หดหู่ใจ สาวเมียนมา อุ้มลูก 8 เดือน ขอ 'กัน จอมพลัง' ช่วยหลังโดน 'ราดน้ำกรด' เละ

28 เม.ย. 2567  นางเกตี (นามสมมติ) ชาวเมียนมา อายุ 27 ปี และลูกน้อยวัย 8 เดือน ที่ถูกภรรยาเก่าของสามีบุกราดน้ำกรดจนทำให้แม่หูหลุดหน้าเหลวผิดรูป แขนใช้ได้ข้างเดียว เละทั้งตัว ส่วนลูกน้อยวัย 8 เดือน ตาบอด 2 ข้าง หน้าเละผิดรูป เดินทางมาพบนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง เพื่อขอความช่วยเหลือ

 

โดย กัน จอมพลัง  ระบุว่า ได้รับประสานและเดินทางไปรับ นางเกตี และลูกอายุ 8 เดือน มาจาก จ.กาญจนบุรี หลังถูกนางซอล (สงวนนามสกุล)  สัญชาติเมียนมา อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นภรรยาเก่าของ นาย ตีฮะ  สัญชาติเมียนมา อายุ 28 ปี อดีตสามีของ นางเกตี ผู้เสียหาย เอาน้ำกรดราดตามตัว ขณะที่กำลังอาบน้ำให้ลูกน้อย ซึ่งขณะเกิดเหตุลูกอายุได้พียง 2 เดือน

 

โดยผู้ก่อเหตุ ราดน้ำกรดที่ศีรษะ ทำให้น้ำกรดไหลลงมาที่แขนและตามตัว  ขณะที่ถูกราดน้ำกรด นางเกตี พยายามนั่งนิ่งๆไม่ให้ลูกสาววัย 2 เดือน ถูกน้ำกรดไปด้วย ทำให้หูข้างขวาขาด ศีรษะละลายจนเห็นกะโหลก และมีแผลตามตัว

 

ผู้ก่อเหตุ เห็นลูกของตนเอง ซึ่งอยู่ด้านหน้าก็นำน้ำกรดมาราดที่ลูกน้อยอีก ทำให้ลูกสาวตาบอดทั้ง 2 ข้าง จมูกหาย ตัวเละทั้งตัว จนต้องเจาะคอเพื่อหายใจ ทุกวันนี้ มีชีวิตรอดทั้งคู่ แต่ใช้ชีวิตลำบาก และต้องใช้เงินรักษาตัวจำนวนมาก 

 

 

หลังจากเกิดเหตุนายตีฮะ อดีตสามีพยายามวิ่งไล่ตามผู้ก่อเหตุ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ จากนั้น น.ส.เกตี ก็สลบไปและฟื้นอีกทีที่โรงพยาบาล โดยนายตีฮะก็มาเยี่ยมเป็นพักๆ ก่อนขาดการติดต่อไป เมื่อเดือน พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งทราบว่าตอนนี้สามีมีภรรยาใหม่แล้ว และทิ้งลูกทิ้งเมียเก่าให้อยู่กับความทุกข์ทรมาน ก่อนออกจากโรงพยาบาลได้ทักไปขอความช่วยเหลือเรื่องที่พัก เพื่อจะรักษาตัว แต่สามีตอบกลับมาเพียงว่า "ไม่รู้" และเงียบหายไป จึงตัดสินใจมาขอความช่วยเหลือกับทาง กัน จอมพลัง เพราะอยากให้แขนกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม และอยากให้ลูกมองเห็นและเดินได้เหมือนเด็กปกติ

 

ด้าน กัน จอมพลัง  กล่าวว่าในวันเกิดเหตุ น.ส.เกตี รู้ว่าฝ่ายชายยังไม่เลิกกับภรรยา แต่มาอ้างกับตนว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นภรรยาเก่า จึงตัดสินใจจะย้ายและจะขนของออกตอน 22.00 น. ของวันนั้น แต่เหตุเกิดตอนเวลา 18.00 น. ซึ่งตนสังเกตว่าเป็นการชี้เป้าหรือไม่ อีกทั้งภรรยาเก่ายังตามราวีตลอดในช่วงก่อนคลอด ทั้งส่งยาทำแท้งมาให้ โพสต์รูป ผู้เสียหายลงในโซเชียลว่า ขายบริการ สนใจให้ติดต่อที่ตนได้เลย 

 

 

 

 

ในส่วนของเรื่องคดี หลังจากทั้งคู่ออกจากโรงพยาบาลได้เดินทางไปแจ้งความเมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2567  ที่ผ่านมา ที่ฝั่งเมียนมา หลังจากนั้นก็ได้เดินทางมาแจ้งความที่ สภ.สังขละบุรี จ. กาญจนบุรี  แต่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ต้องให้ทางเมียนมาโอนคดีมาฝั่งไทย และรับปากจะช่วยอย่างเต็มที่ 

 

 

 

 

ด้าน นางเกตี เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุหญิงผู้ก่อเหตุ ได้ทักมาในโซเชียล ซึ่งขณะนั้นตนกำลังอาบน้ำให้ลูก โดยผู้ก่อเหตุส่งข้อความมาว่า  "มึงอยู่ไหน ให้ผัวกูรับสายหน่อย" แต่ตนไม่ได้โต้ตอบอะไร ผู้หญิงผู้ก่อเหตุ นั้นก็ถามย้ำว่า "อยู่ไหน ให้มาเคลียร์" จากนั้นก็เดินมาจากข้างหลังตนและลงมือก่อเหตุดังกล่าว 

 

 

 

 

ตอนนั้นตนเห็นลูกร้องแล้วรู้สึกทรมานมาก อยากเป็นแทนลูก อยากตายแทนลูก หลังจากนั้นลูกสาวก็ร้องไห้เพราเจ็บปวดอยู่ตลอด ตัวเองก็ปวดทั้งตัวทรมานมาก แขนข้างซ้ายตนไม่สามารถเหยียดตรงได้ ลูกสาวตาซ้ายบอดสนิท ตาขวาหมอบอกว่าสามารถผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาได้ แต่ค่าใช้จ่ายหลักแสนบาท และขาลูกสาวก็ไม่สามารถเหยียดตรงได้ ส่งผลให้ลูกสาวไม่สามารถเดินหรือคลานได้ ซึ่งตอนนี้ตนมีเงินติดตัวเพียง 30 บาท มาขอความช่วยเหลือกับ กัน จอมพลัง เพราะเชื่อว่าจะช่วยเหลือได้ โดยค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด 450,000 บาท แม่ของอดีตสามีเป็นคนดูแลทั้งหมด แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ช่วยเหลือต่อเนื่องจากปัญหาทางการเงิน ตอนนี้ก็ต้องคอยรักษาตลอดเวลา

 

 

 

 

กัน จอมพลัง  กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันพรุ่งนี้ (29เม.ย. 67 ) 10:00 น. ตนจะพาทั้งคู่ไปพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอความช่วยเหลือทางคดี และในช่วงบ่าย จะพาทั้งคู่ไปที่สถานเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย เพื่อขอขยายวีซ่าให้ทั้งคู่ได้รักษาตัวต่อในประเทศไทย