จับจังหวะ ผู้ดี "อานันท์" กลางดงม็อบเด็ก

++
สถานการณ์การชุมนุมของม็อบราษฎร ยังดำเนินต่อไป และมีกลุ่มผู้ปกป้องสถาบันฯ ได้จัดการชุมนุมแบบคู่ขนาน 

ท่ามกลางการแสวงหาทางออกจากวิกฤตการเมืองหนนี้ ผู้ดีรัตนโกสินทร์ ก็ปรากฏกาย พร้อมความคิดความเห็นทางการเมือง

 

อ่านข่าว...  ดับการเมืองร้อนๆ "ดร.อาทิตย์" เสนอ "อานันท์ ปันยารชุน" เป็นนายกฯคนนอก

 

 

“อานันท์ ปันยารชุน” อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ไปพูดบนเวทีนักคิดดิจิทัล ครั้งที่ 13 มีใจความตอนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของเยาวชนคนรุ่นใหม่ และ “เด็ก” ในทัศนะของอดีตนายกฯ เป็นอย่างไรบ้าง
    

“..เด็กพูดภาษาดิจิทัล แต่รัฐบาลยังพูดภาษาอะนาล็อก สงครามการต่อสู้ก็คนละสนาม เด็กเล่นสนามนี้ ผู้มีอำนาจเล่นอีกสนามหนึ่ง ไม่เคยเจอกันและพูดกันคนละประเด็น ผมเห็นว่าสังคมโลกเขาพูดกันว่า คุณจะมีสันติภาพไม่ได้ ถ้าไม่มีความยุติธรรม และคุณจะไม่มีความยุติธรรม ถ้าคุณไม่มีความจริงใจระหว่างกัน”
    

ในยามบ้านเมืองมีความขัดแย้ง ถึงขั้นขับไล่นายกรัฐมนตรีชื่อของ “อานันท์” จะถูกนำเสนอขึ้นมาเป็นทางเลือกอยู่บ่อยๆ รวมถึงบทบาทการเป็น “คนกลาง” 
    

สมัยรัฐบาลทักษิณ "อานันท์" เป็นประธานกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) แก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
    

สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ "อานันท์" ได้เข้ามารับหน้าที่ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ หลังการชุมนุมของคนเสื้อแดงยุติลง 
    

อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งในสังคมไทย พ.ศ.นี้ ต่างจากเหตุการณ์พฤษภา 35 เพราะเป็นสงครามระหว่างรุ่น และการต่อสู้เชิงอุดมการณ์ 

 

++
ม็อบรุ่นใหม่
++
มีการสำรวจอย่างไม่เป็นทางการ ผู้เข้าร่วมการชุมนุมม็อบราษฎร ส่วนใหญ่จะมีอายุ 27 ปี เป็นคน Gen Y ที่ทำงานปีแรกก็เจอการรัฐประหาร และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
    

ระยะหลังมานี้ ผู้ชุมนุมประกอบด้วย 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร 2557 และกลุ่มเฟิร์สโหวต ที่มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก เป็นคนรุ่น Gen Z 
    

ผู้เข้าร่วมชุมนุมส่วนใหญ่ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออก และแก้รัฐธรรมนูญ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่เห็นด้วยในเรื่องการปฏิรูปสถาบันฯ
    

คน Gen Y จะเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออก  ต่างจากคน Gen Z ในเรื่องการปฏิรูปสถาบันฯ 
 

 

 

++
สงครามต่างรุ่น
++
พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ นักวิชาการสายเชียร์ม็อบราษฎร ได้โพสต์เฟซบุ๊ก วิพากษ์วิจารณ์รัฐไทยว่า ยังติดอยู่กับกระบวนทัศน์สงครามเย็น มองขบวนเยาวชนนักเรียน นักศึกษา ปี 2563 เหมือนที่มองขบวนนักศึกษา ปี 2519
    

รัฐไทยจึงมองว่า คณะราษฎรหรือกลุ่มแฟลชม็อบ ต้องมีคนอยู่เบื้องหลัง มีท่อน้ำเลี้ยง
    

“นี่เป็นสิ่งใหม่ของเยาวชนศตวรรษที่ 21 การเคลื่อนไหวแบบกระจายศูนย์ทรัพยากร พื้นที่ภูมิศาสตร์ เครือข่ายแนวราบบนโลกออนไลน์ แต่ละคนแต่ละจุดคิดเอง ทำเอง ประสานงานกันเอง มีท่อน้ำเลี้ยงเอง แต่ทั้งหมดมีอุดมการณ์ และเป้าหมายเดียวกัน” อาจารย์พิชิต ตั้งข้อสังเกต
    

เหนืออื่นใด ดิจิตอลหรืออะนาล็อก ก็แค่รูปแบบการเคลื่อนไหวมวลชน แต่ “เนื้อหา” เชิงอุดมการณ์ต่างหาก ที่จะก่อให้เกิดการปะทะทางความคิด และบานปลายกลายเป็นจลาจล