ตัวตึงโชว์ ‘ธนาธร’ ลุยกู้มาแจกเคลียร์ปมลับ ‘คนชั้น 14’ ดีลฮ่องกง

ได้เวลาขยับ ธนาธร เปิดเวทีชำแหละเงินกู้ 5 แสนล้าน ท่ามกลางข้อครหาก้าวไกล ไม่แตะคนชั้น 14 โยงข่าวลือดีลลับฮ่องกง

หลังปล่อยหญิงเดี่ยว ศิริกัญญา ปะทะทีมผสมเพื่อไทย กรณีกู้มาแจก-ดิจิทัลวอลเลต ชายเดี่ยวรุ่นใหญ่ ธนาธร ก็ออกโรงบ้าง

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ประกาศผ่านโซเชียลว่าจะมีการบรรยายสาธารณะ : ประเทศไทยควรได้อะไร หากต้องใช้ 5 แสนล้าน ในวันศุกร์ที่ 17 พ.ย. 2566 ที่อาคารอนาคตใหม่ ชั้น 7 ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป

ก่อนหน้านี้ ทางพรรคก้าวไกล ได้ส่ง ไหม-ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค เดินสายไปออกทีวี เพื่ออธิบายว่า รัฐบาลไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องกู้เงิน 5 แสนล้านบาทมาแจกชาวบ้าน

หลายคนแปลกใจว่า ทำไมจึงมีศิริกัญญาเพียงคนเดียว ที่ออกมาปะฉะดะกับทีมเพื่อไทย  

อย่างไรก็ตาม ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าฟังเนื้อหาสาระของพรรคก้าวไกลอย่างวางอคติ ไม่ได้เป็นการขัดขวางนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เพียงแต่เรามีความเห็นท้วงติงเรื่องเงินกู้ 5 แสนล้าน ห่วงจะไม่สามารถดำเนินการได้สำเร็จ 

ในบางมุมก็มีนักวิชาการ และ สว.บางคน ได้แสดงความเห็นว่า พรรคก้าวไกลไม่ได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มข้น โดย เฉพาะกรณีทักษิณ ชินวัตร

โอฬาร ถิ่นบางเตียว รองคณะบดีคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ได้ตั้งข้อสังเกตผ่านทางช่องไทยพีบีเอสว่า พรรคก้าวไกลไม่กล้าตั้งคำถามถึงกระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวข้องกับทักษิณชินวัตร อดีตนายกฯ 

พูดง่ายๆ นักรัฐศาสตร์ ม.บูรพา อาจคิดเหมือนกับ สว.บางคนที่เชื่อว่า ทักษิณมีอิทธิพลเหนือความคิดผู้นำจิตวิญญาณค่ายสีส้ม

เมื่อเร็วๆ นี้ สว.สายอนุรักษนิยม ได้โพสต์เฟซบุ๊กถามว่า ทำไม สส.ก้าวไกล จึงไม่ตรวจสอบหรือพูดถึงนักโทษชาย ทักษิณ ที่พักรักษาตัวอยู่ใน รพ.ตำรวจ ชั้นที่ 14

ค้านกู้มาแจก
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ได้หายหน้าไปไหน ยังทำหน้าที่สนับสนุนคณะผู้บริหารท้องถิ่นของคณะก้าวหน้า 

เหตุผลที่ ธนาธร ต้องลุกขึ้นมาพูดเรื่องรัฐบาลที่ใช้วิธีการกู้เงิน 5 แสนล้านบาท มาแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ในห้วงเวลานี้ คงมีคนถามกันเยอะ

 

 

ก่อนอื่น ธนาธรได้แสดงจุดยืนว่า “ผมไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องกู้เงินมหาศาล มากระตุ้นเศรษฐกิจในขณะนี้ งบประมาณประจำปีที่มีอยู่ หากจัดสรรอย่างมีประสิทธิภาพ ก็เพียงพอที่จะทำได้”

 

ดังนั้น การบรรยายสาธารณะของธนาธร จะออกมาในรูปงานวิชาการไม่ได้เป็นโจมตีทางการเมืองสถานเดียว

 

“ผมจะเสนอแนะแนวทางที่แตกต่าง ในการสร้างศักยภาพการแข่งขัน และการเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ พร้อมๆ กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างทั่วถึง”

แนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจไทยของธนาธร แตกต่างจากกุนซือเพื่อไทยที่ว่า “...การที่เศรษฐกิจไทยโตช้ากว่าเพื่อนบ้านมานับทศวรรษ ไม่ได้เป็นเพราะเราบริโภคน้อย แต่เป็นเพราะเราขาดศักยภาพในการแข่งขัน”

 

ความจริงอยู่ที่ไหน
ถ้าย้อนไปช่วงการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย จะเห็นข่าว ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เดินทางไปฮ่องกง แต่หลังจากนั้นมา ธนาธร ก็ไม่เคยออกมาพูดเรื่องการเมืองอีกเลย

สื่อหลายสำนัก ได้นำข้อมูลชุดหนึ่งมานำเสนอว่า ธนาธรไปฮ่องกง 24 ก.ค. 2566 ด้วยเที่ยวบินไฟลต์ CX700 BKK-HKG และกลับเมืองไทย 25 ก.ค. 2566 เที่ยวบินไฟลต์ HX733 HKG-BKK 

เวลานั้น ทักษิณ ชินวัตร และน้องสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้มาพักอยู่ที่ฮ่องกง ตอนนั้นก็มีข่าวนักการเมืองไทย แห่ไปพบทักษิณหลายคน

แต่ไม่มีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า ธนาธรไปพบทักษิณ แต่มีเรื่องเล่าว่าทั้งคู่พบกันจริง ธนาธรจะยอมถอยเป็นฝ่ายค้าน ด้วยการฉีกเอ็มโอยูของ 8 พรรคจัดตั้งรัฐบาลเดิม พร้อมแลกเงื่อนไขให้สองพรรคสองลุงเป็นฝ่ายค้าน

กรณีดังกล่าว ธนาธร ยังไม่ออกมาแถลงความจริงเรื่องเดินทางไปฮ่องกง ก็จะมีคนนำเอาดีลลับฮ่องกงมาวิเคราะห์โยงถึง ‘คนชั้น 14’ เหมือนบทวิเคราะห์ของนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยบูรพา