'ผู้การเต่า' สั่งขยายผล 'บิ๊กสรรพสามิต' โทรเคลียร์รถขนน้ำมันเถื่อน
แฉพฤติกรรม "บิ๊กสรรพสามิต" ต่อสายถึงผู้ใต้บังคับบัญชา เอ่ยปากขอปิดคดี "รถบรรทุกน้ำมันเถื่อ" อ้างของพรรคพวก แต่ปฏิเสธ พร้อมอ้างกลับ
เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมา ตำรวจทางหลวง (ทล.) สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สรรพสามิตประจวบคีรีขันธ์ สกัดจับรถบรรทุกลักลอบน้ำมันดีเซลหนีภาษี 15,000 ลิตร จับกุมได้บริเวณริมถนนเพชรเกษม ช่วง กม. 308 ขาเข้า ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ มี นายสมบัติ อายุ 47 ปี เป็นคนขับรถ
ซึ่งการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าใบกำกับการขนส่งน้ำมันมิได้ระบุวันเวลาที่เดินทางไว้ และไม่มีการลงลายมือชื่อผู้ออกใบกำกับจากผู้ค้าที่จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และไม่พบเอกสารการผ่านการตรวจสอบน้ำหนักรถบรรทุก จึงได้นำรถคันดังกล่าวไปทำการตรวจสอบน้ำหนักบริเวณด่านชั่งน้ำหนัก กรมทางหลวงจากการตรวจสอบพบว่าไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจสอบน้ำมันที่ลักษณะคล้ายน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดดีเซล ซึ่งไม่ตรงกับเอกสารใบกำกับการขนส่งและไม่มีใบกำกับภาษีมาแสดง จึงได้เก็บตัวอย่างเพื่อส่งตรวจพิสูจน์ โดยห้องตรวจแล็บของกรมสรรพสามิต และผลยืนยันว่าเป็นน้ำมันดีเซลซึ่งไม่ตรงตามเอกสารที่ระบุไว้ในใบกำกับการขนส่งจริง จะมีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษไปยังพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้มีรายงานแจ้งว่า ภายหลังการจับกุม นายสมบัติ พร้อมตรวจยึดน้ำมันเถื่อนของกลางแล้วนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมสรรพสามิตรายหนึ่งโทรศัพท์มาขอเจรจาไม่ให้ดำเนินคดี แต่ได้ถูกทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมปฏิเสธกลับไป
ซึ่งหลังจาก พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รักษาราชการแทน ผบก.ทล. ทราบเรื่องดังกล่าว จึงสั่งการให้เร่งสืบสวนขยายผลเอาผิดกับกลุ่มเจ้าหน้าที่สรรพสามิตที่พยายามไกล่เกลี่ยเรื่องดังกล่าวในทันที เพราะถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และ ไม่เคารพต่อกฎหมายบ้านเมือง