รวบ 'ลิตา' เท้าแชร์สุดแสบตุ๋น 'ออมเงิน' ดอกเบี้ยสูง เชิดเงินเหยื่อกว่า 40 ราย

15 เม.ย. 2567 ตำรวจสืบสวนนครบาล แกะรอยรวบ "ลิตา" เท้าแชร์สุดแสบเปิดเฟซบุ๊กหลอกคนร่วมลงทุนออมเงิน ออมทอง ตั้งแต่ประมาณเดือนตุลาคม 2564 โดยใช้ชื่อทุนว่า "บ้านออมลิตา V.3 นายทุนราย 4 วัน" ถ้าหากลงทุน 100,000 บาท จะได้รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืนเป็นเงินจำนวน 137,000 บาททุกวันจำนวน 4 วันโดยแบ่งจ่ายวันละ 34,250 บาท โดยเวลารับดอกเบี้ยคืนในวันรุ่งขึ้นของอีกวัน

ต่อมาผู้เสียหายสนใจจึงร่วมลงทุน  จึงโอนเงินจำนวน 100,000 บาท เข้าบัญชีธนาคาร น.ส.ลิตา โดยโอนผ่านแอปธนาคาร หลังจากโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปแล้ว  ผู้เสียหายได้แจ้งให้ น.ส.ลิตา ทราบ และน.ส.ลิตา แจ้งว่าจะโอนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้กับผู้เสียหาย

ต่อมาผู้เสียหายได้ร่วมลงทุนกับ น.ส.ลิตาอีก เป็นเงินจำนวน 100,000 บาท โดยโอนผ่านแอปของธนาคาร เมื่อโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปแล้ว ผู้เสียหายได้แจ้งให้ น.ส.ลิตา ทราบ และน.ส.ลิตา ได้บอกว่าจะโอนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้เช่นเดิม แต่เมื่อถึงกำหนดนัดหมายคืนเงิน น.ส.ลิตา กลับไม่ยอมคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืน

ผู้เสียหายพยายามติดตามทวงถามแต่ได้รับการผลัดผ่อนเรื่อยมาและได้รับแจ้งว่าไม่มีเงินจ่ายคืนให้และไม่สามารถติดต่อได้ การกระทำดังกล่าวทำให้ได้รับความเสียหายจึงมาร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับ น.ส.ลิตาในความผิดฐาน"ฉ้อโกง และ/หรือความผิดที่เกี่ยวข้อง"จนกว่าคดีจะถึงที่สุด

หลังการจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับว่า ตนได้เปิดบ้านวงแชร์ออมเงินออมทองจริง และไม่ได้คืนเงินให้กับผู้เสียหาย แต่อ้างว่าได้เงินไปลงทุนกับอีกเท้าแชร์อีกเจ้า ที่บอกให้ตนไปหาลูกค้ามาให้ และยังบอกว่า ตอนนี้กำลังขายทรัพย์สินเพื่อนำเงินไปคืนกับผู้เสียหาย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาเคยไปทำงานเป็นแอดมินเว็บพนันในประเทศเพื่อนบ้าน ปัจจุบันหันมาประกอบอาชีพขายของออนไลน์ 

จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า น.ส.ลิตา ผู้ต้องหา มีหมายจับติดตัว 4 หมาย ดังนี้

1.ศาลอาญามีนบุรี ที่ 1064/2564 ลงวันที่ 9 ธันวาคม 2564   ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน" 

2.หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 80/2565 ลงวันที่ 28 มกราคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง ” 

3.หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 156/2565 ลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงและฉ้อโกงประชาชนและให้กู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ” 

4.หมายจับศาลจังหวัดจันทบุรี ที่ 305/2564 ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงประชาชน,ฉ้อโกง,ผู้ใดกระทำความผิดโดยการ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ”