ข่าว

(คลิป)รวบไต้ก๋งแล่โลมาแดดเดียว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จับแล้ว ไต๋ก๋งเรือ พร้อมผู้ช่วยล่าโลมา ทำแดดเดียว สารภาพสั่งลูกเรือใช้อวนลาก 30 ตัวขึ้นเรือ ก่อนนำ 4 ตัวมาชำแหละตากแห้ง ตำรวจตั้งข้อหาพ.ร.ก.การประมง

 

 

2 กันยายน 2562  จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปข่าวเรือประมง และคนงานในเรือจับปลาโลมา ขึ้นจากมหาสมุทร บริเวณน่านน้ำประเทศมาเลเซีย และมีการใช้ภาษาไทยสื่อสารกันบนเรือ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง  

 

ก่อนจะมีการเผยแพร่ภาพในโซเชียลมีเดีย ในช่วงระหว่างวันที่ 14 และ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา จนทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้เร่งตรวจสอบจนทราบว่า เรือประมงที่ก่อเหตุคือ เรือประมง “ส.พรเทพนาวี 9 ” ซึ่งถูกระบุว่าขายให้กับนายทุนชาวมาเลเซียไปแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน พร้อมเปลี่ยนเป็นเรือสัญชาติมาเลเซีย และคาดว่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น “KNF 7779”

 

 

กระทั่ง พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบช.กมค.ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบ และติดตามการบังคับใช้กฎหมาย ศูนย์บัญชาการการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ได้ลงพื้นที่ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อติดตามมาดำเนินคดี โดยได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและสืบสวน พร้อมกับประสานงานกับกรมประมง และทางการมาเลเซีย พร้อมได้ทำการร้องทุกข์ไว้ตามกฎหมาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ วันนี้ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบช.กมค.ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบ และติดตามการบังคับใช้กฎหมาย ศูนย์บัญชาการการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) เปิดเผยว่า จากการสืบสวนสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานเอกสารและพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นที่แน่ชัดว่า มีผู้กระทำความผิดเป็นคนไทย ด้วยกัน 2 คน คือนายธนัญชัย หรือไต้หาร มิ่งมิตร อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นไต้เรือลำที่เกิดเหตุ และอีกคนคือนายสันติ หรือไต้ติ บัวผุด อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นผู้ช่วยไต๋เรือลำดังกล่าว

 

 

ดังนั้น จึงได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 2 กันยายน ที่ห้องประชุมพร้อมพินิจชั้น 15 สำนักงานกฎหมายและคดี ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ พร้อมกับแจ้งข้อหาแก่ผู้ต้องหาทั้งสองตาม พ.ร.ก.การประมงฯ มาตรา 66 ห้ามมิให้ผู้ใดจับสัตว์น้ำชนิดที่เลี้ยงลูกด้วยนมสัตว์น้ำที่หายากหรือใกล้สูญพันธุ์ตามที่รัฐมนตรีประกาศกําหนด หรือนําสัตว์น้ำดังกล่าวขึ้นเรือประมง เว้นแต่มีความจําเป็นเพื่อการช่วยชีวิตของสัตว์น้ำนั้น

 

ซี่งตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กําหนดชนิดสัตว์น้ำที่เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์น้ำที่หายากหรือใกล้สูญพันธุ์ที่ห้ามจับหรือนําขึ้นเรือประมงพ.ศ. 2559 ข้อ 2 กําหนดให้สัตว์นํ้าชนิดที่เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์น้ำที่หายากหรือใกล้สูญพันธุ์ เป็นสัตว์น้ำที่ห้ามมิให้ผู้ใดจับหรือนําขึ้นเรือประมง ซึ่งรวมถึง โลมาและวาฬทุกชนิด โดยการกระทำผิดดังกล่าว มีโทษตาม มาตรา 145 มีโทษปรับตั้งแต่ 3 แสนบาท ถึง 3 ล้านบาท ตามจำนวนผู้ต้องหา

 

พล.ต.ท.จารุวัฒน์ กล่าวว่า ในชั้นสอบสวนนายธนัญชัย ให้การรับสารภาพว่า เป็นไต้เรือ (ไต้ก๋ง) ส่วนนายสันติ ผู้ช่วยไต้เรือ (ผู้ช่วยไต้ก๋ง) ก็ได้รับว่าเป็นผู้ช่วยไต๋เรือลำที่เกิดเหตุจริง และผู้ต้องหาทั้งสองยังเป็นผู้สั่งการให้คนงานในเรือลำดังกล่าว เอาโลมาที่ติดอวนจำนวน 30 ตัว ขึ้นมาบนเรือจริง หลังจากนำขึ้นมาแล้วได้นำมาทำอาหาร ประมาณ 4 ตัว เป็นเนื้อแดดเดียว ส่วนปลาโลมาที่เหลือได้โยนทิ้งลงทะเลไป ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้พนักงานสอบสวนจะต้องส่งเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการเปรียบเทียบตาม พ.ร.ก.การประมงฯ เพื่อดำเนินการพิจารณาเปรียบเทียบผู้ต้องหาทั้งสองตามกฎหมายต่อไป ซึ่งหากผู้ต้องหาไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ จะต้องถูกกักขัง ไม่เกิน 2 ปี

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ