ข่าว

ผู้นำฝ่ายค้าน หวั่น พ.ร.ก.กู้เงิน แบ่งเค้กใช้หาเสียงทางการเมือง-เอื้อประโยชน์พวกพ้อง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผู้นำฝ่ายค้าน "สมพงษ์ อมรวิวัฒน์" อภิปราย หวั่น พ.ร.ก.กู้เงิน แบ่งเค้กใช้หาเสียงทางการเมือง ห่วงงบฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท นำไปทำโครงการแบบเดิม เอื้อประโยชน์ของพวกพ้อง

นาย สมพงษ์  อมรวิวัฒน์  ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน เปิดการอภิปราย พ.ร.ก.กู้เงิน โดยชื่นชมความสำเร็จการป้องกัน"โควิด-19 "ในประเทศไทยซึ่งประชาชนถือเป็นผู้เสียสละที่ปฏิบัติตนตามข้อแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข แต่ในความสำเร็จยังมีความผิดพลาดจากการบริหารภายใต้ภาวะวิกฤติ เกิดปัญหาประสิทธิภาพในการจัดหาหน้ากากอนามัย และชุดป้องกันการติดเชื้อ  อีกทั้งมีความสับสนในมาตรการการกักตัวและสั่งปิดสถานที่ต่างๆ เกิดความล่าช้าในการเยียวยา รวมถึงการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และความล่าช้าในการคลายล็อค ทำให้ประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้าซึ่งหากดูตัวเลขผู้เสียชีวิตกับคนที่ฆ่าตัวตายไม่แตกต่างกัน  

นายสมพงษ์ ยังกล่าวอีกว่า จากสภาพเศรษฐกิจที่มีความเสียหาย ทำให้ต้องกู้เงินจำนวนมากเพื่อมากอบกู้เศรษฐกิจ ดังนั้นรัฐบาลต้องระลึกว่า เงินกู้จำนวนมหาศาลนี้ ประชาชนต้องรับภาระในการใช้หนี้ ดังนั้นรัฐบาลต้องใช้เงินอย่างรับผิดชอบและเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง ซึ่งที่ผ่านมามีการแบ่งชิ้นเค้ก ชิงผลประโยชน์ทางการเมือง ฝ่ายบริหารที่มีอำนาจสูงสุดในการตรวจสอบกลับตั้งแค่คณะกรรมการกลั่นกรองมาตรวจสอบเงินจำนวนมหาศาล โดยไม่พูดถึงการแจ้งต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ส.ส.ร่วมกันตรวจสอบให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 

นายสมพงษ์ กล่าวว่า การให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อเยียวยา1 ล้านล้านบาท รัฐบาลต้องชี้แจงต่อสังคมให้ได้ว่า มีรายละเอียดการใช้จ่ายอย่างไร  ใครได้รับประโยชน์ซึ่งรัฐบาลต้องเอารายละเอียดในการใช้จ่ายมาแจ้งให้สภาผู้แทนราษฎรรับทราบ 

 ส่วนแผนงานหลักในการเยียยา 5.5 แสนล้านบาท ตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อประชาชนเป็นผู้เสียภาษีแต่มีการเลือกปฏิบัติเหตุใดไม่ใช้ระบบ"ถ้วนหน้า"เพื่อให้ได้รับการเยียวยาทั้งหมด 

 ขณะที่งบประมาณในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท ถือว่าน่าห่วงที่สุด เพราะมีการเปิดช่องใช้เงินเพื่อประโยชน์ทางการเมือง  มีข้อสังเกตว่าแบ่งตามกระทรวงต่างๆ ไว้หมดแล้ว ทั้งๆที่ยังไม่ได้เข้าสภา และตามที่รัฐบาลกล่าวถึงทิศทางการใช้เงินก้อนนี้ไม่ตอบโจทย์และไม่ได้คิดถึงภาพใหญ่และโอกาสของประเทศ เพราะจะสนับสนุนการจ้างงานภาคการเกษตร ใช้ฝึกอบรม รวมถึงใช้เป็นงบชุมชน เปิดช่องการใช้เป็นเงินเพื่อประโยชน์ทางการเมือง แจกจ่ายให้กับ ส.ส. เสมือนเป็นการตีเช็คเปล่าหรือนำไปทำโครงการแบบเดิมๆ เพื่อประโยชน์ของพวกพ้องและการตอบแทนทางการเมือง โดยที่ถูกต้องโครงการต้องเป็นไปเพื่อตอบสนองและตอบโจทย์เรื่องโควิด ไม่ใช่ใช้จ่ายไปทั่ว ทั้งนี้ฝ่ายค้านไม่ขัดข้องเรื่องการกู้เงิน เพราะเห็นถึงความจำเป็นแต่ในด้านการใช้จ่ายเงินต้องให้เกิดประโยชน์สูงสุด  

 นายสมพงษ์ ยังกล่าวถึง พ.ร.ก.ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบ (เอสเอ็มอี ) ว่า เรื่องนี้มีความจำเป็น  รัฐบาลตั้งวงเงินไว้  5 แสนล้านบาท แต่แนวปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ให้ธนาคารพาณิชย์กู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นเรื่องดี แต่ห่วงว่าการพิจารณาให้กู้แต่ละบริษัทขึ้นอยู่ธนาคารพาณิชย์ จะพิจารณาตามเครดิตหลักทรัพย์  ซึ่งจะทำให้บริษัทที่ผ่านการอนุมัติมีน้อยและจำนวนมากจะเข้าไม่ถึงเงินกู้ จึงอยากให้ ยึดหลักการ"ความทั่วถึง"  

 นายสมพงษ์ ยืนยันว่า ส.ส.ฝ่ายค้าน จะร่วมอภิปรายรายละเอียด พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อให้ประโยชน์ลงไปสู่ประชาชนอย่างทั่วถึง ด้วยการบริหารอย่างโปร่งใส ไม่ใช่เอื้อประโยชน์ให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะเม็ดเงินทุกบาทคือเงินในอนาคตของลูกหลาน 

ผู้นำฝ่ายค้าน หวั่น พ.ร.ก.กู้เงิน แบ่งเค้กใช้หาเสียงทางการเมือง-เอื้อประโยชน์พวกพ้อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ