"ปู มัณฑนา" ซัดเวรกรรมมีจริง เผยเส้นทางการเงินกับ "ลูกหมี" ปมดอกเบี้ยโหด

ออกมาปรากฏตัวต่อหน้าสื่อมวลชนแล้ว สำหรับ ดารา ป. นางงาม ป. ในตำนาน หรือ "ปู มัณฑนา" ที่ก่อนหน้านี้คนตามหาตัวทั้งประเทศ หลังนางแบบดัง "ลูกหมี รัศมี ทองสิริไพรศรี" พร้อมทนายเดชา เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กล่าวหาว่า ป. ออกเช็คเด้ง จำนวนเงิน 2,000,000 บาท 

ล่าสุด "ปู มัณฑนา" พร้อมด้วยสามี "หาญส์ ภักดีหาญส์ หิมะทองคำ" พร้อมทีมทนายความ นำโดย "ทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช" และ "ทนายกิ่ง ศิริญญ์รดา เลืองวัฒนะวณิช" ได้เข้าให้การต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ และแถลงข้อเท็จจริง พร้อมพยานหลักฐาน 

โดย "ปู มัณฑนา" เปิดใจว่า "เริ่มต้นรู้จักกันจากเพื่อนที่ตีกอล์ฟ แต่ปูไม่ได้ตี และก็มีโอกาสได้คุยกัน เขาเล่าปัญหาของเขา ว่าเขาไม่มีงานทำ ไม่มีงานละคร มีนักเรียนสอนเดินแบบแค่ 2-3 คน มีภาระค่าใช้จ่ายต้องดูแลพ่อแม่ มีแฟนคนหนึ่ง ก็เลิกกับเขา โดนแฟนใช้เสิร์ฟอาหารล้างจาน แต่ไม่ให้เงินเลย เขาไม่มีรายได้ 

 

เขามาคุยกับเราบอกว่า เขาปล่อยเงินกู้กับร้านแว่น ได้ดอกเบี้ย 10-15% แล้วแต่ว่าร้านแว่นจะมีรายรับเท่าไหร่ และมีฝากเงินเพื่อนชื่อ ก. กับ อ. เขาบอกมีเพื่อน 3 คน ลงทุนเกี่ยวกับหุ้น บอกว่าถ้าพี่ปูมีงานอะไร ให้เขาหุ้นด้วย เพื่อที่จะมีรายได้เพิ่มเติมให้บอกเขา ร้านแว่นไม่จ่ายเงินเขาหลายเดือนมาก แล้วเขาก็ฟ้องแจ้งความร้านแว่น เมื่อปลายปีที่แล้ว 

 

ปูก็เลยช่วยเหลือเขา เราบอกว่าเรามีทำอีเวนท์ และบอกว่าเราอยากจะทำละคร ก็พาเขาไปคุยกับผู้ใหญ่ และบอกว่าอยากไปเป็นเลขาพี่หาญส์ ตามพี่หาญส์ไปประชุมเกี่ยวกับซอฟพาวเวอร์ พาเข้าหาผู้ใหญ่ทุกอย่าง ล่าสุดก็ผู้ใหญ่ที่ช่อง 7 เขาบอกมีเวลาให้ทำละคร บอกว่าลูกหมีเดี๋ยวเรามาหุ้นกันนะ ถ้าลูกหมีมีเงินน้อย ก็จะให้เล่นเป็นแม่พระเอก เพื่อที่จะให้มีรายรับ แต่ผู้ใหญ่บอกว่าช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี เอารายการสดดีไหม เขารายการสดครึ่งชั่วโมง ก็น่าจะดีกว่าทำละคร ก็หางานให้เขาทุกอย่าง แต่ว่าในเรื่องของงานละคร กับงานพิธีกร ยังไม่ได้ข้อสรุปกัน เพราะว่าเศรษฐกิจไม่ดี 

 

มีเพื่อนที่ทำธุรกิจหลายคนก็เลยบอกลูกหมีว่าเดี๋ยวมาทำธุรกิจกับเพื่อนพี่นะ ก็คุยตรงกันเองเลย เขาบอกว่าเขาไม่อยากคุยตรงกับเพื่อนพี่ปู ขอให้เป็นระหว่างพี่ปูกับเขาแล้วกัน แล้วถ้าพี่ปูจะเอาไปทำธุรกิจอะไรก็เรื่องของพี่ปู แล้วพี่ปูก็ส่งดอกกับลูกหมี 2 คน จะได้ไม่ต้องไปคุยหลายคน และเพื่อความสบายใจก็ขอเช็คพี่ปูเพื่อค้ำประกันเอาไว้ 

 

ปูให้ทุกอย่าง  เขาบอกว่าพี่ปูขอเช็ค 3 ใบ เขียนยอดเท่านี้ๆ ลงวันที่เท่านี้นะคะ เราก็ตามเขาทุกอย่าง เขาให้เซ็นสัญญาเงินกู้ บอกว่าปูเซ็นชื่อเฉยๆ เอากระดาษเปล่ามา ให้คนรถไปเอา ปูก็บอกว่าลูกหมีพี่ปูเขียน ดอกเบี้ยไปได้ไหม ว่าลูกหมีได้รับทั้งรายวันรายเดือนทุกวัน 10% 15% 20% เขียนไปไหม เขาบอกว่าไม่ต้องค่ะเดี๋ยวผิดกฎหมาย พี่ปูเซ็นอย่างเดียว เดี๋ยวลูกหมีเขียน วันที่ 2 มีนา และวันที่ 18 มีนา เขาก็แคปข้อความส่งมา บอกว่าพี่ปูเก็บสัญญาเงินกู้นี้ไว้นะคะ 

 

คือปูช่วยเขาหาเงิน เขามาขอความช่วยเหลือ ว่าเขาไม่มีงานทำ (ทำไมตกเป็นลูกหนี้ได้?) คุยกับเรา เราบอกแล้วให้ลูกหมีคุยกับเพื่อนเราโดยตรง เพราะเพื่อนเราทำธุรกิจหลายอย่าง แต่เขาบอกว่าเขาไม่รู้จักเพื่อนพี่ปู ขอคุยกับพี่ปู 2 คน และขอเช็คพี่ปูค้ำประกันไว้ เพื่อเป็นหลักประกัน ก็ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่โกงเขาอยู่แล้ว ไม่งั้นไม่กล้าให้เช็ค หรือไม่กล้าเซ็นสัญญาเงินกู้ (เงินก่อนเช็ค?) คือเขาทำตั้งแต่ 30 มีนาถูกไหม เราเอาเช็คแลกกันเพื่อความสบาย เหมือนไม่ไว้ใจพี่ปู ก็เลยมาให้เราเซ็นสัญญา ที่เขาไปออกรายการ 

 

ทนายกิ่ง : คือในลักษณะที่พี่ปูมีธุรกิจขายกระเป๋ากับเพื่อน ที่บอกว่าเป็นธุรกิจฮิต คือจริงๆมีในแง่ของคนรู้จัก ว่ามีการทำธุรกิจขายกระเป๋า ซึ่งบางทีกลุ่มคนพวกนี้ไม่ได้เงินทุน ก็จะมาในแง่ของการหยิบยื่น ขอยืมเงิน เพื่อที่จะไปซื้อ แล้วเอาไปขาย แล้วเอามาแบ่งกำไรให้พี่ปู ประมาณนี้ คือเขาทำกันมาอยู่แล้ว แต่เข้าใจว่าฝั่งคุณลูกหมี ก็ไม่อยากจะคุยตรงฝั่งโน้น ก็เอาเงินลูกหมีไปก็ได้ เหมือนจะได้กำไรจากตรงนี้บ้าง แต่เขาไม่ได้สนใจว่าพี่ปูจะเอาไปทำกับร้านกระเป๋า เขาแค่สนใจดอกเบี้ยที่จะได้รับในแต่ละยอดที่โอน

 

ตกลงเป็นการลงทุนหรือกู้ยืม?
ทนายกิ่ง : เขาคิดว่าเป็นการกู้ยืมเงิน เขาไม่ได้สนใจว่าเอาเงินไปทำอะไร สมมุติว่าพี่ปูบอกว่าจะเอาเงินไปทำตรงนี้ แล้วจะแบ่งกำไรให้นะ 1000 อย่างที่เขาเสนอ แต่เราให้เขาจริงๆ 1000 - 2000 แต่การที่ให้เขาเรื่อยๆ แต่เขาไม่ได้คิดเรื่องของสุจริตที่รับเงินฟรี แต่เขาไม่เข้าใจดอกเบี้ย โอนมาก็เก็บ ค่าสุจริตจริงคุณต้องเอาไปทบต้น ไม่ใช่ว่ารับมา 600,000 ก็ยังคงค้างต้นอยู่ 2,000,000 แบบนี้ไม่ได้ 

ปู : เขาเสนอมาด้วยว่าเงินก้อนเท่านี้ จะปล่อยจำนวนวันเท่านี้ 

 

ทนายบอกว่าเป็นดอกเบี้ยแต่ไม่ใช่กำไร?
ทนายกิ่ง : คือพี่ปูเขาทำกับเพื่อน ก็แล้วแต่กำไร แต่ลูกหมีเขามองว่าเป็นดอกเบี้ยทั้งก้อน บางยอดเข้าใจว่าปูเอาไปให้เพื่อน แล้วเพื่อนก็เอาไปจ่ายดอกเบี้ย คือคนพวกนี้ไม่ได้มีหลักประกัน เขาเลยยอมจ่ายเงินก้อน ยอมจ่ายดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูง แล้วคนที่ให้กู้ก็รู้อยู่แล้ว ว่าเอาไปให้คนที่ไม่มีหลักประกัน ก็เลยอยากจะเรียกดอกเบี้ยสูงๆ มันก็เลยเกิดเหตุการณ์แบบนี้เลยเถิด คือมองว่าพี่ปูเป็นลูกหนี้เลยก็ได้ ตามที่เขาฟ้อง ยอดทั้งหมดยังไงก็ต้องรับผิดชอบ เพราะว่าเราเป็นคนจัดการ รับโอนเงินจากเขา 

 

เขาบอกว่าเสนอเองไม่ได้เรียกร้อง?
ทนายกิ่ง : ในแชทมีหลักฐาน วันนี้ขอ +1000 นะคะ จะคืนกี่โมง ตอนที่โอนมาบวกเพิ่มอีก 10,000 ใช่ไหม มันมีรายละเอียดตรงนี้ อย่างที่อาจารย์ประมาณอธิบาย เช่นยอด 1,000,000 แต่คุณโอน 850,000 นี่คือคุณเรียกตั้งแต่แรกอยู่แล้ว คุณหักดอกไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว มันมีข้อมูลทุกอย่างชัดเจน 

 

เอาเงินไปทำอะไร?
ปู : เขาไม่สนใจค่ะ เพราะเขาบอกว่าคุยกับพี่ปูคนเดียว เขาปล่อยดอกกับพี่ปูคนเดียว เราเคยบอกเขา ว่าให้ไปคุยกับเพื่อนโดยตรง มีธุรกิจกระเป๋านาฬิกาเสื้อผ้า ซื้อมาขายไป แล้วก็มีเรื่องรับจำนำรถ 

 

เพื่อนว่ายังไงบ้าง?
ปู : เพื่อนก็ไม่ว่าอะไร แต่เอาข้อมูลหลักฐานทุกอย่างให้อาจารย์หมดแล้ว แต่ลูกหมีเขาไม่สนใจ เรื่องระหว่างกู้ยืมเขาไม่สนใจว่าจะไปทำธุรกิจอะไรแต่หลักฐานข้อมูลทั้งกระเป๋านาฬิกาและเรื่องรถที่ทำธุรกิจกับเพื่อนแต่ได้ส่งให้ทนายเรียบร้อยแล้ว ก็คือกู้ยืมค่ะ 

 

มีกำหนดระยะเวลาไหมว่าจะคืนเมื่อไหร่?
ปู : มีค่ะ แต่ยังไม่ได้เข้าไปคุย (ถ้าขอคืนในวันนี้?) มีพร้อมค่ะ มีพร้อมที่จะคืน แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เขาทำกับปู กับลูกปูกับครอบครัวปู อันนี้เรายังไม่ได้คุยกันค่ะ แต่เรื่องเงินยอดหนี้ที่ค้าง ยังไงต้องใช้อยู่แล้ว ไม่เคยพูดกับสื่อใดใด ไม่เคยบอกเขาว่าจะไม่ใช้ เขาส่งตัวแทนสส.ท่านหนึ่งมาคุยกับปู ในเรื่องของหนี้ที่เหลือ เขาบอกว่ายอดหนี้เหลือ 2,000,000 แล้วในระหว่างช่วงเดือนเมษา ปูโดนโกงที่ดินร้อยล้านพอดี ก็เลยบอกว่าเหลือที่ดิน 4โฉนด ก็จะทำขายฝาก เพื่อเอาเงินไปคืนเขา แต่สส. ท่านนี้บอกว่า คุยกับลูกหมีแล้ว ถ้าทำขายฝากไม่ได้ ก็ให้เอาโฉนด มาคัฟเวอร์ยอด 2,000,000 ขายฝากเป็นชื่อลูกหมี พอพี่ปูมีเงินก็เอาไปไถโฉนดคืน ก็นัดกันว่าจะเอาไปคืนวันที่ 14 เดือนที่แล้ว แต่ 13 เดือนที่แล้วเขาไปแถลงข่าว 

 

จะคืนทั้งก้อนหรือว่าแบ่งจ่าย?
ปู : ทั้งก้อน ตอนนั้นเราไม่ได้ห่างหาย เขาบอกว่าติดต่อไม่ได้ ไม่มีค่ะ มีแชท LINE ทุกอย่าง ติดต่อเขาได้หมด ทั้งติดต่อเขา และผ่านทางร้อยเวร คือเขาไปพูดกับกับพรรคการเมืองหลายพรรคมาก ทั้งพรรคของสามี และพรรคอื่นๆ บอกว่าเมียหาญส์เซ็นเช็คเด้ง 2 ล้าน จนเจ้านายเขาโทรมา จนคนในพรรคการเมืองเอาไปนินทา 

 

แล้วเช็คเด้งจริงไหม?
ปู : เรื่องเช็คเราคุยกันตั้งแต่ต้น ว่าลูกหมีขอพี่ปูบอกว่าขอเป็นเช็คค้ำประกันเพื่อความสบายใจนะ ถึงเราจะรู้จักกันแต่ขอเป็นเช็คเพื่อความสบายใจ เรา ให้เขา เราเขียนตามทุกอย่าง ทั้งที่เซ็นกระดาษเปล่า เราจริงใจกับเขา ช่วยเหลือช่วยเหลือเขา หาเงินให้เขาภายในระยะเวลาแค่ 4เดือน ให้เขา 600,000 แต่เขามาทำกับครอบครัวเรา 2 เดือน เข้ารพ.5ครั้ง น้ำหนักลด 6 โล ต้องทานยา พบจิตแพทย์ 

 

ฝากถึงลูกหมี?
ปู : สิ่งที่ทำกับพี่ปูครอบครัวพี่ปู จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เวรกรรมมีจริงค่ะ

 

 

ขณะที่ "ทนายประมาณ" แถลงข้อมูลสเตทเม้น สรุปได้ว่า จากข้อมูลสเตทเม้นของคุณปู มัณฑนา ที่โอนไปโอนกลับให้คุณลูกหมี โดยเริ่มต้นมูลเงินหนี้ในคดีนี้ 2.7 ล้านบาท โดยมีการโอนก้อนแรก 8.5 แสนบาท ให้ปล่อยกู้ 3 เดือน ดอกเบี้ยร้อยละ 15 พอโอนเงินจำนวนนี้มาแล้ว คุณปูต้องจ่ายเช็คค้ำประกันให้คุณลูกหมีไว้ 1 ล้านบาท จากนั้นก็มีการโอนเงินมาให้กู้อีก 2 หมื่นบาท กู้ตอน 11 โมง พอบ่ายโมงก็โอนคืน ดอกเบี้ย 1 พันบาท ซึ่งเป็นการกู้ 2 ชม. หากคำนวนเป็นดอกเบี้ยต่อปีจะคิดเป็น 1,825 เปอร์เซ็นต์

 

หลังจากนั้นก็มีการโอนเงินมาให้กู้อีก 2 หมื่นบาท กู้ 1 วัน จ่ายดอกเบี้ย 2,000 บาท ซึ่งก็มีการกู้ยืมเงินลักษณะนี้มาหลายครั้ง จากนั้นวันที่ 18 ต.ค.2566 มีการปล่อยกู้อีก 900,000 บาท แต่หากดอกไว้ 100,000 บาท โดนมาเพียง 800,000 บาท และให้คุณปูจ่ายเช็คใบที่สองอีก 900,000 บาท หลังจากนั้นก็มีการโอนเงินมาให้กู้ยิบย่อยอีกหลายครั้ง คิดเป็นเงินที่ยังไม่ได้คืน ประมาณ 600,000 บาทเศษ แต่คุณลูกหมีบอกให้คุณปูจ่ายเช็คเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงิน 800,000 บาท รวมเบ็ดเสร็จจ่ายเช็ค 2.7 ล้านบาท ซึ่งเป็นต้นกำเนิดมูลหนี้

 

โดยยอดเงินทั้งหมดที่คุณลูกหมีโอนเงินให้คุณปูจำนวน 4,057,700 บาท ขณะที่คุณปูโอนเงินคืนให้คุณลูกหมีแล้ว 2,640,498 บาท ซึ่งเท่ากับว่าเหลือยอดหนี้ 1,417,201 บาท แต่มีเช็คค้ำประกันอีก 2 ล้านบาท และมีสัญญาเงินกู้อีก 2 ล้านบาท ทั้งที่พอควรจะมีการออกโนติสบอกว่าหากไม่จ่ายก็ฟ้องร้อง ไม่ใช่มาแจ้งความดำเนินคดีอาญาแบบนี้ แล้วยังมีการเดินสายออกรายการต่างๆทำลายชื่อเสียงเขา ซึ่งตนในฐานะทนายว่าความมา 40 กว่าปีแล้ว เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงต้องออกหน้ามาชี้แจงให้สังคมได้รับรู้

 

ส่วนการไกล่เกลี่ยตอนนี้มีการยื่นข้อเสนอไปแล้วว่า เงิน 1.4 ล้านบาทที่เหลืออยู่นี้ คุณหาญส์และคุณปู พร้อมจะรับผิดชอบ ส่วนจะจ่ายก้อนเดียว ทยอยจ่ายยังไงก็ไม่มีปัญหา แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าที่คุณทำอยู่ทุกวันนี้ทำให้เขาเสียหายทั้งครอบครัว คุณจะรับผิดชอบยังไง วันนี้คุณปูไม่กล้าออกจากบ้าน เพราะออกไปก็โดนสังคมนินทา ลูกไปเรียนก็โดนเพื่อนซุปซิบนินทาหาว่าแม่เป็นคนขี้โกง ทั้งนี้ก็มี 2 แนวทาง คือแยกคดีเช็ค ออกจากคดีหมิ่นประมาท และจัดการตามกฎหมายกรณีทำลายชื่อเสียง แต่แนวทางนี้จะทำให้คดีไม่จบแบบบูรณาการ ซึ่งแนวทางที่ 2 จะจบแบบบูรณาการ คุณจะรับผิดชอบอย่างไรกับสิ่งที่คุณทำให้เสียชื่อเสียงจนถึงวันนี้

 

ยืนยันว่าทุกจำนวนมีที่มาที่ไปหมด ยอดหนี้วันนี้ลบกันที่คุณปูโอนไปแล้วหนี้เหลืออยู่ 1.4 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาคุณปูเกิดเงินขาดมือ ไม่ใช่เหตุที่จะไม่ชำระหนี้ แต่เจ้าหนี้ลูกนี้ควรจะผ่อนสั้นผ่อนยาว แต่กลับไปแจ้งความหลังผิดชำระหนี้แค่วันเดียว และสัญญากู้ 2 ล้านบาท ก็ไม่ใช่มูลหนี้ที่มีอยู่จริง เพราะมีดอกเบี้ยผิดกฎหมายอยู่ในนั้นด้วย