Lifestyle

"หม่าล่า" นอกจากจะซ่าแล้วยังลดอักเสบ ช่วยเผาผลาญ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"หม่าล่า" มีฤทธิ์ในการกระตุ้นการเผาผลาญของร่างกายเราด้วยนะ แต่เพื่อผลที่ดีที่สุดก็ต้องไม่ลืมว่าจะต้องกิน "หม่าล่า" แต่พอดี

จะมาพูดถึง "หมาล่า" กันทั้งทีเรามารู้จักว่าอะไรบ้างที่ประกอบร่าง จนมาเป็นหม่าล่าได้ ส่วนผสมหลักนั้นชื่อว่า "ฮวาเจียว" - "花椒" แต่ฮวาเจียวก็ไม่ได้โซโล่มาคนเดียว แต่ต้องนำไปผสมกับเครื่องเทศอื่น ๆ ด้วยอย่าง "โป๊ยกั๊ก-ก้านพลู-อบเชย-เฟนเนล" ส่วนกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเครื่องปรุงนี้ก็ได้มาจาก "ยี่หร่าด้วยส่วนผสมสุดพิเศษทั้งหมดนี้ จึงกลายมาเป็นเมนูสุดฮิตอย่าง "ชาบูหม่าล่า" "ปิ้งย่างหม่าล่า" หรือแม้แต่ "น้ำจิ้มรสหม่าล่า" 


แต่ทุกคน นอกจากหม่าล่าจะให้ความ เผ็ด-แซ่บ-ซ่า จนบางทีก็ "ลิ้นชา" กันไปข้างนึงจนรับรสน้ำหวานไม่ได้แล้ว เครื่องเทศนี้ยังมีส่วนช่วยในเรื่องของสุขภาพอีกด้วย เพราะใน "หม่าล่า" มีสารชนิดที่มีชื่อว่า แคปไซซิน


 

 

 

 

แคปไซซิน ที่พูดถึงนี้เป็นสารที่อยู่ในพริกทุกชนิด ในทุกส่วนของพริก แต่จะพบมากสุดในตรงแกนกลางขาว ๆ กลางพริก สิ่งนี้เองทำให้พริกนั้นมีรสชาติเผ็ด แคปไซซิน มีส่วนช่วยในเรื่องการเร่งการเผาผลาญ การลดไขมันตัวร้ายอย่างไตรกรีเซอไรด์ สลายไขมันที่ตับ ไขมันในเลือด จึงทำให้มีอาหารเสริมมากมายนำพริกไปสกัดเป็นตัวช่วยในการควบคุมน้ำหนัก และยังมีฤทธิ์บรรเทาอาการอักเสบในลำคอ และฆ่าเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหารด้วย


ด้วยฤทธิ์อันร้อนแรงจากหม่าล่าจะทำให้การเผาผลาญที่ดีขึ้นก็จริง แต่ต้องไม่ลืมว่าในบางร้านจะมีการใส่ผงชูรส และเกลือลงไปในเครื่องเทศนี้เยอะเช่นกัน เวลาเราไปปาร์ตี้ "หม่าล่า" หรือ เวลามี "หม่าล่า" มาเป็นอาหารแกล้ม เราเลยอาจจะต้องดูส่วนผสมให้ดีว่าหม่าล่าที่เรากำลังกินนี้มีโซเดียมเยอะประมาณไหน แต่หากเรานานทีกินหน กระตุ้นระบบภายใน หม่าล่าก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีในการช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกายเราได้ 

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก:

https://blog.themalamarket.com

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ