ข่าว

แนะ "พล.อ.ประยุทธ์" แก้ปัญหาไม่ได้ ก็ "ลาออก" ไป เหมือนต่างประเทศ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อดีตนายกรัฐมนตรี "อานันท์ ปันยารชุน" ชี้ อยู่ที่จิตสำนึก "พล.อ.ประยุทธ์"จะลาออกเพราะแก้ปัญหาบ้านเมืองไม่ได้ หรือไม่

นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ช่องยูทูปสภาที่ 3 โดยตอบคำถามบางช่วงบางตอน ถึงกรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  เมื่อตอนรัฐประหารที่ผ่านมาเหมือนกับว่าน่าจะอยู่ได้ไม่นาน  แต่ไปๆมาๆก็อยู่ได้ 8 ปี มีเสียงเรียกร้องให้นายกฯลาออก แต่พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังอยู่มาได้ สะท้อนอะไรถึงสังคมไทย  ทั้งที่บริหารงานล้มเหลวมากมาย  นายอานันท์ กล่าวพร้อมหัวเราะว่า   “เรื่องนี้คุณต้องไปถามนายกฯประยุทธ์เอง”    เมื่อถามอีกว่า บางคนเทียบกับพล.อ.สุจินดา คราประยูร แต่พล.อ.สุจินดากลับโดนว่ามาจนถึงทุกวันนี้   นายอานันท์ กล่าวว่า   “คุณสุจินดาเขายังมีความละอาย อย่างตอนเกิดเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ท่านทรงเรียกคุณจำลอง ศรีเมือง และพล.อ.สุจินดาเข้าไปในวัง และท่านทรงขอให้ว่าอย่าสู้รบกันนะ  เพราะประชาชนเสียหาย ประชาชนตายไม่มีใครชนะ  ท่านพูดแค่นั้นในหลวงไม่ได้บอกว่าให้ลาออก  แต่ทั้ง 2 คนก็แสดงความเข้าใจว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น   ในหลวงท่านไม่ได้ทรงบอกว่าพวกคุณต้องลาออกไป  เพราะฉะนั้นมันอยู่ที่จิตสำนึกของคน”

แนะ \"พล.อ.ประยุทธ์\" แก้ปัญหาไม่ได้ ก็ \"ลาออก\" ไป เหมือนต่างประเทศ

เมื่อถามว่า เสียงเรียกร้องรัฐบาลก็เยอะ ตามหลักการแล้วถ้าเสียงเรียกร้องมากๆ นายกฯควรจะพิจารณาตัวเองอย่างไร  อดีตนายกฯ กล่าวว่า ไม่รู้  แต่ถ้าดูที่ต่างประเทศ เขาลาออกกันง่ายๆ มีเรื่องอะไรที่บางครั้งไม่ใช่เรื่องที่พิสูจน์ได้ด้วยซ้ำ ในฐานะนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีถ้ามีการกล่าวหาหรือเรียกร้องว่า มีการเกิดความสงสัยอย่างมาก เรื่องของบุคลิกของตัวเองหรือนโยบาย มันก็อยู่ที่ผู้นั้นจะใช้วิจารณญาณ  ในต่างประเทศส่วนใหญ่ก็จะมีการลาออก

เมื่อถามเรื่องคนรุ่นใหม่ที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย รัฐบาลควรจะฟังหรือมีทางออกอย่างไร  อดีตนายกฯระบุว่า เวลาของเรามันหมดไปแล้ว ความจริงแล้วคนอย่างรุ่นของผมมันต้องอยู่ข้างนอกเวทีซึ่งเราอาจจะออกความเห็นนอกเวทีได้ แต่คนที่จะบริหารประเทศต้องเป็นคนรุ่นใหม่แล้ว ส่วนคนรุ่นใหม่จะมีอายุเท่าไหร่นั้นก็ตาม แต่จะต้องเป็นคนที่มีความคิดใหม่ๆ จะนำความคิดเก่าๆมาใช้ไม่ได้แล้ว

เมื่อถามอีกว่าคนรุ่นเก่ามองว่าเด็กรุ่นใหม่ ที่เคลื่อนไหวเรียกร้อง เรื่องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเรื่องที่สุดโต่งเกินไปหรือไม่ อดีตนายกฯอานันท์ ปันยารชุน กล่าวว่า   เพ้อฝัน  บางกรณีก็มีเหมือนกัน  วาทะทำให้หลงระเริงไป มันมันกับการพูดก็เลยอาจจะเลยเถิดไปบ้าง แต่คิดว่านั่นไม่ใช่ของแปลกหรือของเสียหาย แต่มันต้องการความเข้าใจ 

 

แนะ \"พล.อ.ประยุทธ์\" แก้ปัญหาไม่ได้ ก็ \"ลาออก\" ไป เหมือนต่างประเทศ

 

เมื่อถามว่า ถ้ามองถึงปัญหาความขัดแย้งในมาตรา 112 จะมีทางออกอย่างไร  นายอานันท์ กล่าวว่า ส่วนตัวของผมไม่มีปัญหาที่จะมีมาตรา 112 แต่อาจต้องมีการปรับปรุงบางอย่าง จะมีการปรับคำพูดนั้นโอเค  ผมไม่คิดว่าโดยทั่วไปต่างประเทศหรือหลายประเทศที่เขายังมีกฎหมายข้อนี้ใช้อยู่ เขาไม่ถือว่ามันเป็นอาชญากรรม แต่ส่วนมากเขาจะฟ้องในเรื่องทางแพ่ง หลายประเทศที่ปกครองโดยมีพระเจ้าแผ่นดิน อยู่ภายใต้กฎหมาย อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ หรือบางประเทศมีแล้วเขาไม่นำมาใช้เลย แต่ประเทศที่ยังนำมาใช้อยู่ เขาพยายามทำให้โทษเบาลงไป  

นอกจากนี้ในปัจจุบันมาตรา 112 ใครฟ้องก็ได้ ผมอยากจะแกล้งคุณ ผมบอกว่าคุณพูดอย่างนั้นอย่างนี้  แล้วผมไปรายงานตำรวจถ้าตำรวจไม่ทำอะไร ก็จะถูกกล่าวหาว่าไม่ปฏิบัติหน้าที่ ตำรวจก็ต้องจดบันทึกเอาไว้ เขาก็กลัวว่าถ้าไม่ดำเนินการอะไร ก็อาจจะมีปัญหาของตัวเอง และก็เสนอขึ้นไปเรื่อยจนไปถึงยอดสุด ก็มีการสั่งฟ้อง 

“บางกรณีที่สั่งฟ้องนั้นต้องเรียกว่ามันโง่เง่า ตรงนี้คือเรื่องของการใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้อง  เพราะฉะนั้นถ้ากฎหมายนี้จะอยู่ต่อไป ก็ต้องระบุให้ชัดว่าใครเป็นคนที่จะสั่งให้สอบสวนสั่งให้ดำเนินคดีขึ้นสู่ศาลได้  สมมุติอาจจะเป็นนายกรัฐมนตรี หรือเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย รัฐมนตรียุติธรรม ต้องมีคนรับผิดชอบทางด้านการเมือง แต่อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับสถาบัน  อย่าไปแตะต้องสถาบันเลย  อย่าไปดึงสถาบันลงมาอยู่กับเรา สถาบันต้องอยู่เหนือกว่ากฎหมายธรรมดาอยู่แล้ว  ที่ผ่านมาผมได้ประสบกับชีวิตส่วนตัว สถาบันไม่มายุ่งเรื่องการเมือง ฉะนั้นเมื่อเราอย่าเอาการเมืองเข้าไปสู่ในวัง ต้องยกวังขึ้นมา” อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าว

logoline