เด่นโซเชียล

เกือบเอาชีวิตไม่รอด หนุ่มหลอดอาหารแตก หลังดื่ม 'ไวน์' และ 'กาแฟ'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อันตรายถึงตาย? หนุ่มดื่ม 'ไวน์' ตามด้วย 'กาแฟ' อาการวิกฤตหวิดดับ หลอดอาหารแตก-ถุงลมโป่งพอง แพทย์ตอบชัด อันตรายถึงตายจริงไหม?

"หนุ่ม" ไต้หวันหวิดดับ หลังดื่ม "ไวน์" ข้าวฟ่าง ในงานเลี้ยงอาหารค่ำ และไปดื่ม กาแฟ ที่คาเฟ่ เมื่อกลับถึงบ้านเขาปวดท้องรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาอย่างฉุกเฉิน แพทย์วินิจฉัยว่า หลอดอาหารแตกเอง เและ ถุงลมด้านซ้ายโป่งพอง

กาแฟ

นพ.หลิน หงเซิง ผู้อำนวยการแผนกศัลยกรรมทรวงอก โรงพยาบาลเหงียนเจเนอรัล เผยว่า ปกติแล้วผู้ป่วยรายนี้ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า แต่ในวันเกิดเหตุเขาได้จัดงานเลี้ยงให้กับเพื่อนร่วมงานที่เกษียณอายุ เพื่อนๆ ในงานเลี้ยงได้เชียร์ให้เขาดื่ม "ไวน์" ข้าวฟ่างกว่าครึ่งขวด หลังงานเลี้ยงจบลง เขาได้ไปดื่ม กาแฟ ต่อที่คาเฟ่ หลังกลับถึงบ้าน เขาปวดท้องรุนแรง ร่วมกับอาการคลื่นไส้อาเจียน จนต้องรีบหามส่งโรงพยาบาล

 

 

แพทย์ X-ray พบว่าท้องของเขาขยายอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากมีอาหารจำนวนมากและหลอดอาหารส่วนปลายขยายใหญ่ขึ้น ผล CT-Scan  พบของเหลวสะสมที่หน้าอก ซี่โครง และเยื่อหุ้มปอดทั้งสองข้าง เขาได้รับวินิจฉัยว่าเป็น หลอดอาหารแตก และ ถุงลมด้านซ้ายโป่งพอง แพทย์รีบทำการผ่าตัดซ่อมแซมหลอดอาหารทันที เนื่องจากคนไข้อยู่ในภาวะวิกฤต

 

หลังการผ่าตัด คนไข้ ถูกส่งตัวไปที่ห้อง ICU เพื่อสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด แพทย์ชี้ ภาวะหลอดอาหารแตกเอง พบได้น้อย หากรักษาล่าช้า ผู้ป่วยอาจสะสมอาหารและน้ำย่อยในช่องอก ทำให้เกิดการอักเสบ เกิดภาวะติดเชื้อรุนแรง อันตรายถึงชีวิตได้ การรักษาเขาได้รับยาปฏิชีวนะ เพื่อรักษาโรคถุงลมโป่งพอง และ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และให้อาหารผ่านลำไส้เล็ก หลังรักษาอาการป่วย 3 สัปดาห์ผู้ป่วยอาการดีขึ้นตามลำดับ

นพ.หลิน หงเซิง เผยว่า แอลกอฮอล์ใน "ไวน์" มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุกระเพาะอาหาร และการบีบตัวของกระเพาะอาหาร ทำให้กระเพาะอาหารบวมและทำให้อาเจียนได้ ในตอนนี้ความดันในช่องท้องเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน  และความดันหลอดอาหารเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันด้วยเช่นกัน

 

ในรายที่รุนแรง จุดเชื่อมต่อระหว่างกระเพาะอาหารกับหลอดอาหารอาจฉีกขาดจนมีเลือดออกได้ แผลที่หลอดอาหารและแผลไหม้ที่เยื่อเมือกในระดับต่างๆ หากไม่ได้รับการรักษาทันเวลา อาจนำไปสู่การอักเสบและภาวะช็อก จากการติดเชื้อจนเสียชีวิตได้

 

 

นพ.หลิน เผยต่อว่า เมื่อคุณอายุมากขึ้น อัตราการเผาผลาญก็จะยิ่งลดลง ความเร็วในการนำแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายก็ช้าลง และการเคลื่อนไหวของกระเพาะอาหารก็แย่ลง จากเคสผู้ป่วยรายนี้ หลังดื่ม "ไวน์" เขาไป แล้วดื่ม กาแฟ ต่อ ซึ่งในกาแฟจะมีคาเฟอีน สารชนิดนี้จะไปกระตุ้นการขยายตัวของหลอดเลือด เร่งการไหลเวียนโลหิต เพิ่มภาระของหลอดเลือดหัวใจ และทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่ปกติด้วย 

 

ข้อมูลอ้างอิงจาก : ettoday

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ