หิ้วสะใภ้สอบปม "น้ำเขียวมรณะ" ด้าน สามีผู้ตาย ยอมรับสงสัยลูกสะใภ้

จากกรณีสาวใหญ่กิน "น้ำเขียวมรณะ" น้ำลายฟูมปากดับ ส่วนลูกชายแขนขาอ่อนแรง โชคดีไปอาเจียนออก จึงรอดชีวิต โดยครอบครัวเชื่อว่าเป็นการวางยาหวังปลิดชีพยกครัว พร้อมให้ข้อมูลว่า 2-3 วัน ก่อนเกิดเหตุ ลูกชายคนตายเพิ่งมีปากเสียงกับภรรยา จนหนีออกจากบ้านไป ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบปากคำ แต่ไม่ตัดประเด็นขัดแย้งอื่นๆ ด้วยนั้น
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• เปิดปม น้ำเขียวมรณะ คาดเอี่ยวปัญหาครอบครัว เพื่อนบ้าน ตร.เร่งล่าสะใภ้ไขคดี
• ส่งตรวจหาสารพิษ "น้ำเขียวมรณะ" หลังสาวใหญ่ดื่มแล้ว น้ำลายฟูมปากดับ

4 ก.ค. 2567 นายถวัลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี สามีผู้เสียชีวิต พร้อมด้วย นายศุภชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ลูกชายผู้ตาย และ น.ส.น้อง อายุ 34 ปี ภรรยานายศุภชัย อดีตลูกสะใภ้ และเพื่อนชาย มาสอบปากคำ และพิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อนำไปเปรียบเทียบลายนิ้วมือบนขวดน้ำเขียว นอกจากนี้ตำรวจยังนำตัว น.ส.น้อง ไปตรวจปัสสาวะ หาสารเสพติด ซึ่ง น.ส.น้อง ปฏิเสธตอบคำถามนักข่าว

นายถวัลย์ สามีผู้ตาย บอกว่า อยู่กินกับผู้ตายมา 3 ปี ผู้ตายเป็นทั้งเพื่อนนักเรียน เรียนหนังสือมาด้วยกัน และมาเป็นสามีภรรยากัน ก็รู้สึกเสียใจ หลังจากนี้ตนก็จะกลับไปอยู่บ้านตัวเอง ทั้งนี้ ตนไม่สงสัยลูกชาย แต่สงสัยลูกสะใภ้ ก่อนหน้าที่ยังอยู่บ้านหลังเดียวกัน ลูกสะใภ้ชอบเที่ยวเตร่ ไม่เป็นแม่บ้านแม่เรือน มีแค่ตนออกไปหาปูหาปลา มาทำกับข้าวให้กิน

ด้าน นายศุภชัย ลูกชายผู้ตาย กล่าวว่า ที่บ้านจะเลี้ยงสุนัขไว้ 3 ตัว จะเห่าคนแปลกหน้า บางครั้งก็เห่าเจ้าของบ้าน วันเกิดเหตุตนไม่ได้ยินเสียงหมาเห่า คาดว่าอาจเป็นคนที่สุนัขคุ้นเคย ที่ผ่านมาตนกับภรรยาทะเลาะกันบ่อยครั้ง เรื่องภรรยาชอบเที่ยวเตร่ หายจากบ้านไปหลายวัน ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน กับใคร ส่วนแม่กับภรรยามักมีปากเสียงกัน เรื่องภรรยาชอบเที่ยว ไม่ทำงานบ้าน ไม่ดูแลครอบครัว แต่ทะเลาะไม่รุนแรง และจะดีกันเหมือนเดิม ทุกครั้งภรรยาจะพูดว่าไม่โกรธแม่

นายศุภชัย เล่าต่อว่า 2 สัปดาห์ก่อนเกิดเหตุ  แม่ตักเตือนภรรยาตนเรื่องเที่ยวเตร่ และได้ยกเท้าเฉียดปาก พร้อมกับพูดว่านี่แค่ตักเตือน ถ้ายังไม่เลิกเที่ยวอีก จะทำรุนแรงกว่านี้ ต่อมาเจ้าหน้าที่มายกหม้อไฟฟ้าไป เพราะไม่ได้ไปจ่ายค่ายไฟ ทำให้ภรรยาไม่ได้ชาร์ตแบตมือถือ จึงไปชาร์ตแบตมือถือในหมู่บ้าน จากนั้นก็ไม่กลับมาอีกเลย ส่วนเรื่องน้ำอัดลมสีเขียว แม่ไม่ซื้อมาแน่นอน เพราะแม่ไม่ชอบน้ำอัดลม จะชอบซื้อเหล้ามากกว่า

ผู้สื่อข่าวตรวจสอบภาพวงจรปิดคืนเกิดเหตุ บริเวณบ้านหลังหนึ่งริมถนน ก่อนถึงบ้านของผู้ตายประมาณ 100 เมตร พบว่าเวลา 20.18 น. - 22.00 น. มีรถจักรยานยนต์ขับผ่านไปทางบ้านผู้เสียชีวิต 4 คัน คาดว่า 1 ในนั้น จะเป็นรถชาวบ้านที่ไปหาปลา และนายถวัลย์ขอความช่วยเหลือ รวมถึงบางคันอาจจะเป็นรถต้องสงสัยขี่มาก่อเหตุ ต่อมาเวลา 00.09 น. มีรถจักรยานยนต์ขี่เข้าหมู่บ้าน จนกระทั่งเวลา 00.44 น. จะเห็นรถกู้ชีพเทศบาลตำบลอูบมุง ขับไปที่เกิดเหตุ

เบื้องต้นตำรวจตั้ง 2 ประเด็น มีปากเสียงในครอบครัว รวมไปถึงผู้ตายมีพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อย อาจะไปสร้างความไม่พอใจให้กับผู้อื่น แต่เนื่องจากไม่มีประจักษ์พยานอื่นๆ นอกจากคนในครอบครัว และกล้องวงจรปิดไม่สามารถระบุได้ชัดเจน ซึ่งต้องรอผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อระบุให้แน่ชัดว่าคนร้ายเป็นใคร