ชีวิตดีสังคมดี

แคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก ทำคอนเทนท์สิ่งแวดล้อมง่ายๆ บน 'TikTok'

กทม.จับมือ 'TikTok' และกระทรวงทรัพฯ ผุด แคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก ทำคอนเทนท์สิ่งแวดล้อมง่ายๆ ผ่านแอปฯ TikTok พร้อมวัดคาร์บอนฟุตพรินท์ผ่านเว็บ ECOLIFE

การดูแลสิ่งแวดล้อมไม่จำเป็นต้องพึ่งแค่หน่วยงานรัฐเท่านั้น เพราะความจริงแล้ว ประชาชนทุกช่วงวัยสามารถเป็นคนที่ช่วยดูแลสิ่งแวดล้อทได้ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรให้โลกได้ ก็สามารถทำได้เช่นกัน ล่าสุด "TikTok" กรุงเทพมหานคร กระทรวงทรัพยากรณ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  จัด แคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก เพื่อให้เด็กและเยาวชนมาช่วยกันรักษ์โลก และดูแลสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน ด้วยวิธีง่าย ๆ ผ่านการทำคอนเทนต์ลงใน "TikTok"  

นางสาวชนิดา คล้ายพันธ์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะ "TikTok"  ประเทศไทย กล่าวถึงที่มาของแคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก ว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาใหญ่ที่ประชาคมโลกให้ความสำคัญ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทยในการก้าวสู่ Net Zero ในปี 2070 ซึ่งหลายคนมองประเด็นนี้ว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่ "TikTok"  เห็นความสำคัญจึงต้องการใช้แฟลตฟอร์มที่มีมาปลูกฝังแนวคิดการใช้ชีวิตประจำวันที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้กับคุณครูและนักเรียน 

“ปัญหาสิ่งแวดล้อมถ้าทำเพียงลำพัง โอกาสสำเร็จจะเกิดยาก TikTok จึงร่วมมือกับ 3 พันธมิตรที่จะมาช่วยกันผลักดันแคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลกได้แก่ กรุงเทพมหานคร ที่ดูแลโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ดูแลโครงการโรงเรียน Eco-School และ บริษัท คิดคิด จำกัด เจ้าของเว็บไซต์ ECOLIFE ที่ช่วยจัดการขยะ โดยรูปแบบการดำเนินการโดยรูปแบบการดำเนินการคือ TikTok จะต้องเตรียมคอนเทนต์ เพื่อชวนให้นักเรียนและโรงเรียนร่วมกันติดติดแฮชแท็กชาเลนจ์ หลังจากนั้นจะมีการใช้คีเอสเตอร์ที่มีอยู่ในแพลตฟอร์มร่วมกันสร้างคอนเทนท์ด้านสิ่งแวดล้อมให้มีความเข้าใจง่ายและเข้าถึงง่ายมากที่สุด” นางสาวชนิดา กล่าว 

 

 

แคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก จะจัดขึ้นระหว่างเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2566 โดยชวนเด็กและเยาวชนมาสร้างสรรค์คอนเทนต์ภายใต้เนื้อหา 3 RE Challenge ที่ประกอบด้วย Refill : ชวนพก กระบอกน้ำ กล่องข้าว ชวนเติมเพื่อลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง Recheck : เช็คการใช้ชีวิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมง่าย ๆ ทำได้อย่างไรบ้าง Recycle : ชวนแยกขยะประเภทต่าง ๆ แยกอย่างไร ขยะไปไหนต่อ โดยนำคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์มานำเสนอผ่านช่อง "TikTok" โดยเด็กและเยาวชนที่อายุไม่ถึง 18 ปี จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคุณครูตามข้อกำหนดการใช้งานของ "TikTok"

ระหว่างนี้จะมีการติดตามผลการลดขยะ การแยกขยะ และสามารถคำนวณการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ด้วย โดยโรงเรียนที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด

 

 

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีขยะมากกว่า 9,000 ตันต่อวัน สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้เพียง 30 % เราจึงมีเป้าหมายที่จะจัดการขยะแบบมุ่งเน้นให้ขยะเหลือศูนย์ โดยปลูกฝังค่านิยมการคัดแยกขยะอย่างเป็นระบบ และสนับสนุนให้มีการคัดแยกขยะที่ต้นทาง รวมถึงนำไปแปรรูปเพื่อให้ได้ใช้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งนับว่าสอดคล้องกับแคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก ที่ต้องการจะเริ่มต้นการปลูกฝังนิสัยรักสิ่งแวดล้อมหรือการสร้างความตระหนักรู้ให้แก่นักเรียน โดยปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีโรงเรียนในสังกัดประมาณ 437 แห่ง มีนักเรียนกว่า 2.5 แสนคน การเริ่มต้นทำการเริ่มต้นทำกิจกรรม ผ่าน แพลตฟอร์มที่สามารถเข้าถึงวัยรุ่นได้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการปลูกฝังและสร้างความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมให้นักเรียน และนักเรียนสามารถนำและนักเรียนสามารถนำความรู้ไปส่งต่อให้อย่างผู้ปกครองและชุมชนได้

 

"กทม.ยินดีที่ "TikTok" ริเริ่มแคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก และ กทม. ได้ให้การสนับสนุนด้านการสื่อสารโครงการและประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มเป้าหมายคุณครู และนักเรียน ในเครือข่ายโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร รวมทั้งจะส่งเสริมการเก็บข้อมูลการแยกขยะผ่านเว็บไซต์ ECOLIFE เพื่อคำนวณการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก หลังจากการร่วมมือในครั้งนี้กทม. จะต้องดำเนินการหลังจากการร่วมมือในครั้งนี้กทม. จะต้องดำเนินการจัดเตรียมอุปกรณ์ที่จะนำมาใช้ในแคมเปญ ด้าน "TikTok" จะมีการเตรียมเนื้อหาในการทำด้าน "TikTok" จะมีการเตรียมเนื้อหาในการทำชาเลนทั้งนี้เพื่อให้เด็กนักเรียนและครูสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายที่สุด" นายชัชชาติ กล่าว 

 

 

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ดูแลโครงการโรงเรียน Eco-School กล่าวว่า โรงเรียน Eco-School เกิดจากความมุ่งมั่นที่ต้องการพัฒนางานสิ่งแวดล้อมศึกษาในโรงเรียน ให้สอดคล้องกับแนวทางการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อปลูกฝังความเป็นพลเมืองเพื่อสิ่งแวดล้อม ให้เกิดขึ้นแก่ครู นักเรียน บุคลากรในโรงเรียน รวมถึงชุมชน ปัจจุบันมีโรงเรียน Eco-School   931 แห่ง กระจายอยู่ทั่วประเทศ 

 

“แคมเปญนี้จะช่วยส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และยังเป็นกิจกรรมเรียนรู้นอกห้องเรียนที่ทำให้นักเรียนได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ เช่น ประสบการณ์ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ผ่านช่อง "TikTok" ซึ่งเมื่อเราเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนนำเสนอคอนเทนต์ในสไตล์ของเขา แล้วสื่อสารไปยังคนวัยเดียวกันที่มีความสนใจคล้ายกัน ก็เชื่อว่าจะเป็นการรวมพลังที่แข็งแกร่งขึ้น เพื่อมาช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของเราให้ดีขึ้นด้วย” นายจตุพร กล่าว

 

นายพิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิดคิด จำกัด วิสาหกิจเพื่อสังคมที่ให้คำปรึกษาด้านพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมกับองค์กร และเป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม ECOLIFE กล่าวว่า ECOLIFE เกิดขึ้นเพื่อจูงใจให้คนเลิกรับหลอดและถุงพลาสติก โดยมีโจทย์ว่าการใช้งานจะต้องง่าย สนุก และสามารถบอกผลเรียลไทม์ว่าร้านค้าหรือสถาบันการศึกษาแต่ละแห่งสามารถลดพลาสติกไปได้มากน้อยแค่ไหน

 

“แคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ที่ทุกคนสามารถทำได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพกกระบอกน้ำเพื่อลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง การแยกขยะเพื่อรีไซเคิล หรือการหยุดคิดสักนิดว่าการใช้ชีวิตของเรามีตรงไหนที่จะทำให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้อีกบ้าง 

 

แพลตฟอร์ม ECOLIFE จะมีการเก็บข้อมูล ว่าสามารถจัดการขยะขยะได้เท่าไหร่และสามารถลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ได้ใน ซึ่งแพลตฟอร์มมีมาตรฐานการวัดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่ผ่านการรับรองจากอบก. โดยจะมีการเปิดเผยตัวเลขในช่วงปลายปีหลังจากจบโครงการ 

 

อย่างไรก็ตามทุกคนมีสิทธิ์ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ซึ่ง แคมเปญ REact For Change ลอง เปลี่ยนโลก เกิดจากกลยุทธ์ Smart Environment ที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ "TikTok" เพื่อส่งเสริมให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปฏิบัติตัวในชีวิตประจำวันเพื่อทำโลกของเราให้ดีขึ้น ซึ่งทุกคนสามารถติดตามคอนเทนต์ดี ๆ ภายใต้เนื้อหา 3 RE Challenge ของเด็กและเยาวชนได้ที่ช่อง "TikTok" และเชื่อว่าคอนเทนต์เหล่านี้จะทำให้เกิดผลกระทบเชิงบวก เกิดการรับรู้ และนำไปสู่การปฏิบัติในวงกว้าง ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และสามารถติดตามผลลัพธ์แคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก ได้ที่ www.ecolifeapp.com

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวยอดนิยม