โชกโชน ไม่ธรรมดา ประวัติ เส้นทางชีวิต 'สมรักษ์' อดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิก

สำหรับประวัติและเส้นทางชีวิตของ "สมรักษ์ คำสิงห์" เจ้าของฉายา "ไม่ได้โม้"

 

• "สมรักษ์ คำสิงห์" เกิดเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2516 ซึ่งในอดีตนั้นที่บ้านมีฐานะยากจนมาก

 

• เริ่มเข้าสู่วงการมวย เพราะพ่อเป็นนักมวยเก่า ทำให้ได้ฝึกชกมวยมาเรื่อยๆ ขึ้นชกครั้งแรกตอนอายุ 7 ขวบ 

 

• จากนั้น ปี 2528 ถูกทาบทามจากสโมสรราชนาวี ให้ชกมวยสากลสมัครเล่น และเข้าทีมชาติตอนปี 2535 

 

• ปี 2538 คว้าเหรียญทองโอลิมปิก ถูกยกให้เป็นประวัติศาสตร์ มีการออกแสตมป์ที่มีรูปการชกรอบชิงชนะเลิศ ราคาดวงละ 6 บาท เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเหตุการณ์นี้

 

• จากนั้น สมรักษ์ เข้าสู่วงการบันเทิง เล่นละครเรื่อง "นายขนมต้ม" โดยรับบทเป็นพระเอก ประกบคู่กับ "น้ำฝน กุลณัฐ"

 

• มีข่าวว่า สมรักษ์ ซ้อมมวยน้อยลงบ้าง หนีซ้อมบ้าง โดยเจ้าตัวยืนยันว่าฝีมือของตัวเองยังคงเหมือนเดิม ถึงขนาดทำนายผลการชกล่วงหน้า ซึ่งก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง จนได้ฉายาว่า "โม้อมตะ"

 

• หลังจากนั้น ในปี 2541 สมรักษ์ ได้เหรียญทองกีฬาเอเชียนเกมส์

 

• ปี 2543 สมรักษ์ ไม่ประสบความสำเร็จ ในการแข่งขันโอลิมปิก ที่ซิดนีย์ รวมถึงโอลิมปิก ที่กรุงเอเธนส์ ในปี 2547 ทำให้เลิกชกมวยสากลสมัครเล่นอย่างเด็ดขาด

• กลับมาขึ้นชกอีกครั้ง ในปี 2555 กับยอดวันเผด็จ สุวรรณวิจิตร ในการชกนัดพิเศษ ที่เวทีราชดำเนิน มีเงินเดิมพันถึง 5,770,000 บาท ผลการชกปรากฏว่าสมรักษ์เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ในยกที่ 3 ด้วยการฟันศอกใส่ จนกรรมการต้องยุติการชก ซึ่งการชกนัดนี้ยังสามารถเก็บเงินค่าผ่านประตูได้สูงถึง 2,950,000 บาท ยอดผู้ชมกว่า 20,000 คน และหลังจากนั้นสมรักษ์ยังได้ขึ้นชกมวยอีกหลายครั้ง

 

• กระทั่งปี 2557 สมรักษ์ ต้องขึ้นชกกับ ฟิลิปเป บัวส์ นักมวยไทยชาวฝรั่งเศส ที่เวทีมวยชั่วคราว แต่เมื่อถึงเวลาชกแล้ว เจ้าตัวกลับไม่ได้อยู่เวทีหรือห้องพัก ติดต่อไม่ได้แต่อย่างใด ก่อนออกมาเผยว่า ติดถ่ายละคร ไม่มีเวลาซ้อม เกรงว่าจะชกสู้ไม่ได้ ยินดีจะคืนเงินมัดจำทั้งหมด พร้อมเปรยว่าจะแขวนนวมแล้ว เนื่องจากอายุมากถึง 41 ปี หากจะชก จะเป็นการชกโชว์เท่านั้น

 

• จากนั้น "สมรักษ์ คำสิงห์" ก็มีผลงานในวงการบันเทิงมาเรื่อยๆ ทั้งละคร ภาพยนตร์ อาทิ เพชรตัดเพชร , ผู้กองเจ้าเสน่ห์ , นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว , เสือสั่งฟ้า , ลิเกหมัดสั่ง , นายฮ้อยทมิฬ เป็นต้น ทั้งยังเปิดธุรกิจ ร้านหมูกระทะ ชื่อ "สมรักษ์ย่างเกาหลี" และมีค่ายมวยของตนเอง ชื่อค่าย "ส.คำสิงห์"

• และนอกจากนี้ ชีวิตครอบครัวของ "สมรักษ์ คำสิงห์" ได้สมรสกับ "เสาวนีย์ คำสิงห์" มีบุตรด้วยกัน 2 คน คือ "เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์" ลูกสาวคนโต และ "โบ๊ท ภูวรักษ์ คำสิงห์" ลูกชายคนเล็ก

 

• "สมรักษ์ คำสิงห์" เคยล้มละลาย หมดตัวทั้งบ้าน ทั้งค่ายมวย และร้านอาหาร ถูกยึดหมด แถมยังถูกหมายศาลแจ้งว่าเป็นหนี้อีกถึง 9 ล้านบาท ตอนปี 2563 แต่กลับมายืนได้อีกครั้ง เพราะลูกสาวลูกชาย ที่ช่วยกันทำช่องยูทูบ จนมีผู้ติดตามหลายล้านคน กลายเป็นรายได้เลี้ยงครอบครัว

• ทั้งนี้ "สมรักษ์ คำสิงห์" เคยลงการเมืองด้วย โดยปี 2566 ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 11 จังหวัดขอนแก่น สังกัดพรรคพลังประชารัฐ แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง และหากย้อนกลับไป ตอนปี 2554 สมรักษ์ เคยเปิดตัวเป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา ร่วมกับเพื่อนนักมวยอีก 3 คน ได้แก่ เขาทราย แกแล็คซี่ , มนัส บุญจำนงค์ และเจริญทอง เกียรติบ้านช่อง โดยสมรักษ์ลงรับสมัครเลือกตั้งในเขต 10 อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้งเช่นกัน 

ขอบคุณข้อมูล วิกิพีเดีย , รายการตีท้ายครัว