'ยากูซ่า' ฆ่าหั่นศพ 'ชายชาวญี่ปุ่น' ใส่ถุงดำ ทิ้งเกลื่อน

วันที่ 24 เม.ย.2567 กรณี ตำรวจ สภ.บางบัวทอง จ. นนทบุรี รับแจ้งพบชิ้นส่วนมนุษย์ ในส่วนของ ข้อมือ และชิ้นส่วนต่างๆ ถูกชำแหละ ใส่ถุงดำไปทิ้งในซอยเปลี่ยว เมื่อวันที่ 19 เม.ย.2567

 

จากนั้นพบเลื่อยและขวาน คาดว่าเป็นอุปกรณ์ใช้ก่อเหตุ ห่างจากจุดแรก 2 กม. เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2567

 

กระทั่ง วันที่ 23 เม.ย.2567 เวลา 15.00 น.  ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.บางบัวทอง ขยายพื้นที่ค้นหา จุดน่าสงสัยที่คาดว่าเป็นจุดทิ้งศพ กระทั่งพบชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะมนุษย์และข้อต่อเล็กๆ ทิ้งไว้ บริเวณ ซอย ผู้ใหญ่เลี่ยม หมู่ 4 ต.พิมลราช อ. บางบัวทอง เป็นซอยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับจุดแรกที่พบชิ้นส่วนข้อมือ เพียง 1.5 กม.

โดยชุดสืบสวน ภาค 1 พร้อมด้วย ชุดสืบสวนภูธรจังหวัด นนทบุรี และ สืบสวน สภ.บางบัวทอง ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 1 ราย ทราบชื่อเล่น นายเกมส์ อายุ 34 ปี พยานปากเอก ที่อยู่ในเหตุการณ์

 

สอบสวน นายเกมส์ รับสารภาพว่า รับจ้างจากกลุ่ม ชายชาวญี่ปุ่น จำนวน 3 คน ให้เดินทางไปรับ แล้วพาไปส่งที่โรงงานแห่งหนึ่งย่านพุทธมณฑลสาย2

 

โดยมีผู้ตายนั่งหน้ารถคู่กับตนมา ส่วนผู้ก่อเหตุอีก 2 ราย เป็น ชายชาวญี่ปุ่น เช่นกันนั่งเบาะหลัง

 

ปรากฏว่า ระหว่างทาง ทั้ง 3 คน เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงภายในรถ

จนกระทั่งเมื่อรถมาจอดถึงที่โรงงาน ชายชาวญี่ปุ่น ที่นั่งโดยสารอยู่ท้ายรถ ให้ตนจอดรถ แล้วสั่งให้ลงไปจากรถก่อน ตนจึงเปิดประตูรถเดินออกไปสูบบุหรี่

 

สักพักได้ยินเสียงปืน ดังขึ้นในรถมา 1 นัด จึงวิ่งมาดู พบว่า ชายชาวญี่ปุ่น ที่นั่งอยู่เบาะหน้ารถ ฟุบเสียชีวิตไปแล้ว พบว่าถูกยิงเข้าที่ศีรษะ

 

จากนั้น ชายชาวญี่ปุ่น อีก2คน จึงนำร่างผู้เสียชีวิตเข้าไปในโรงงาน และกลับออกมาพร้อมถุงดำหลายถุง แล้วใช้ให้ตนขับรถตระเวน นำถุงดำไปทิ้ง ตามจุดที่พบชิ้นส่วนศพ

 

หลังสอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค1 ได้นำตัว นายเกมส์ ไปค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่โรงงาน

 

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา นายเกมส์ ฐานร่วมกันปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพ

 

นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นเข้าเมือง เพื่อประสานออกหมายจับตำรวจสากล เพื่อติดตาม 2 ผู้ต้องหา ชายชาวญี่ปุ่น ต่อไป โดย พุ่งเป้าไปยังสมาชิก แก๊งยากูซ่า ที่เกิดขัดผลประโยชน์กัน

 

ก่อนจะบินเข้ามาอุ้มผู้ตายไปเจรจากันเป็นครั้งสุดท้าย แต่เกิดเจรจาไม่ลงตัวจึงได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น