ศรัทธาสายมู

ผิดหลักฮวงจุ้ย เตือนของ 4 สิ่งห้ามวางไว้บนหัวเตียง อาจทุกข์ยากลำบากทั้งปี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผิดหลักฮวงจุ้ย เตือนของ 4 สิ่งห้ามวางไว้บน 'หัวเตียง' อาจทุกข์ยาก ทำให้ลำบากตลอดทั้งปี ขัดโชค ขัดลาภเจ้าของบ้าน

เตียงนอน ถือเป็นสถานที่พักผ่อนที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ทุกคน ใช้พักผ่อนร่างกาย และสมองจากความเหนื่อยล้า ซึ่งตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว การจัด หัวเตียง ที่ดี จะส่งผลต่อการนอน สุขภาพ และโชคลาภของเจ้าของบ้าน และไม่ควรมีสิ่งของเหล่านี้อยู่บนหัวเตียง เพราะเชื่อว่าผิดหลัก "ฮวงจุ้ย" อาจส่งผลให้เจ้าของทุกข์ยากลำบากทั้งปี

เตือน ของ 4 สิ่งห้ามวางไว้บน หัวเตียง "ผิดหลักฮวงจุ้ย"

พระพุทธรูป

1.พระพุทธรูป

ในมุมมองทางศาสนา การวางพระพุทธรูปไว้ หัวเตียง ถือเป็นการไม่ให้เกียรติผู้บังคับบัญชาและไม่ได้แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ ตามหลัก "ฮวงจุ้ย" การวางพระพุทธรูปในตำแหน่งนี้ หมายถึง การซ่อนโชคลาภ ส่งผลให้เจ้าของบ้านมีปัญหา และข้อจำกัดในด้านการงาน

 

 

มีด

2.มีดและของมีคม

ของมีคม เช่น มีด ดาบ หรือของมีคมอื่นๆ เป็นสิ่งที่เจ้าของบ้านไม่ควรเก็บไว้ที่ หัวเตียง  ตามหลัก "ฮวงจุ้ย" สิ่งเหล่านี้มีพลังทำลายล้างสูง และไม่เหมาะสำหรับการอยู่ในห้องนอน วัตถุเหล่านี้จะนำแรงกดดันมาสู่ชีวิต สร้างความรู้สึกไม่มั่นคง-ปลอดภัย และที่อันตรายที่สุดหากเผลอหรือละเมอไปโดนอาจอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต

 

 

กระจกเงา

3.กระจก หรือ กระจกเงา

กระจกเงา  เป็นสิ่งที่เจ้าของบ้านไม่ควรวางไว้ที่ หัวเตียง หรือด้านตรงข้ามปลายเตียง ตามหลัก "ฮวงจุ้ย" การวางกระจกไว้ที่ หัวเตียง จะทำให้เกิดความรู้สึกวิตกกังวล และไม่มั่นคง การวางกระจกไว้ปลายเตียงทำให้หลายคนกลัวและรู้สึกเหมือนอยู่ในฝัน โดยเฉพาะเมื่อเพิ่งตื่นนอน และยังง่วงอยู่ เมื่อเห็นร่างพร่ามัวในกระจก สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อจิตวิญญาณและสุขภาพของผู้คน

 

 

ภาพคนตาย

4.ภาพถ่ายคนตาย

รูปถ่ายของผู้เสียชีวิต เป็นสิ่งที่ไม่ควรเก็บไว้ข้างเตียง  ตามหลัก "ฮวงจุ้ย" การวางรูปถ่ายผู้เสียชีวิตในตำแหน่ง หัวเตียง นี้ จะสร้างอารมณ์และความฝันที่ไม่ควรฝัน ซึ่งไม่ดีต่อการนอนหลับ และสุขภาพของคุณ

 

แม้ว่าคุณจะรักและคิดถึงญาติที่จากไปแค่ไหน ก็ควรหลีกเลี่ยงการวางรูปถ่ายไว้บนหัวเตียง ทางที่ดีควรรักษารูปถ่ายในที่ๆ เหมาะสม และสะอาด เพื่อช่วยในการรำลึกและแสดงความเคารพต่อจากไป

 

โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม 

 

 

ข้อมูลอ้างอิงจาก : phunutoday

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ