ศรัทธาสายมู

หวั่นของเข้าตัว เล่านาทีเจอไหปริศนาลอยน้ำ มัดด้วยสายสิญจน์ ลงอักขระเขมร

หวั่นของเข้าตัว ชาวบ้านพบไหปริศนาลอยน้ำ มัดด้วยสายสิญจน์ ลงอักขระเขมร เล่านาทีเจอสุดช็อกเห็นหญิงสาวโดดลงน้ำกลางดึก ย้อนเล่าตำนานที่ดินอาถรรพ์

 24 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านตากุย ม.4 ต.ตรมไพร อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ว่าพบไหปริศนาลอยอยู่กลางลำห้วย พร้อมกับมีสายสิญจน์มัดรอบและ มียันต์สีแดงปิดผนึก พร้อมกับมีอักขระตัวอักษรเขมร ซึ่งชาวบ้านพบเจอตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา แต่ไม่มีใครกล้าลงไปดู

 

เนื่องจากกลัวว่าจะเป็นของไม่ดี ที่มีคนทำแล้วนำมาทิ้ง จุดที่พบอยู่ภายในลำห้วยถนนเส้น บ้านตากุย-บ้านตะแบก ต.ตรมไพร อ.สีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบยังจุดรับแจ้ง โดยจุดที่พบไหดังกล่าว ต้องขับรถเข้าไปตามเส้นทางบนลำห้วยประมาณ 1 กม. ซึ่งเป็นจุดที่ชาวบ้าน มักจะพากันไปหาปลาตอนกลางดึก

หวั่นของเข้าตัว เล่านาทีเจอไหปริศนาลอยน้ำ มัดด้วยสายสิญจน์ ลงอักขระเขมร

เมื่อไปถึง ผู้สื่อข่าวก็ถึงกับหลอนเหมือนกัน เพราะไม่มีใครกล้าจับ กลัวว่าอาจจะเป็นของไม่ดีและอาจจะเข้าตัวได้ จึงได้ติดต่อไปหาแม่หมอ ชื่อดังเมืองสุรินทร์ ที่ชาวบ้านนับถือและเชื่อว่าเก่งเรื่องด้านปราบคุณไสย์ “แม่ครูขวัญธิดาเทพ” ให้มาช่วยทำพิธี หลังจากที่ “แม่ครูขวัญธิดาเทพ” มาถึงพบว่า

 

ชาวบ้านได้ลงไปนำไหขึ้นมา แม่ครูได้สื่อจิตและสวดเป็นบทภาษาเขมร ก่อนจะใช้เคียวที่เป็นมรดกตกทอดที่ปู่ย่าตายายให้มา ซึ่งเป็นเคียวที่เคยใช้ตัดตราสังข์ผีก่อนที่จะเผา ถ้าใช้สิ่งของอื่นมาตัดไม่ได้ ของจะย้อนเข้าตัวคนตัด เพราะเคียวอันนี้กันคุณไสยได้

 

หวั่นของเข้าตัว เล่านาทีเจอไหปริศนาลอยน้ำ มัดด้วยสายสิญจน์ ลงอักขระเขมร

 หลังจากที่แกะสายสิญจน์ออก เปิดดูข้างในถึงกับช็อก พบเศษขี้เถ้า เศษผ้า และมีเทียนจำนวน 9 ดอก ธูปอีก 16 ดอก และมีเส้นผมด้วยจำนวนหนึ่ง แม่ครูบอกว่าอันนี้เรียกว่า “หม้อดินถ่วงวิญญาณ” ที่ผ่านพิธีมาแล้ว ก่อนที่แม่ครูขวัญจะได้สวดส่งดวงวิญญาณและทุบหม้อดิน ก่อนจะจุดไฟเผาทำลายทิ้ง เพื่อปลดปล่อยดวงวิญญาณที่โดนกักขังทรมานให้ไปสู่สุขติ

 

 

นายน้อย (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี ชาวบ้านที่มาหาปลาและพบไหดังกล่าว เล่าว่า เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา ตนได้มาดักปลาในตอนกลางดึก เวลาประมาณ 22.30 น. ซึ่งวันนั้นได้มีฝนตกปรอยๆ และมีลมด้วย ตนได้วางกับดักปลาอยู่ข้างๆ ห้วย จู่ๆ ตนก็เห็นผู้หญิงวิ่งมาจากฝั่งต้นไม้ (ต้นหว้า) แล้วก็กระโดดลงไปในน้ำ ก่อนที่จะหายไปกับความมืด

 

ตนคิดว่าเป็นคน อยากจะกระโดดลงไปช่วย แต่ก็ว่ายน้ำไม่เก่ง ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดอะไรนึกว่าตาฝาดไป พอตอนเช้ามา กำลังจะมายกกับดักปลาที่วางไว้ แต่ก็เหลือบไปเห็นหม้อดินดังกล่าว ตนเห็นว่ามีสายสิญจน์มัดรอบพร้อมกับมียันต์ปิด จึงไม่กล้าลงไปเก็บ และเรียกชาวบ้านมาดูไม่มีใครกล้าลงไปเก็บ จึงได้แจ้งผู้สื่อข่าวมาตรวจสอบ

 

หวั่นของเข้าตัว เล่านาทีเจอไหปริศนาลอยน้ำ มัดด้วยสายสิญจน์ ลงอักขระเขมร

แม่ครูขวัญธิดาเทพ เล่าว่า หลังจากที่ชาวบ้านเชิญให้มาที่นี่ ตนจึงได้สื่อจิตและพบว่าหม้อดินดังกล่าวนั้น อาจจะเป็นหม้อดินที่หมอผี จับผีที่ดุร้าย หรือผีที่มาจากคนเล่นของ แล้วเสกลงหม้อถ่วงน้ำ เพื่อที่ไม่ให้ไปผุดไปเกิด และเปิดดูด้านในพบว่ามีเศษขี้เถ้า เสื้อผ้าและ เส้นผมจำนวนหนึ่ง พร้อมธูปเทียน สมัยโบราณคนที่กักขังวิญญาณมาถ่วงน้ำ มักจะนำเศษขี้เถ้าของคนตายมาใส่ เพื่อเป็นการสะกดไม่ให้ออกจากหม้อได้

หวั่นของเข้าตัว เล่านาทีเจอไหปริศนาลอยน้ำ มัดด้วยสายสิญจน์ ลงอักขระเขมร

ตนจึงได้จุดไฟเผาทำลายหม้อดินดังกล่าว และทุบตีให้แตก เพื่อปลดปล่อยดวงวิญญาณ ให้ไปสู่สุขติ แต่ที่ตรงนี้แรงมาก โดยเฉพาะต้นไม้ต้นนั้นที่อยู่ในน้ำ (ต้นหว้า) มีสิ่งลี้ลับอยู่กันเป็นครอบครัว

 

คุณบัว อายุ 45 ปี (ชาวบ้านที่มาอาศัยนอนที่ทุ่งนาใกล้จุดพบไหหม้อดิน) เล่าว่า ย้อนไปเมื่อ 30 ปีที่แล้วตอนนั้นตนยังเด็ก บริเวณนี้เคยเป็นจุดอาถรรพ์ สมัยก่อนบริเวณนี้จะเป็นถนนเกวียนซึ่งอยู่ลึกคล้ายกับลำคลอง ได้มีคนมารับซื้อวัว หรือ (นายฮ้อย) ได้จูงนำวัวมาจากการรับซื้อจากชาวบ้านเพื่อกลับไป ด้วยความมืดคิดว่าคลองที่อยู่ด้านข้าง เป็นถนนเกวียน ได้เกิดอุบัติเหตุตกไปในลำคลองตายทั้งคนทั้งวัว ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ใกล้ๆ กับที่พบไห

 

หลังจากนั้นชาวบ้านก็มักจะพบเจอสิ่งลี้ลับมาโดยตลอด เช่น เห็นลิงตัวใหญ่กระโดนขึ้นๆ ลงๆ ต้นหว้าต้นนี้ และบางคนก็ได้ยินเสียงดนตรีไทย บางคนขับรถมาในเวลากลางคืน ก็โดนดึงรถ แต่แปลกที่ต้นหว้าต้นนี้ทำไมยังอยู่รอดมาถึงทุกวันนี้กลางน้ำ ไม่มีใครกล้าไปตัด บางคนแค่คิดก็เจ็บไข้ได้ป่วยจนต้องมาขอขมา อย่างไรก็ตามเป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น โปรดใช้วิจรณญาณในการรับชม

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวยอดนิยม