คอลัมนิสต์

ลาไพร่หมื่นล้าน ‘ปิยบุตร’ คืนสู่สามัญ วันที่เพื่อน ‘ธนาธร’ ยึดกุมพรรค

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ฝันสร้างการเมืองใหม่ ปิยบุตร บอกลาไพร่หมื่นล้าน ธนาธร ความคิดศาสดาไม่เป็นจริง การเมืองเก่ายังแกร่ง ขอกลับสู่วิถีปัญญาชน

พบสัจธรรมชีวิต ปิยบุตร หมดไฟการเมือง บอกลาไพร่หมื่นล้าน ธนาธร ศึกศาสดาไม่เป็นจริง กลับสู่วิถีปัญญาชน    


ปิยบุตร ฝันสร้างพรรคมวลชนในอุดมคติ ได้แรงบันดาลใจจาก อันโตนิโอ กรัมชี นักทฤษฎีปีกซ้าย แต่กลับได้พรรคทัวร์ลง 


คนวงในพรรคก้าวไกล อาจไม่รู้สึกแปลกใจที่ ปิยบุตร แสงกนกกุล ประกาศวางมือทางการเมือง ระหว่างการไลฟ์เฟซบุ๊ควิจารณ์คำพิพาก ษาศาลฎีกาที่ คมจ.5/2566 กรณี พรรณิการ์ วานิช

ระยะหลัง อาจารย์ป๊อก ปิยบุตร ได้วิจารณ์พรรคก้าวไกลบ่อยครั้งเป็นการวิจารณ์เชิงสร้างสรรค์ แต่ก็เจอทัวร์ลงทุกครั้ง ทั้งติ่งแดงและด้อมส้ม

 

อาจารย์ป๊อกเติบโตทางความคิดมาจากสังคมความรู้ในฝรั่งเศส การวิพากษ์วิจารณ์เป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย ทุกฝ่ายต่างเคารพความคิดเห็นซึ่งกันและกัน


สำหรับสังคมไทยในปัจจุบัน ดูเหมือนจะไม่มีพื้นที่ให้กับการวิจารณ์ทางวิชาการหรือเชิงสร้างสรรค์ 


เมื่อสุกงอมทางความคิด อาจารย์ป๊อกก็เลือกวิถีเดิมวิถีปัญญาชน “...กลับไปทำงานวิชาการดีกว่า ไปเขียนหนังสือให้มันเสร็จ เรื่องการ เมือง ก็ให้เขาว่าไป” 

 

สองคนสองคม
ในวันที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยังสนุกกับการทำงานหลังม่าน และกลุ่มเพื่อนเอก กำลังเข้ามาจัดแถวพรรคก้าวไกล ปิยบุตร แสงกนกกุล กลับหันหลังให้การเมือง


ปี 2560 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และปิยบุตร แสงกนกกุล พูดคุยกันอย่างจริงจังเกี่ยวกับการตั้งพรรคการเมือง ซึ่งทั้งคู่ไม่ใช่เพื่อนสมัยเรียนหนังสือ

 

เลือกตั้ง 66 ภารกิจสุดท้ายในทางการเมืองของ ปิยบุตร


ฝ่ายหนึ่งเป็นทายาทของนักธุรกิจหมื่นล้าน เจ้าของอาณาจักรไทยซัมมิท แต่อีกฝ่ายหนึ่งเป็นนักกฎหมายมหาชน และนักวิชาการ

ช่วงปี 2554 อาจารย์ป๊อกร่วมก่อการคณะนิติราษฏร์ ทายาทไทยซัมมิท ก็ไปนั่งฟังกลุ่มนักวิชาการอภิปรายเรื่องตุลาภิวัตน์ แก้ไข ม.112 หลังจากนั้นจึงได้รู้จักกัน และพูดคุยแลกเปลี่ยนกันมากขึ้น


“...รู้จักกันเพราะความหลงใหลทางการเมือง อุดมการณ์ที่ใกล้กันพาให้เรามารู้จักกันเองด้วยกฎของธรรมชาติ” ธนาธร เล่าความหลัง


“อาจารย์ปิยบุตร จะไม่รู้เรื่องด้านธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ แต่จะรู้เรื่องด้านกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม มันคลิกกัน”


ความจริงก่อนที่เอก และป๊อก จะตัดสินใจตั้งพรรคอนาคตใหม่ พวกเขาเคยพิจารณาจะทำการเมืองนอกสภา ในรูปแบบขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคม (Social Movement) แล้ว ค่อยพัฒนาเป็นพรรค


อาจารย์ป๊อกมีความคิดว่า พรรคการเมืองและขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคม ควรมีเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงอย่างถึงรากถึงโคน มิใช่แค่การได้มี สส.ไปนั่งในสภาฯเท่านั้น 

 

 

ศาสดากรัมชี
เนื่องจากมาจากแวดวงวิชาการ ปิยบุตร แสงกนกกุล เล่าว่า ตอนเริ่มก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ได้นำทฤษฎีการเมืองของปรัชญาเมธีหลายคนมาประยุกต์ใช้ และคนแรกคือ อันโตนิโอ กรัมชี


กรัมชี เป็นนักเศรษฐศาสตร์การเมืองชาวอิตาเลียนแนวมาร์กซิสม์ และเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์อิตาลี


ดังนั้น อาจารย์ป๊อก จึงเขียนถึงกรัมชีอยู่บ่อยครั้ง และเมื่อสองสามปีที่แล้ว เขาจึงประเมินสถานการณ์การชุมนุมนอกสภาว่า “สภาวการณ์เช่นนี้ คล้ายคลึงกับที่อันโตนิโอ กรัมชี บอกไว้ว่า เมื่อสิ่งเก่ากำลังจะตายแต่ยังไม่ตาย ในขณะที่สิ่งใหม่จะเกิดก็ยังเกิดไม่ได้ วิกฤตการณ์ย่อมปรากฏขึ้น”


เมื่อผ่านมาถึงปีนี้ อาจารย์ป๊อก คงเหนื่อยหน่ายกับบรรยากาศการเมืองพลิกขั้ว เมื่อเพื่อไทยหักก้าวไกล จัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว พร้อมกับการกลับไทยของทักษิณ ชินวัตร


คำว่า สิ่งเก่ากำลังจะตายแต่ยังไม่ตายนั้น มันไม่เป็นจริง แถมการเปิดดีลประนีประนอม ระหว่างขั้วเพื่อไทยและฝ่ายอนุรักษนิยม ส่งผลให้มีการสืบทอดอำนาจผ่านการเมืองระบบรัฐสภาต่อไปอีก


มิหนำซ้ำ ความเชี่ยวกรากในโซเชียล มิได้แปรเปลี่ยนพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงทางสังคม การเมืองท้องถนนเข้าสู่สภาวะเงียบงัน


ขณะที่พรรคก้าวไกล จะมีหัวหน้าพรรคคนใหม่ชื่อ ชัยธวัช ตุลาธน ซึ่งใครก็รู้ว่า เอก ธนาธร อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารชุดใหม่


ดังนั้น อาจารย์ป๊อก จึงตัดสินใจยุติเส้นทางการเมือง หันกลับไปสู่วิถีปกติ ดูหนัง ฟังเพลง เขียนหนังสือเหมือนช่วงก่อนปี 2560

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ