ข่าว

ส่งตรวจหาสารพิษ "น้ำเขียวมรณะ" หลังสาวใหญ่ดื่มแล้ว น้ำลายฟูมปากดับ

ส่งตรวจหาสารพิษ "น้ำเขียวมรณะ" หลังสาวใหญ่ดื่มแล้ว น้ำลายฟูมปากดับ ลูกชายแขนขาอ่อนแรง เชื่อคนร้ายหวังปลิดชีพยกครัว

3 ก.ค. 2567 เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดทุ่งสว่าง บ้านโคกผักหอม หมู่ 2 ต.อูบมุง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี หลังทราบข่าวว่ากำลังจะมีพิธีฌาปนกิจศพ นางสาริณี (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ซึ่งญาติสงสัยว่าอาจถูกวางยาพิษเสียชีวิต โดยวันนี้ พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.หนองวัวซอ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานอุดรธานี เดินทางมาเปิดฝาโลงเพื่อเก็บเนื้อเอื้อกระพุงแก้ม ไปตรวจพิสูจน์หาสารพิษ

นายสมพร สมนาม ผู้ใหญ่บ้านโคกผักหอม พาผู้สื่อข่าวไปดูบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมเล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเที่ยงคืน วันที่ 2 ก.ค. 2567 ผู้ใหญ่บ้านได้รับแจ้งจากว่า มีลูกบ้านถูกวางยาเสียชีวิต จึงเดินทางมาตรวจสอบพร้อม ตำรวจ สภ.หนองวัวซอ พบร่างนางสาริณี นอนเสียชีวิตน้ำลายฟูมปากอยู่ห้องโถงภายในบ้าน มีขวดน้ำอัดลมขนาด 1.5 ลิตร วางอยู่ 2 ขวด 1 ขวดเปิดฝาดื่มไปแล้ว จนเหลือครึ่งขวด และพบกองอาเจียนของผู้ตาย

ส่งตรวจหาสารพิษ \"น้ำเขียวมรณะ\" หลังสาวใหญ่ดื่มแล้ว น้ำลายฟูมปากดับ

นอกจากนี้ยังพบว่าลูกชายผู้ตายก็ดื่มน้ำอัดลมขวดเดียวกันกับแม่ มีอาการเหงื่อออกตามร่างกาย ตัวร้อน ขาอ่อนแรง ก่อนจะอาเจียน ส่วนตนเองได้กลิ่นยาฆ่าหญ้าผสมในน้ำอัดลม เพราะตนเป็นเกษตรกร และชินกับกลิ่นยาฆ่าหญ้าอยู่แล้ว

ทั้งนี้ ผู้ตายเป็นแม่ม่ายลูกติด มาแต่งงานใหม่กับนายถวัลย์ ทั้งคู่เคยฐานะดี มีรถเกี่ยวข้าว รถไถ รถปิกอัพ แต่พอกิจการขาดทุนต้องขายทรัพย์สินทั้งหมด เหลือบ้านและที่นา 9 ไร่ ทำงานรับจ้าง ผู้ตายเป็นคนอารมณ์ดี ไม่มีศัตรูที่ไหน คาดว่าคนร้ายต้องโกรธแค้นมากจึงหวังจะฆ่ายกครัว

ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวอีกว่า ยังไม่ฟันธงว่าใครทำ เพราะไม่มีพยานเห็นว่าใครเอาน้ำอัดลมผสมยาพิษมาวางให้ครอบครัวนี้ ซึ่งผู้เสียชีวิตเคยมีประวัติลักเล็กขโมยน้อย แต่เป็นเพียงลักพืชผักสวนครัวนำมากินเท่านั้น แต่ชาวบ้านไม่ได้ติดใจเอาความ คาดว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด คิดว่าครอบครัวนี้ไปลักสิ่งของมีค่าก็เป็นได้

ส่งตรวจหาสารพิษ \"น้ำเขียวมรณะ\" หลังสาวใหญ่ดื่มแล้ว น้ำลายฟูมปากดับ

 

ด้าน นายถวัลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี สามีผู้ตาย เล่าว่า วันเกิดเหตุหลังจากกินข้าวเย็น ตนออกไปหาวางตาข่ายดักปลาในทุ่งนาหลังบ้าน พอกลับเข้ามาเห็นภรรยาน้ำลายฟูมปากและจมูก พูดไม่ได้อยู่บริเวณหน้าบ้าน และชี้มือไปที่น้ำอัดลม ตนจึงอุ้มภรรยาไปนั่งที่โซฟา เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัว แล้วอุ้มเข้าไปในบ้าน ส่วนลูกชายเดินไม่ได้ เพราะขาอ่อนแรง ก่อนจะขอความช่วยเหลือจากชาว ให้พาภรรยาไปส่งโรงพยาบาล แต่ภรรยาเสียชีวิตก่อน

"คิดว่าเป็นการฆาตกรรม แต่ไม่รู้ว่าใคร เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีศัตรูที่ไหน ลูกและภรรยาก็เช่นกัน ที่ต้องรีบเผา เพราะว่าไม่มีเงินจัดงานหลายวัน อยากฝากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้ เพราะอยากรู้ว่าเป็นใคร และอยากบอกดวงวิญญาณภรรยา ว่าถ้าชาติหน้ามีจริงหรือโชคดี ก็จะได้พบกับภรรยาอีก" นายถวัลย์ กล่าว

นายถวัลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี สามีผู้ตาย

ด้าน นายศุภชัย อายุ 37 ปี ลูกชายผู้ตาย เล่าว่า ตนอยู่บ้านกับพ่อแม่ รวม 3 คน เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนเพิ่งทะเลาะกับภรรยา จนหนีกลับบ้านไป และไม่รู้ว่าภรรยาไปอยู่ที่ไหน ช่วงเย็นวันเกิดเหตุหลังกินข้าวเสร็จ ตนนั่งเล่นอยู่หลังบ้าน พ่อออกไปหาปลา ส่วนแม่เดินมานั่งหน้าบ้าน ไม่นานแม่เดินมากวักมือเรียกตนว่า มาดูอะไร พอตนเดินมา แม่ก็ชี้ใส่ขวดน้ำอัดลม ซึ่งแม่เปิดกินแล้ว ตนจึงถามว่าใครเอามาให้ แม่บอกว่าไม่รู้ เดินออกมาเห็นถุงน้ำอัดลมวางอยู่หน้าบ้าน แม่นึกว่าคนในบ้านซื้อมาวางไว้จึงเปิดกิน แม่บอกให้ตนชิมดู ตนจึงกินไป 1 อึก ตอนนั้นรู้สึกฝาดลิ้น แต่ไม่มีกลิ่น 

 

 

หลังดื่มน้ำอัดลม 1 อึก ตนก็เข้าไปนอนในห้อง ประมาณ 10 นาที รู้สึกร้อน เหงื่อออกเต็มตัว พอลุกขึ้นจะไปเปิดพัดลม ก็ล้มเพราะแขนขาอ่อนแรง ตนจึงเรียกพ่อมาเปิดพัดลมให้ แต่พ่อบอกว่ากำลังดูแม่ เพราะแม่น้ำลายฟูมปาก ไม่รู้สึกตัวแล้ว ตนจึงกัดฟันลุกมาอาบน้ำ และล้วงคออาเจียน ทำให้อาการดีขึ้น แล้วจึงรีบออกมาดูแม่ และรีบขอความช่วยเหลือชาวบ้านเอารถมาพาแม่ไปโรงพยาบาล แต่รอนานกว่า 1 ชั่วโมง จนแม่สิ้นใจไปต่อหน้า

"คิดว่าคนก่อเหตุ หมายเอาชีวิตยกบ้าน ถ้าตนไม่ฝืนเดินออกมาและล้วงคออาเจียน ก็อาจจะไม่มีชีวิตอยู่ ตนได้โวยวายว่าแม่เอาอะไรให้ตนกิน จึงมีอาการหายใจไม่ออก จนต่อว่าแม่ว่าเอาอะไรให้ผมกิน ตนคิดว่าคนทำหวังฆ่ายกครัว ถ้าคนร้ายดูอยู่อยากให้ออกมามอบตัว มารับกรรมที่ทำไว้" ลูกชายผู้เสียชีวิต กล่าว

ส่งตรวจหาสารพิษ \"น้ำเขียวมรณะ\" หลังสาวใหญ่ดื่มแล้ว น้ำลายฟูมปากดับ

ร.ต.อ.พิเชฐ พรมสมบัติ รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองวัวซอ เปิดเผยว่า เบื้องต้นสอบปากคำพยานไปแล้ว 4 ปาก ส่วนมากจะเป็นญาติและผู้ใหญ่บ้าน ส่วนศพได้นำส่งนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว ส่วนผลตรวจหาสารพิษในร่างกายอีกประมาณ 30 วัน จึงจะทราบว่าเป็นสารพิษชนิดใด ซึ่งตำรวจสืบสวนได้ออกสืบสวนหาเบาะคนร้ายจากขวดน้ำอัดลมจากร้านชำในหมู่บ้าน และร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้เคียง ยังไม่ทราบว่าน้ำอัดลมที่ยังไม่ได้เปิดขวด จะมีสารพิษเหมือนกันหรือไม่ ต้องให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาตรวจพิสูจน์อีกครั้ง

ข่าวที่น่าสนใจ