ปีก ซึ่งเป็นอัลบั้มแรกที่ใช้ชื่อ คฑาวุธ ทองไทย,

 

ปี 2549 อัลบั้ม ปรายแสด ปี 2550 ออกอัลบั้ม ลัง ซึ่งเป็นการนำอัลบั้ม “ลมใต้ปีก” มาเปลี่ยนชื่อใหม่

 

วงนี้บรรเลงด้วยเครื่องดนตรีที่เรียบง่าย เสียงร้องสำเนียงใต้ มีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ถ้าพูดถึงชื่อ มาลีฮวนน่า คนไทยยุคนั้นต้องร้องอ๋อ

 

 

 

สมาชิก

 

สมาชิกของวง เริ่มต้นที่ คฑาวุธ ทองไทย (ไข่) บ้านเดิมอยู่ ต.ลำไพล อ.เทพา จ.สงขลา เขาเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร

 

 

 

คฑาวุธ ทองไทย (ไข่)

 

 

 

ธงชัย รักษ์รงค์ นักดนตรีที่เล่นตามร้านต่างๆ ทางภาคใต้ และ สมพงศ์ ศิวิโรจน์ ที่กำลังศึกษาที่โรงเรียนไทยวิจิตรศิลป

 

อัลบั้มชุดแรกได้รับการช่วยเหลือจากอาจารย์ยงยุทธ คำศรี แกนนำของวงด้ามขวาน วงดนตรีเพื่อชีวิต จนประสบความสำเร็จมีแฟนเพลงติดตามเหนียวแน่น

 

ภาพปกอัลบั้มเป็นฝีมือของสมพงศ์ ส่วนคฑาวุธได้วาดภาพลายเส้นที่ปกใน ปกอัลบั้มพิมพ์กันที่โรงพิมพ์ของมหาวิทยาลัยศิลปากร ส่วนเทปคาสเส็ทท์ ก็ให้บริษัทออนป้าช่วยก็อปปี้ ให้ทางวงกับเพื่อนๆ ช่วยกันนำไปวางขายตามแผงเทปต่างๆ

 

 

ธงชัย รักษ์รงค์

 

 

 

หน้าที่ของสมาชิก ไข่ คฑาวุธ ร้องนำ เขียนเพลง, ธง ธงชัย ร้องนำ/ กีตาร์โปร่ง กีตาร์ไฟฟ้า, พงศ์ สมพงศ์ แต่งเพลง/ กีตาร์โปร่ง 

 

และในอัลบั้มนี้เองก็ได้มี 2 สมาชิกใหม่เข้ามาเพิ่มในฐานะนักดนตรีสนับสนุนให้กับวง คือ เชิดชัย ศิริโภคา หรือ "โก๊ย" ร้องประสานเสียง เขียนเพลง และกีตาร์โปร่ง และ เจริญชัย สมผลึก หรือ “น้อย” มือกีตาร์

 

ต่อมาปี 2538 บริษัทไมล์สโตน ของมาโนช พุฒตาล ได้ชักชวนวงมาลีฮวนน่าเข้าไปร่วมงาน ยิ่งทำให้พวกเขากลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น จนสามารถออกทัวร์ทั่วประเทศได้ในปีต่อมา

 

ปี 2540 มาลีฮวนน่าก็เปิดบริษัทของตัวเองในชื่อ ดรีม เรคอร์ดส์ ข้อมูลหลายแหลง่ระบุว่า บริษัทนี้เปิดโดยสองแกนนำของวง คือ ไข่ คฑาวุธ กับธง ธงชัย รักษ์รงค์ เป็นหุ้นส่วนใหญ่

 

แต่ข้อมูลหนึ่งระบุว่า เปิดโดย ธงชัย รักษ์รงค์ และ สุนทร รักษ์รงค์ บริษัทนี้ทำงานเกี่ยวกับห้องบันทึกเสียงและค่ายเพลง..!
 โดยออกมาจาก บริษัท ไมล์สโตน สังกัดเดิม ซึ่ง สมพงค์ ศิวิโรจน์ ไม่ได้ตามมาด้วย วงจึงเหลือสมาชิกหลักแค่ ธง ธงชัย กับ ไข่ คทาวุธเท่านั้น..!

 

ปี 2543 วงมาลีฮวนน่า ในสังกัดบริษัทดรีมฯ ของตนเอง ออกอัลบั้ม “เพื่อนเพ” อัลบั้มที่ 4 ของมาลีฮวนน่าออกมาเป็นอัลบั้มแรกในสังกัดบริษัทนี้

 

ระหว่างนั้น มาลีฮวนน่ายังสานต่อผลงานเพลงออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2545 พวกเขาออกอัลบั้มบันทึกการแสดงสด “ระบำสยามทาส” และตามด้วย “ลมใต้ปีก” ในปี 2546

 

ที่สุดสมาชิกของวงจะพักการทำงานดนตรีในนามมาลีฮวนน่าลงชั่วคราว โดยต่างคนต่างก็หันไปทำงานประจำ หรืองานที่ตัวเองสนใจ

 

เช่น คฑาวุธ ทองไทย เป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร ทับแก้ว, ธงชัย รักษ์รงค์ ทำธุรกิจห้องอัดเสียง, สมพงษ์ ศิวิโรจน์ ใช้เวลากับการเขียนเพลง

 

ในรอยต่อหลายปีตรงนี้ ถ้าใครเป็นแฟนตัวจริง วงมาลีอวนน่าจะรู้ว่า ในวงมีรอยร้าปริแยกเกิดขึ้นมากมาย

 

จนสมาชิกคนหนึ่งต้องออกมาแฉหลังเวลาล่วเลยไปเกือบ 20 ปี ถึง สาเหตุที่ “มาลีฮวนน่า” วงแตก เผยแพร่ที่ผู้จัดการออนไลน์วันที้ 8 พ.ค. 2561 

 

แต่วันนี้ เรามาเพื่อรำลึกถึง "น้อย มาลีฮวนน่า" ผู้จากไปเท่านั้น 

 

 

 

 

 

 

 

น้อย ผู้จากไป

 

สำหรับน้อย มาลีฮวนน่า หรือที่เราเรียกกันว่าพี่น้อย ดังที่กล่าวไปแล้วว่า เขาเข้ามาทำงานกับวงในยุคแรก โดยเข้ามาเป็นสมาชิกเพิ่มพร้อมกับ เชิดชัย ศิริโภคา หรือโก๊ย

 

 

 

 

 

แต่พูดได้เลยว่า พี่น้อยคือมาลีฮวนน่าของจริง ตัวจริง ไม่มีใครเถียง ด้วยลีลากีตาร์ที่ไม่มีใครเทียบ มีแฟนคลับมาลีฮวนน่ารักและชื่นชอบพี่น้อยมากมาย

 

แต่แล้ววันที่ไม่มีใครคาดคิดก็มาถึง  26 ธันวาคม 2558 ซึ่งเป็นวันที่วงมาลีฮวนนากำลังรอเล่นดนตรีในงาน เทิดพระเกียรติเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และงานรวมใจชาวชุมพร ที่บริเวณโครงการแก้มลิงหนองใหญ่ 

 

หลังจากที่สมาชิกวงมาลีฮวนน่า ได้เดินทางมากับรถตู้ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวามคม 2558 และเข้าพักที่โรงแรม

 

ปรากฏว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา เมื่อสมาชิกในวงคนหนึ่งไปตาม พี่น้อยเจริญชัย สมผลึก ที่ห้องพัก เพื่อออกไปรับประทานอาหารเช้า แต่พบว่าไม่มีเสียงตอบ จึงเปิดประตูห้องเข้าไปในห้อง

 

ภาพที่เห็นคือ พี่น้อยนอนไม่มีสติอยู่บนเตียงวงจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลธนบุรี-ชุมพร แต่เมื่อถึงโรงพยาบาลแพทย์ ระบุว่าพี่น้อยได้เสียชีวิตไปก่อนแล้ว จากอาการหัวใจวายเฉียบพลัน

 

 

 

 

 

ทั้งนี้ น้อย มาลีฮวนนา เป็นชาว อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เสียชีวิตในวัย 54 ปี ข่าวระบุว่า นางอิ่มใจ สมผลึก มารดาของ “น้อย มาลีฮวนน่า” กล่าวว่าน้อยเขาเป็นลูกคนที่ 6 ของครอบครัว และยังไม่ได้แต่งงาน เป็นคนที่มีนิสัยชอบช่วยเหลือเผื่อแผ่ และมีจิตใจโอบอ้อมอารี ชอบใช้ชีวิตที่เรียบง่าย

 

"ก่อนตายแม่โทร.ไปหาเขาบอกว่านานแล้วลูกไม่กลับบ้านแม่คิดถึง น้อยเขาบอกว่า อีกไม่นานแล้วแม่ หากผมทำงานเก็บเงินได้ตามเป้าผมก็จะกลับมาบ้านเกิด พร้อมทั้งจะเปิดโรงเรียนสอนเด็กๆ หัดเล่นกีตาร์ แต่สุดท้ายน้อยเขาก็หลับไม่ตื่นไปเมื่อเช้านี้ ญาติๆ ที่ทราบข่าวต่างก็รู้สึกเสียใจ” นางอิ่มใจ กล่าว (ข่าวจากผู้จัดการ)

 

หากวันนี้พี่น้อยยังอยู่ เขาจะมีอายุ 58 ปี

 

 

********************************