"ซ้อลักษณ์" เดินหน้าเอาผิด ประธานมูลนิธิดัง ฉ้อโกงขายวุฒิปลอม

จากกรณี น.ส.วิไลลักษณ์ "ซ้อลักษณ์" ผู้เสียหาย ไปแจ้งความว่าถูกประธานสาวมูลนิธิดัง เสนอซื้อขายวุฒิการศึกษา ป.ตรี จากมหาวิทยาลัยพิษณุโลก พร้อมกันนี้ยังได้แอบอ้างเสนอซื้อขายบัตรคณะทำงานนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง จนกลายเป็นประเด็นดังข้ามคืน ต่อมา ม.พิษณุโลก ออกมาแถลงโต้ว่าไม่มีการซื้อขายวุฒิฯ และเตรียมดำเนินคดีคนทำเสียหาย ขณะเดียวกันมีการตั้งข้อสงสัยว่าแชทดังกล่าวอาจเป็นของปลอม นั้น
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• "ซ้อลักษณ์" เปิดหน้าชน "ประธานมูลนิธิดัง" ยันแชทไลน์ของจริง
• ม.พิษณุโลก แถลงยืนยัน ไม่มีซื้อขายวุฒิการศึกษา ไม่รู้จักประธานมูลนิธิดัง
• "สมคิด" จ่อเอาผิด มูลนิธิต้นอ้อ ปลดคณะทำงาน 14 คน ปมถูกอ้างขายตำแหน่ง

4 ก.ค. 2567 ซ้อลักษณ์ อดีตผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเป็นหนึ่ง ได้เดินทางมายังมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อยื่นนำหลักฐานการซื้อขายวุฒิการศึกษา มายื่นให้กับตัวแทนของทนายรณรงค์ ยื่นกระทรวงอุดมศึกษา พร้อมจุดธูปสาบานว่า เรื่องทั้งหมดคือเรื่องจริง ถ้าโกหกให้มีอันเป็นไปใน 3 วัน 7 วัน

ซ้อลักษณ์ กล่าวว่า ตนรู้จักกับประธานมูลนิธิคนนี้ ตอนที่อดีตสามีทำร้ายร่างกาย แล้วหวังพึ่งพาเขา เพราะเราถูกกระทำ ซึ่งตอนนั้นเราไม่มีใครเลย นอกจากเขาเราไว้ใจเขามาก เขาพูดอะไรเราก็เชื่อหมด บอกว่ามีรู้จักผู้ใหญ่มากมาย สร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งตนยอมรับว่า ซื้อวุฒิการศึกษาจากมาหาวิทยาลัยเเห่งหนึ่งในพิษณุโลกจริง เนื่องจากตนจบแค่ ม.6 ซึ่งอีกฝ่ายบอกว่า หากอยากทำงานในวุฒิสภา ก็ควรจะมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี

ซึ่งประธานมูลนิธิหญิง บอกว่า สามารถหาวุฒิการศึกษาได้ ในตอนนั้นตนได้แย้งไป ว่ามันผิดกฎหมายเเต่ ประธานมูลนิธิ บอกว่าไม่ต้องกลัว เพราะรู้จักผู้ใหญ่ทางรัฐสภาฯ สามารถเคลียร์ได้  ยืนยันว่า ไม่มีการปลอมไลน์ เป็นสนสนทนากันตั้งเเต่เริ่มต้น โดยเฉพาะการหว่านล้อมเรื่องตำเเหน่ง

ตนโอนเงินไป 4 ครั้ง รวมแล้วกว่า 2 แสนบาท โอนเข้าบัญชีของคนที่อ้างว่าเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย ต่อมาได้สอบถามไปยังบุคคลดังกล่าว มาทราบภายหลังว่าเป็นเพื่อนประธานมูลนิธิหญิงที่เรียนมาด้วยกัน

ซ้อลักษณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับหลักฐานที่นำมามอบให้นั้น แม้อีกฝ่ายอ้างว่าเป็นของปลอม แต่ยืนยันว่า ไลน์เป็นของประธานมูลนิธิจริงๆ และหากต้องถูกดำเนินคดีก็ยอม เเต่ฝากว่าอย่าไปทำเเบบนี้กับใครอีก

ด้าน นายชาญชัย ฉายบุ ทนายความ เปิดเผยว่า การกระทำขอมูลนิธิเข้าข่ายฉ้อโกง เเละ ร่วมกันฉ้อโกง ซึ่งจะมีความผิด 3 คน คือ ประธานมูลนิธิหญิง คนที่รับโอนเงิน เเละอาจารย์ในมหาวิทยาลัย ส่วนซ้อลักษณ์ ยังไม่ได้รับวุฒิการศึกษา เเละ ยังเรียนไม่จบ ก็ยังถือว่าไม่มีความผิด