Lifestyle

ลดโหนกแก้ม มีกี่วิธี เลือกทำวิธีไหนให้หน้าดูอ่อนและเหมาะกับเรา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หากใครที่กำลังพบว่าตัวเองคนมีปัญหาโหนกแก้มใหญ่นูน หนาออกข้าง หรือโหนกแก้มสูง ทำให้ใบหน้าดูดุ และแก่กว่าวัย กำลังเลือกไม่ถูกว่าจะแก้ไขด้วยวิธีไหนดี เพื่อจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลายเป็นคนหน้าอ่อนหวาน และดูเด็กขึ้น บทความนี้มีคำตอบ

โหนกแก้ม คืออะไร?
โหนกแก้มเป็นตำแหน่งที่นูนกลมขึ้นมา เกิดได้จากกระดูก กล้ามเนื้อ และไขมัน เป็นส่วนหนึ่งในการวัดความสมส่วนของโครงหน้า อยู่บริเวณร่องใต้ไขมันตาและข้างกระบอกตายาวเป็นแนวนอนจนถึงหน้ารูหู และขนานเป็นแนวตั้งกับแกนจมูกทั้งด้านซ้ายและด้านขวา จะเห็นได้ชัดในผู้ที่มีขนาดโหนกแก้มนูนเด่นออกมาทั้งในขณะปกติ และในขณะยิ้ม ซึ่งเป็นอีกตำแหน่งหนึ่งที่แยกได้ชัดในเพศชายและเพศหญิง
 

สำหรับเพศชายจะมีโหนกแก้มขนาดใหญ่ และสูงมองเห็นได้ชัดเจน ทำให้ใบหน้าดูเข้มดุ ในขณะที่เพศหญิงมักจะมีโหนกแก้มเล็ก ไม่นูนเด่นออกมา แต่ผู้หญิงหลายคนก็มีโหนกแก้มสูงได้เหมือนกัน ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้พยายามหาทางแก้ไขเพื่อลดโหนกแก้มที่มีเยอะเกินไป ให้เล็กลงและสวยสมส่วนทุกมิติ


โหนกแก้มแบบไหน ที่ควรแก้ไข
ลักษณะโหนกแก้ม ที่ไม่สมส่วนในทางสรีระโครงหน้ามนุษย์แบ่งออกได้ 5 ลักษณะดังนี้

  • โหนกแก้มสูงและยื่นออกมาด้านหน้า
  • โหนกแก้มสูงและยื่นออกมาไปด้านข้าง
  • โหนกแก้มสูงและแหลมนูนออกมา
  • โหนกแก้มฐานแคบและแหลม
  • โหนกแก้มสูงและฐานใหญ่หนา จนทำให้มีลักษณะโครงหน้าใหญ่


วิธีลดโหนกแก้ม ให้สวยมีมิติ
สำหรับการลดโหนกแก้ม สามารถทำได้ 2 วิธี ทั้งการหัตถการเสริมความงาม และการผ่าตัดศัลยกรรมลดโหนกแก้ม และแต่ละวิธีมีข้อดี-ข้อเสีย และความเหมาะสมในแต่ละปัญหาแตกต่างกันดังนี้

1. ลดโหนกแก้มด้วยหัตถการความงาม

  • ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) สลายไขมันโหนกแก้ม
    เป็นหัตถการแก้ปัญหาโหนกแก้มอันเกิดจากไขมันสะสม โดยการฉีดสารสลายไขมันส่วนเกินบริเวณโหนกแก้มออกไปประมาณ 20-30% จากไขมันตั้งต้นให้แตกตัวและถูกกำจัดออกผ่านของเสียภายในร่างกาย


ข้อดีของการฉีดเมโซแฟต สลายไขมันโหนกแก้ม

  • ไม่ต้องพักฟื้น ฉีดเสร็จสามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ในชีวิตประจำวันได้
  • ไม่มีรอยแผล บวมช้ำน้อยมาก เพราะไม่ใช่การผ่าตัด


ข้อเสียของการฉีดเมโซแฟต สลายไขมันโหนกแก้ม

  • ผลลัพธ์ไม่อยู่ถาวร จะอยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน 
  • หากอยากให้ผลลัพธ์อยู่นานขึ้น ควรคุมน้ำหนักตัวด้วยการเลือกกินอาหารไขมันต่ำ หวานน้อย ไม่กินของทอด ของมัน เพื่อไม่ให้ปริมาณไขมันส่วนเกินก็จะกลับมาเหมือนเดิม


ฉีดเมโซแฟต สลายไขมันโหนกแก้ม เหมาะกับใคร 

  • ผู้ที่มีโหนกแก้มใหญ่หนาจากชั้นไขมันเท่านั้น
  • ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี
  • คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิตผิดปกติ
  • ผู้ที่กำลังใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด

 

ลดโหนกแก้ม มีกี่วิธี เลือกทำวิธีไหนให้หน้าดูอ่อนและเหมาะกับเรา

 

  • ฉีดโบท็อกซ์ลดโหนกแก้ม
    เป็นการฉีดสารสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin A) ที่จะเข้าไปช่วยหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อ (zygomaticus)บริเวณโหนกแก้ม ที่แน่นแข็งให้คลายตัวและเล็กลง ทำให้ใบหน้าที่ดุแข็ง กลับอ่อนหวาน และอ่อนเยาว์


ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์ลดโหนกแก้ม

  • เห็นผลไว เพราะสามารถเห็นผลถึงการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด และจะเห็นผลชัดเจนสุดประมาณ 1 - 2 สัปดาห์
  • สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น เช่น ร้อยไหม เพื่อช่วยลดกรอบหน้าบริเวณกราม เพื่อผลลัพธ์ที่ครอบคลุมมากที่สุด
  • ช่วยลดริ้วรอยบริเวณใกล้เคียงโหนกแก้ม เช่น ริ้วรอยบริเวณหางตา เป็นต้น


ข้อเสียของการฉีดโบท็อกซ์ลดโหนกแก้ม

  • มีอาการบวม แดง เขียวช้ำ จากการฉีดโบท็อกซ์ ซึ่งจะหายเป็นปกติได้เองประมาณ  1 - 2 สัปดาห์
  • ผลลัพธ์ไม่ถาวร การฉีดโบท็อกซ์จะอยู่ได้นานประมาณ 3 - 8 เดือน หากต้องการคงผลลัพธ์ต่อเนื่อง จะต้องฉีดใหม่
  • ได้ขนาดโหนกแก้มไม่เท่ากัน หากฉีดในปริมาณที่น้อยหรือมากเกินไปในข้างใดข้างหนึ่ง
  • ในบางรายอาจปวดศีรษะหรือปวดบริเวณที่ฉีด แต่จะหายเป็นปกติในเวลาไม่นาน


การฉีดโบท็อกซ์ลดโหนกแก้ม เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีปัญหาโหนกแก้มใหญ่จากกล้ามเนื้อเป็นหลัก
  • ผู้ที่มีปัญหาโหนกแก้มใหญ่ไม่มากนัก ร่วมกับมีปัญหาริ้วรอยให้บริเวณใกล้เคียง

 

  • ร้อยไหม กระชับโหนกแก้ม
    เป็นหัตถการความงามด้วยการร้อยไหมพิเศษเป็นแนวกระชับขึ้นเพื่อเก็บโหนกแก้มที่ใหญ่บานให้มีขนาดเล็กลงพร้อมๆ กับได้สัดส่วนที่พอเหมาะกับตำแหน่งอื่นๆ ของโครงหน้า 

 

ข้อดีของการร้อยไหม กระชับโหนกแก้ม

  • ช่วยยกกระชับโหนกแก้มให้ได้รูปทรง พร้อมๆ กับยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย เหี่ยวย่น
  • ช่วยแก้ปัญหาผู้ที่มีแก้มตอบ และต้องการยกกระชับแก้มให้กลับมาเต่งตึง
  • ฟื้นฟูเซลล์ผิวให้แข็งแรง รูขุมขนเล็กลงจากไหมที่ร้อยเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิว


ข้อเสียของการร้อยไหม กระชับโหนกแก้ม

  • มีอาการบวม เขียวช้ำ บริเวณแนวไหม แต่จะค่อยๆ หายไปเองใน 1-2 สัปดาห์
  • มีความรู้สึกตึงและไม่สบายผิวหน้าในช่วง 1-3 วันหลังทำ
  • ช่วงแรกอาจอ้าปากมากไม่ได้ เพราะผิวจะตึงๆ จากไหมที่ยึดกระชับโหนกแก้ม
  • อาจเกิดรอยบุ๋ม ไม่เรียบเนียนตามรอยแนวไหม หากทำโดยแพทย์ไม่เชี่ยวชาญ
  • อาจทำให้โหนกแก้มสูงขึ้นกว่าเดิม หากแพทย์ออกแบบการร้อยไหมผิด


ร้อยไหม กระชับโหนกแก้ม เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมช่วงแก้ม และหย่อนคล้อย
  • ผู้ที่มีโหนกแก้มชัด แต่ต้องการจัดไขมันที่มีเยอะจนหย่อนคล้อยให้ได้สัดส่วน

 

  • ไฮฟู่ HIFU เพื่อกระชับโหนกแก้ม
    การทำไฮฟู่ (High-intensity Focused Ultrasound: HIFU) เป็นการใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ ยิงลงไปบริเวณผิวโหนกแก้ม เพื่อปรับเรียงชั้นผิวที่กระจุกตัวกันให้เป็นระเบียบ ทำให้โหนกแก้มที่นูนบวมไม่ได้รูปทรงที่สวยงาม กลับมามีความสมดุล และกระชับผิวที่เหี่ยวย่นให้เรียบตึงได้ไปในคราวเดียวกัน


ข้อดีของการทำ HIFU เพื่อกระชับโหนกแก้ม

  • ไม่เสียเวลาพักฟื้น
  • ไม่มีแผลเป็น เพราะไม่ใช่การผ่าตัด
  • เห็นการเปลี่ยนแปลงหลังทำทันที
  • ปรับโหนกแก้มได้พร้อมๆ กับกระชับผิวให้เต่งตึง
  • แม่นยำทุกจุด เพราะหัวยิงมีการประมวลผลระดับความลึกของชั้นผิว
  • ราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับการยกกระชับโหนกแก้มด้วยพลังคลื่นชนิดอื่น
  • ยิ่งทำซ้ำ ยิ่งให้ผลที่นานและต่อเนื่อง

 

ข้อเสียของการทำ HIFU เพื่อกระชับโหนกแก้ม

  • เสี่ยงผิวไหม้ หากทำกับเครื่อง HIFU คุณภาพต่ำ 
  • ให้ผลเสียในผู้ที่มีบาดแผลและยังรักษาไม่หายดี เช่นแผลเปิด สิวหัวอักเสบ เป็นต้น
  • ทำให้ใบหน้าบวม หรือปากเบี้ยวได้ หากแพทย์ไม่ชำนาญในตำแหน่งมากพอ อาจยิงโดนเส้นประสาท 
  • อยู่ได้ไม่นาน เฉลี่ยประมาณ 5-6 เดือน

 

HIFU เพื่อกระชับโหนกแก้ม เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีปัญหาโหนกแก้มเยอะ
  • ผู้ที่มีปัญหาโหนกแก้มสูง
  • ผู้ที่มีปัญหาโหนกแก้มเยอะ และสูง พร้อมๆ กับมีปัญหาริ้วรอยในบริเวณใกล้เคียง

 

  • เทอร์มาจ (Thermage) ปรับบริเวณโหนกแก้ม
    การทำเทอร์มาจ เป็นการใช้ พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง (Monopolar RF) เข้าไปลดมิติโหนกแก้มในชั้นผิวและชั้นไขมันได้ในระยะกว้างและใหญ่กว่าวิธีไฮฟู่ และช่วยกระชับผิวลบริ้วรอยแห่งวัยได้ดี

 

ข้อดีของการทำ Thermage ปรับบริเวณโหนกแก้ม

  • ไม่ต้องพักฟื้น
  • ไม่มีแผล ไม่ต้องดูแลตัวเองมาก
  • ใช้เวลาทำไม่นาน อย่างตำอยู่ที่ 40 นาที และสูงสุดไม่เกิน 90 นาที
  • เห็นผลชัดและยาวนาน 1 - 2 ปี

 

ข้อเสียของการทำ Thermage ปรับบริเวณโหนกแก้ม

  • เกิดรอยแดงหลังทำเสร็จ แต่จะค่อยๆ หายเป็นปกติใน 1-2 ชั่วโมงโดยไม่ต้องกังวล
  • ทำให้ผิวไหม้ (Burn) หากแพทย์กำหนดคลื่นพลังงานความร้อนไม่เหมาะสม
  • อาจทำให้ใบหน้าเบี้ยว หรือรูปทรงโหนกแก้มไม่เท่ากัน หากแพทย์ส่งพลังงานไปกระทบกับเส้นประสาท

 

Thermage ปรับบริเวณโหนกแก้ม เหมาะกับใคร

  • เหมาะกับผู้ที่มีโหนกแก้มเยอะเป็นวงกว้าง ใหญ่เพราะไขมันสะสมเป็นหลัก
  • เหมาะกับผู้ที่มีโหนกแก้มห้อยย้อยจากการมีไขมันส่วนเกิน ซึ่งมักเกิดในผู้ที่มีอายุเยอะ

 

 

ลดโหนกแก้ม มีกี่วิธี เลือกทำวิธีไหนให้หน้าดูอ่อนและเหมาะกับเรา

 

  • ฉีดไขมัน-ฉีดฟิลเลอร์ ปรับผิวโหนกแก้ม
    การฉีดไขมัน และสารเติมเต็มฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่ใช้เข็มฉีดยาฉีดนำสารเข้าไปปรับพื้นผิวบริเวณโหนกแก้มที่ตอบ ดูโทรม ผิวเหี่ยวและมีริ้วรอย ให้ได้สัดส่วนที่สมบูรณ์และทำให้โครงหน้ากลับมาสดใส ดูอ่อนเยาว์ มักทำเพื่อเสริมโหงวเฮ้งที่ดีอีกด้วย

 

ข้อดีของการฉีดไขมัน-ฉีดฟิลเลอร์ ปรับผิวโหนกแก้ม

  • ปลอดภัยสูง เพราะเป็นไขมันของคนไข้เอง และหากเป็นฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic Acid เสี่ยงให้เกิดการแพ้ได้น้อยมาก
  • เจ็บตัวน้อย เพราะไม่ใช่การผ่าตัดขนาดใหญ่
  • ไม่ต้องพักฟื้น ทำเสร็จเดินทางกลับบ้านได้ทันที
  • เห็นผลชัดตั้งแต่หลังทำเสร็จ

 

ข้อเสียของการฉีดไขมัน-ฉีดฟิลเลอร์ ปรับผิวโหนกแก้ม

  • ให้ผลลัพธ์ไม่ถาวร ในกรณีฉีดฟิลเลอร์จะอยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน หากฉีดไขมันความคงสภาพจะขึ้นอยู่กับสเต็มเซลล์ของร่างกายเราเอง หากอายุมากขึ้น สภาพผิวเหี่ยวลง ไขมันใต้ชั้นผิวก็ลดลงไปด้วย
  • ฉีดไขมัน-ฉีดฟิลเลอร์ ปรับผิวโหนกแก้ม เหมาะกับใคร
  • ผู้ที่มีแก้มตอบ โหนกแก้มยุบตัว อันเกิดจากกรรมพันธุ์
  • ผู้ที่มีไขมันใบหน้าน้อย ที่เกิดได้ทั้งจากกรรมพันธ์ุและอายุที่มากขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มโหนกแก้ม ปรับสมดุลใบหน้าให้มีมิติขึ้น

 

2. ลดโหนกแก้มด้วยการศัลยกรรมผ่าตัด

 

เอกซเรย์ก่อนหลังผ่าตัดลดโหนกแก้ม

 

 

  • กรอกระดูกโหนกแก้ม
    เป็นการผ่าตัดเพื่อปรับแต่งกระดูกโหนกแก้มที่สูง หรือมีมากจนเกินไป ทำให้ใบหน้าดูแข็งดุ และแก่กว่าวัย ซึ่งแพทย์จะทำการเปิดแผลผ่าตัดจากในช่องปาก และเอาเครื่องมือที่มีเทคนิคพิเศษส่งเข้าไป กรอหรือเหลากระดูกบริเวณโหนกแก้ม แล้วจึงทำการเย็บปิดปากแผล

 

ข้อดีของการกรอกระดูกโหนกแก้ม

  • ไม่มีแผลหลังผ่าตัด เนื่องจากแผลผ่าตัดอยู่ด้านในกระพุ้งแก้ม

 

ข้อเสียของการกรอกระดูกโหนกแก้ม

  • มีอาการปวด บวม ซึ่งต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน
  • สามารถกรอได้แค่กระดูกโหนกแก้มด้านข้างเท่านั้น

 

กรอกระดูกโหนกแก้ม เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีโหนกแก้มสูง หรือนูน แต่ไม่มากนัก
  • ผู้ที่ต้องการปรับโครงสร้างหน้าบริเวณโหนกแก้มให้ละมุนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

ลดโหนกแก้ม มีกี่วิธี เลือกทำวิธีไหนให้หน้าดูอ่อนและเหมาะกับเรา

 

  • ผ่าตัดเพื่อตัดกระดูกโหนกแก้ม
    ใช้วิธีเปิดปากแผลบริเวณหนือหู และผ่าตัดก้านกระดูกโหนกแก้ม (Zygoma arch)ส่วนหน้าบางส่วน และส่วนหลังบางส่วน หลังจากนั้นหมุนกระดูกโหนกแก้มเข้าไปด้านหลัง และยึดด้วยสกรูและแพลต หากยังมีส่วนโหนกแก้มเกินยื่นออกมาไม่เรียบเนียน แพทย์จะใช้วิธีกรอตกแต่งให้เรียบ จากนั้นก็เย็บปิดปากแผล 

 

 

ลดโหนกแก้ม มีกี่วิธี เลือกทำวิธีไหนให้หน้าดูอ่อนและเหมาะกับเรา

 

 

ข้อดีของผ่าตัดกระดูกโหนกแก้ม

  • ให้ผลลัพธ์ถาวรตลอดชีวิต
  • สามารถเปลี่ยนตำแหน่งโหนกแก้มได้อย่างสมส่วน
  • ขนาดของโหนกแก้มเล็กลงอย่างเป็นธรรมชาติมากกว่าวิธีอื่น
  • ทำให้ใบหน้าเรียวเล็กลง


ข้อเสียผ่าตัดกระดูกโหนกแก้ม

  • เวลาเคี้ยวอาหาร หรือกลืนน้ำลายเกิดเสียงดังแก๊กๆ เป็นผลมาจากแพทย์ยึดกระดูกไม่แข็งแรงพอ เมื่อเวลาผ่านไปเกิดช่องว่างระหว่างกระดูก
  • แก้มหย่อนคล้อย อันเกิดจากการลดโหนกแก้ม ซึ่งมักเกิดในผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยเยอะ หรือผู้ที่อายุเยอะ
  • ใช้เวลาพักฟื้นนาน จำเป็นต้องดูแลรักษาหลังการผ่าตัดอย่างเคร่งครัดตามแพทย์สั่ง

 

ลดโหนกแก้ม มีกี่วิธี เลือกทำวิธีไหนให้หน้าดูอ่อนและเหมาะกับเรา

 

ผ่าตัดกระดูกโหนกแก้ม เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีโหนกแก้มใหญ่ นูน และบานออกด้านข้างเยอะ
  • ผู้ที่มีโหนกแก้มสูงมาก
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน


สรุป
หากเป็นคนที่มีปัญหาโหนกแก้มเยอะ อันเกิดจากไขมัน และกล้ามเนื้อ เหมาะกับหัตถการเข็มฉีดยา เช่นการทำเมโสแฟต การฉีดโบท็อกซ์ เป็นวิธีที่แก้ปัญหาตรงจุด และให้ผลลัพธ์ที่ดี แต่หากปัญหาโหนกแก้มเกิดจากกระดูกที่ใหญ่ นูน บานผิดรูปไม่สมส่วน การผ่าตัดกระดูกโหนกแก้ม เป็นวิธีที่ดีที่สุด เห็นผลชัดเจนและถาวรที่สุด 

 


 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง