'จูน เพ็ญชุลี' เปิดใจ ยังรัก 'หนุ่ม กะลา' รู้สึกดีหลังรับปากเลิกยุ่งสาว

ประเด็นร้อนแรงกรณี "นักร้องเสียงนุ่ม" ที่หลายคนต่างหาคำตอบมากว่าสัปดาห์ ก่อนจะเฉลยแล้วว่า คือ "หนุ่ม กะลา" นักร้องดังเจ้าของเพลงอกหัก และเพลงเศร้าที่ไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ได้ออกมาเปิดใจในรายการโหนกระแส ก่อนที่ทางด้านของ "จูน เพ็ญชุลี" ภรรยาสาวจะออกมาพูดกับสื่อครั้งแรกหลังจบรายการ 

"จูน เพ็ญชุลี" เปิดใจว่า "ณ ตอนนี้ถ้ากับตัวสามีมันก็ต้องใช้เวลา ตอนแรกที่คุยกันมีคำว่าหย่าหลุดออกไป มันก็คิดแบบนั้นจริงๆ ถ้าคุยกันแล้วความรู้สึกมันไม่เหมือนเดิม ส่วนเรื่องหย่ามันง่ายนิดเดียวแค่เซ็นหย่า ตอนนี้เราก็แยกกันอยู่ๆแล้ว รักษาจิตใจตัวเอง โฟกัสเรื่องลูกอันดับหนึ่ง บอกตอนนี้ที่ได้พูดออกมารู้สึกโล่งมากๆ สิ่งที่เราเก็บมาเป็นปีๆมันหลุดออกมา เราจะได้ไม่ต้องกล้ำกลืนฝืนทน พูดกับใครก็ไม่ได้"

(ถามต่อ ในรายการ คุณหนุ่มได้ขอโทษคุณจูนและทุกคน ถือเป็นการขอโทษครั้งแรกไหม?) "ช่วงที่จับได้ตอนแรกเขาก็ขอโทษ แต่พฤติกรรมที่ขอโทษแล้วทำต่อคืออะไร แต่วันนี้ผลของการกระทำเขามันเห็นแล้ว ตนรู้สึกว่าเขาก็ได้รับผลเยอะมากแล้ว เขาขอโทษเราครั้งนี้ เขาคงสำนึกรู้สึกผิด ซึ่งก่อนหน้านี้ช่วงแรกๆเวลามีปัญหากันเขาก็ขอโทษ ช่วงหลังจะเป็นการขอโทษกันมากกว่า"

(พี่หนุ่มยืนยันว่าเลิกกับอีกฝั่ง?) "รู้สึกดี ใครจะอยากให้สามีเราไปยุ่งกับคนอื่น มันคือสิ่งที่เขาควรทำอยู่แล้ว ถ้าถามว่าเรามีใจอ่อนไหม มันก็ยังต้องฮีลใจตัวเองต่อไป เพราะมันมีกระแสเยอะมากที่เข้ามาหา แค่พูดขอโทษแล้วจบ มันไม่ใช่นิยาย มันต้องใช้เวลา ในพาร์ทครอบครัวก็เป็นพ่อแม่ช่วยกันดูแลลูก ในส่วนความรักสามีภรรยา เราก็เป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว บอกนาทีนี้เราก็ไม่ได้อยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม อยู่แบบนี้มันก็สบายใจดี แต่ก็ไม่รู้ในอนาคตเผื่อเขาพิสูจน์ตัวเองหรืออะไรก็ตาม เดี๋ยวจะหาว่าเราพูดไม่ตรง เลยเอาเป็นว่านาทีนี้ยังอยากแยกอยู่ จะเซ็นเมื่อไหร่ก็รอดูข้อกฎหมาย"

(ตอนนี้ยังรักอยู่ไหม?) "ตอบตามตรงคนเคยรักกัน ยังรักและเห็นห่วง จากที่เขาโดนตนรู้ว่าเขาหนัก จริงๆเขาเป็นคนใจบาง เขาอาจจะตอบไม่รู้เรื่องรู้ราว ตนมั่นใจว่ารู้จักเขาดี ตลอดเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา ตนอยากให้สังคมให้อภัยเขา เขาก็ได้รับบทเรียนของเขาแล้ว ตนพูดคำเดิม ไม่ได้อยากเห็นใครพังทลาย วินาศสันตะโร ยิ่งเขาเป็นคนในครอบครัว เป็นสามี เราก็ไม่ได้อยากเห็นเขาล้ม แต่ก็ต้องดูว่าเขาตั้งใจแก้ไขจริงไหม เพราะสุดท้ายมันก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีผลถึงลูกอยู่แล้ว"

(กรณีมือที่สาม กังวลไหมหลังจากนี้จะมีแซะอีก?) "ถ้าเขายังอยากมาอยู่ เราก็อยากใช้กฎหมาย เราคงไม่ได้ทำอะไรเขา ถ้าอยากทำเราทำไปนานแล้วแหละ"

(ในส่วนเรื่องรายได้ของทางแกรมมี่?) "อยากเคลียร์ว่า ตั้งแต่ไหนแต่ไรเงินมันก็อยู่กับตนอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าตนจับได้แล้วยึดเงิน อีกอย่างเราเปิดเป็นบัญชีบริษัท ฉะนั้นการบริหารบริษัทเป็นหน้าที่ของตนอยู่แล้ว เวลาไปรับเช็คก็เป็นหน้าที่ของตน ทุกวันนี้ตนก็ให้เขาเป็นเงินเดือน เขาอยากได้อะไรเขาก็ขอ เพียงแต่พอเราแยกเขาไป ถ้าอยากได้อะไรก็อาจจะไม่กล้าขอ บอกส่วนใหญ่เขาก็ขอในเรื่องของงาน บอกเรื่องเงินก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา"

"ถ้าเขาอยากซื้ออะไรเป็นแสน เป็นล้าน เราก็ยอมรับว่าไม่ให้ แต่มันก็เป็นเรื่องปกติของสามีภรรยา ถ้าถามว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาไปมีคนอื่นที่เปย์เขาแทนไหม ตนว่าจริงๆเราก็มีเงิน แต่เอาเป็นว่าถ้าเขาจะซื้อแบรนด์เนมหรือสร้อย 5หมื่น เราก็ไม่ให้ ถ้าคนอื่นมีมาให้เขาอาจจะชอบ หรือแฮปปี้ตรงนั้น แต่ถ้าเป็นสาเหตุที่ไปชอบผู้หญิงเปย์ไหม ตนว่าถ้าใครเปย์เรา เราก็ชอบ แต่จะไปรักเขาหรือไม่ มันก็อยู่แต่ละคนมากกว่า ส่วนเขาจะเอาประเด็นนี้ไปพูดกับครอบครัวเขาด้วยไหมตนไม่รู้"

(กับทางครอบครัวของพี่หนุ่ม ความสัมพันธ์เป็นยังไง?) "ระยะเวลาหลายปี มันก็มีดีบ้าง ไม่ดีบ้าง กระทบกระทั่งกันบ้าง ตนไม่แน่ใจที่เขาโพสต์ออกมา เขาไปได้ยินอะไรมา หรือเข้าใจผิดอะไร ด้วยอารมณ์ ที่ไม่ได้กลั่นกรอง ถึงโพสต์ไป ส่วนเรื่องที่คุณแม่เขาไปญี่ปุ่นกับอีกฝั่ง ที่ไม่ใช่ตน ตนก็ตกใจ ว่ามันคือยังไง เราไม่รู้ในส่วนนี้จริงๆ บอกตั้งแต่มีเรื่องก็ไม่ได้คุยกับทางคุณแม่ และน้องสาวพี่หนุ่มเลย และเรื่องที่ในอินเทอร์เน็ตบอกว่าพี่หนุ่มเคยมีลูกมาอยู่แล้ว ตนไม่รู้ ไม่ขอตอบ"

(ในเรื่องของการฟ้อง?) "ยืนยันว่ายังฟ้องเหมือนเดิม 10 ล้านก็ตามสมควร" 

(ก่อนหน้าอีกฝั่งแซะมาเยอะ มีอะไรจะบอกเขาไหม?) "เขาเคยอยากให้เราติดต่อไป เราก็ไม่เห็นประโยชน์ในการติดต่อไป ณ วันนั้น แต่วันนี้เดี๋ยวจะให้ทางทนายเราติดต่อไป ถ้าอยากคุยกันก็ไปเจอกันที่ศาล พูดกันด้วยหลักฐาน ตนก็มั่นใจในหลักฐานที่มี"

(เรื่องการแยกกันอยู่ว่า?) "เวลารับจับได้ ไม่ว่าจะเป็นใครมันก็เสียความรู้สึก ยิ่งเรามีลูกเล็ก ต้องเลี้ยงลูก ทำงานด้วย ถ้าเรามัวมาทะเลาะกัน บรรยากาศในบ้านลูกก็จะรับรู้ได้ เราเลยคิดว่าแยกกันอยู่ไปก่อนดีกว่า ให้เขากลับไปอยู่กับคุณแม่เขาก่อน บอกเราคิดว่าไม่ว่าจะอยู่ด้วยกันหรือแยกกัน ถ้าเขาจะทำเขาก็ทำ ไม่ทำก็ไม่ทำ ตนไม่ได้มีความคิดว่าเป็นเพราะไล่ไปเขาถึงไปมีคนอื่น ซึ่งระหว่างที่เขาแยกออกไป เขาก็มีกลับมาหาลูกเป็นปกติ บ่อยครั้ง  เพียงแค่ไม่ได้นอนบ้านเดียวกัน มาเล่นกับลูก ดึกๆก็กลับไป ตนไม่ได้ขัดขวางอะไร เขายังเป็นพ่อของลูก"

(ถามต่อ อยากให้เรื่องนี้จบยังไง?) "กับหนุ่มในเรื่องสามีภรรยา ความรัก ยังพูดเหมือนเดิม ขอให้เวลาดูแลรักษาใจ ดูการกระทำของเขา แต่ถ้าวันนี้คงเป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างถ้าเห็นประโยชน์ของลูกสำคัญ ก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ นาทีนี้ไม่ได้เกลียดเขา เขาได้รับบทเรียนที่สาหัสแล้ว ถ้าถามว่าอะไรทำให้ตนแข็งแรง ตนก็บอกว่า ลูก พอเรามีลูกเราก็โฟกัสที่ลูก วันนี้ถ้าไม่มีก็เลี้ยงลูกได้ มันผ่านความเจ็บปวดมาแล้ว ถ้าจบที่แยกกัน หย่ากัน ตนรับได้ ดูแลตัวเองได้ พร้อมขอบคุณแฟนๆทุกคนที่ให้กำลังใจมาเยอะมาก ตนรู้สึกตั้งแต่แรกแล้วว่าเราไม่ใช่คนผิด ไม่จำเป็นต้องอาย พอวันนี้คนให้กำลังใจตนก็ดีใจที่มีคนเข้าใจ"

(สุดท้ายหนึ่งเพลงที่อยากจะให้ "หนุ่ม กะลา" ?) "พูดขำๆ ก็น่าจะเพลง เอาคืนมา ด้านทนายเผยทิ้งท้าย จะดำเนินการฟ้องภายในสิ้นเดือนนี้ และด้วยหลักฐานคาดว่าน่าจะชนะคดี"