ข่าว

บิ๊ก 'กอนช.' เปิดโรดแมปจัดการน้ำ ป้อง 'เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก' กระทบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รองผู้อำนวยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ "กอนช." เปิดพิมพ์เขียวว่าด้วยการ จัดการน้ำในพื้นที่ เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ครอบคลุม 3 จังหวัด เพื่อรับมือความเสี่ยงที่อาจจะได้รับผลกระทบจากภาวะขาดแคลนน้ำใช้   ชู "โครงข่ายน้ำภาคตะวันออก" เป็นแกนหลัก ในการขับเคลื่อนแผนงาน

ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยว่า   การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี   ครอบคลุม 3 จังหวัด  ประกอบด้วย  ชลบุรี  , ระยอง  และ  ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ    เนื่องจากเป็นฐานการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม  ทั้งนี้หลายฝ่ายห่วงใยต่อสถานการณ์น้ำในพื้นที่   อันอาจได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้และจะเด่นชัดขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงกลางปี 2567 

 

 

 

สำหรับ "ปรากฏการณ์เอลนีโญ" ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ฝนตกน้อยกว่าค่าปกติทั่วประเทศ ซึ่ง กอนช.ได้บูรณาการหรือวางแผนรับมือ เพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากภาวะขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งปี 2566/67 และช่วงต้นฤดูฝนปี 2567  รวมถึงสร้างความมั่นคงเรื่องน้ำให้กับพื้นที่ดังกล่าวอย่างยั่งยืน   ในการวางแผนรับมือภาวะขาดแคลนน้ำที่อาจจะขึ้น กับ "เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก" หรือ "อีอีซี"  จะใช้  "โครงข่ายน้ำภาคตะวันออก" ที่มีอยู่ ร่วมกับมาตรการอื่น ๆ อาทิ กรมชลประทาน และ บริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ "อีสท์วอเตอร์" ที่จะสูบผัน

น้ำจากคลองพระองค์ไชยานุชิต จากแม่น้ำบางปะกง มาเก็บไว้ที่อ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรี โดยได้วางแผนตั้งเป้าหมายสูบผันน้ำรวมประมาณ 80 ล้าน ลบ.ม./ปี ขณะนี้สามารถสูบผันน้ำได้แล้วรวม 10.2 ล้าน ลบ.ม.   

 


ขณะเดียวกัน กรมชลประทาน จะสูบผันน้ำจากคลองสะพานมาเก็บไว้ที่อ่างเก็บน้ำประแสร์ จ.ระยอง จากนั้นจะใช้อ่างเก็บน้ำประแสร์เป็นศูนย์กลาง ส่งน้ำไปยังอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่และอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล เพื่อกระจายน้ำให้กับพื้นที่อีอีซี  โดยวางแผนจะสูบผันน้ำจากคลองสะพานรวม 50 ล้าน ลบ.ม. ขณะนี้สามารถสูบผันน้ำเติมอ่างเก็บน้ำประแสร์ได้แล้ว 2.65 ล้าน ลบ.ม.      อย่างไรก็ตาม เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะปฏิบัติงานไม่ได้ตามแผนที่วางไว้

 

 


กอนช.ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มการบริหารจัดการความเสี่ยง โดยให้กรมชลประทานวางแผนผันน้ำส่วนเกินจากลุ่มน้ำคลองวังโตนด จ.จันทบุรี มายังอ่างเก็บน้ำประแสร์อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งระบบท่อผันน้ำที่มีอยู่ มีศักยภาพในการผันน้ำได้ประมาณปีละ 70 ล้าน ลบ.ม. สามารถลดความเสี่ยงที่อ่างเก็บน้ำประแสร์ และลดการขาดแคลนน้ำต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งให้วางแผนการใช้น้ำจากแหล่งอื่นเข้ามาเสริม

 

 

 

 เช่น การขอซื้อน้ำจากแหล่งน้ำของภาคเอกชน เป็นต้น  รวมถึงให้ชะลอการขุดลอกอ่างเก็บในพื้นที่โครงข่ายน้ำภาคตะวันออก เช่น อ่างเก็บน้ำหนองค้อ อ่างเก็บน้ำบ้านบึง เป็นต้น เพื่อลดปัญหาความขุ่นของน้ำให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่สามารถใช้การได้ และลดภาระการใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำบางพระที่มีจำนวนค่อนข้างน้อยอยู่แล้วมาทดแทน พร้อมทั้งให้เร่งรัดโครงการของภาครัฐ เช่น โครงการระบบ

 

บิ๊ก 'กอนช.' เปิดโรดแมปจัดการน้ำ ป้อง 'เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก' กระทบ

 

ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)

 

ประปาจากอ่างเก็บน้ำคลองหลวงรัชชโลทร และโครงการระบบส่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ มายังพื้นที่ปลวกแดง บ่อวิน เพื่อลดการใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำบางพระ รวมทั้งให้ประสานภาคเอกชนที่บริหารจัดการน้ำทั้ง 2 รายให้มีการใช้น้ำเชิงพาณิชย์ร่วมกันในบางจุด  เช่น แหลมฉบัง บ่อวิน ปลวกแดง เป็นต้น 

 

 

 

 ขอให้ความมั่นใจได้ว่า กอนช. จะติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ทันท่วงที พร้อมทั้งได้ทำหนังสือแจ้งส่วนราชการและภาคเอกชน ให้รับรู้และปฏิบัติตามมาตรการแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมและน้ำแล้ง ที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เห็นชอบไว้อย่างเคร่งครัด ซึ่งในวันพุธที่ 16 ส.ค.   พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุม กอนช. เพื่อติดตามเร่งรัดมาตรการต่างๆ

 

 

 

ในการบริหารจัดการน้ำทั้งประเทศ ในช่วงฤดูฝนนี้ทั้งพื้นที่ที่มีความเสี่ยงอุทกภัยและขาดแคลนน้ำ ซึ่งจะมีการพิจารณามาตรการเพิ่มเติม อาทิ การขอความร่วมมือปลูกข้าวรอบเดียว ส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อย รณรงค์ทุกภาคส่วนใช้น้ำให้ประหยัดและคุ้มค่า รวมถึงแผนบริหารจัดการน้ำ 2 ปี เพื่อเก็บกักน้ำต้นทุนให้มากที่สุด ซึ่งจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้หน่วยงานเกี่ยวข้องนำไปขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป     อย่างไรก็ตามในช่วงปลายฤดูฝนปีนี้ หากมีพายุพาดผ่านประเทศไทยอีก 1-2 ลูก ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์ไว้   เชื่อว่าจะเป็นตัวแปรทำให้สถานการณ์ภาวะความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก รวมทั้งภูมิภาคอื่นๆ คลี่คลายลงอย่างแน่นอน   ดร.สุรสีห์   ระบุ

บิ๊ก 'กอนช.' เปิดโรดแมปจัดการน้ำ ป้อง 'เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก' กระทบ

การบริหารจัดการน้ำ ผ่าน "โครงข่ายน้ำภาคตะวันออก"  ด้วยการสูบผันน้ำเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้อ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ลดความเสี่ยงขาดแคลนน้ำ   ส่วนหนึ่งในแนวทางที่  กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ  จะใช้เพื่อดูแลพื้นที่ของ  เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี   ครอบคลุม 3 จังหวัด  ประกอบด้วย  ชลบุรี  , ระยอง  และ  ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ