ข่าว

รู้จัก 'แคนดิเดตนายกฯ' ชื่อ 'เศรษฐา ทวีสิน' เจ้าพ่ออสังหาฯ อู้ฟู่หมื่นล้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ฝุ่นทางการเมืองยังตลบอบอวล แต่ถ้า 'พิธา' วืดตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 อย่างเป็นทางการ สปอตไลต์จะส่องไปยังแคนดิเดตนายกฯ จาก 'พรรคเพื่อไทย' และ 'เศรษฐา ทวีสิน' ในวัย 60 ปี ที่กำลังเป็นเต็งหามเพราะจะถูกเสนอชื่อให้ที่ประชุมรัฐสภาโหวตก้าวขึ้นผู้นำประเทศ รอลุ้น 19 ก.ค.นี้

 

สปอตไลต์การเมืองส่งไปที่เจ้าพ่ออสังหาฯ รวยอู้ฟู่หมื่นล้าน "เศรษฐา ทวีสิน" หลังจาก "อุ๊งอิ๊ง" แพทองธาร ชินวัตร ส่งสัญญาณชัดว่าถ้า "พิธา" ไม่ได้ไปต่อ "พรรคเพื่อไทย" จะเสนอชื่อ "เศรษฐา" เป็นแคนดิเดตนายกฯ คนที่ 30 ซึ่งต้องรอลุ้นว่าการประชุมรัฐสภา 19 ก.ค.นี้ ขั้นตอนการโหวตนายกฯ จะออกมารูปแบบไหน

 

เศรษฐา ทวีสิน ภาพ: เฟซบุ๊ก เศรษฐา ทวีสิน - Srettha Thavisin

 

ก่อนนี้ "เศรษฐา ทวีสิน" เคยปล่อยวาทะเด็ดโต้ประเด็นสลับขั้ว ต่อคำถามโอกาสที่ "เพื่อไทย" จะหันไปจับมือกับพลังประชารัฐจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ว่า "เลอะเทอะ" ถามกี่ครั้งก็จะตอบว่า "เลอะเทอะ" คำอธิบายนี้มีความหมายในตัวว่า ไม่มีเหตุผลใดที่พรรคเพื่อไทยจะทำอย่างนั้น แต่สถานการณ์ ณ เวลานี้ดูเหมือนแคนดิเดตนายกฯ อาจต้องเปลี่ยนคำพูดใหม่ 

 

 

ภายหลังตัดสินใจลงสู่สนามการเมืองในนามเพื่อไทย "เศรษฐา" แสดงความเชื่อมั่นต่อเป้าหมายมาโดยตลอด โดยเขาเคยอธิบายด้วยความมั่นใจก่อนถึงวันหย่อนบัตรเลือกตั้ง 13 พ.ค. 2566 ว่า เขามาเพราะ "Getting some" แปลความได้ว่า "ถ้าไม่แน่ใจ (ว่าจะได้เป็น...) คงไม่มา" ซึ่งคงหมายถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

 

 

เมื่อสถานการณ์การเมืองค่อยๆ งวด และบีบให้ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" แคนดิเดตจาก "ก้าวไกล" เดินออกจากเกม และท้ายที่สุดอาจไปจบที่ฝ่ายค้าน ชื่อของ "เศรษฐา ทวีสิน" ก็ถูกโฟกัสมากขึ้น โดยเขาย้ำว่าถ้ามติพรรคเห็นชอบก็พร้อมทำหน้าที่นายกฯ ในรัฐบาลชุดใหม่

 

 

ล่าสุดภาพฉากทัศน์รัฐบาลชุดใหม่แจ่มชัดมากขึ้นเมื่อ "อุ๊งอิ๊ง" แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ ของ "เพื่อไทย" อีกคน ออกมายืนยันว่า หากการโหวตนายกฯ (พิธา) รอบ 2 ไม่ผ่าน "เพื่อไทย" ก็จะเสนอชื่อ "เศรษฐา ทวีสิน" ชิงเก้าอี้นายกฯ คนที่ 30 ฉะนั้นถ้าไม่ "พิธา" ก็ "เศรษฐา" นี่แหละที่มีโอกาสจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 

 

เศรษฐา ทวีสิน และครอบครัว ภาพ: เฟซบุ๊ก DrPakpilai Thavisin

สำหรับ "เศรษฐา ทวีสิน" มีชื่อเล่น "นิด" เกิด 15 ก.พ. 2506 เป็นบุตรคนเดียวของ ร.อ.อำนวย ทวีสิน กับ ชดช้อย จูตระกูล เขาจบปริญญาโท ด้านการเงินจาก Claremont Graduate School สหรัฐอเมริกา และตำแหน่งล่าสุดก่อนลาออกมาเล่นการเมืองคือ ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)

 

เศรษฐา ทวีสิน และครอบครัว ภาพ: เฟซบุ๊ก DrPakpilai Thavisin

คู่ชีวิตของ "เศรษฐา" คือ "หมออ้อม" พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน มีบุตรด้วยกัน 3 คน คือ "น้อบ" ณภัทร ทวีสิน, "แน้บ" วรัตม์ ทวีสิน และ "นุ้บ" ชนัญดา ทวีสิน หลังจบปริญญาโท เมื่อปี 2529 เศรษฐาเข้าทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เป็นเวลา 4 ปี จากนั้นก็ย้ายไปทำงานที่ บริษัท แสนสำราญ ของ อภิชาติ จูตระกูล ที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง ซึ่งในเวลาต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท แสนสิริ และเศรษฐาก็ขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

 

 

จุดยืนทางการเมืองของ "เศรษฐา" ชัดเจนมาตั้งแต่ต้น เขาเลือกข้างทักษิณ และพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะกับอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งทำธุรกิจอสังหาฯ ด้วยกัน โดยที่ครั้งหนึ่งเคยตกเป็นข่าวฮือฮาทางการเมือง

 

 

"เศรษฐา" ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวไทยรัฐ ระหว่างเปิดตัวพรีเซลโครงการแสนสิริ ที่สยามพารากอน เมื่อ 17 ก.พ. 2555 โดยยอมรับว่า ได้พบยิ่งลักษณ์ ที่ชั้น 7 โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์จริง แต่เป็นการเข้าพบกันหลายคนเป็นกลุ่ม 6-7 คน และได้มีการพูดคุยกันหลายเรื่อง หลายประเด็น ทั้งเรื่องสถานการณ์บ้านเมือง เรื่องเศรษฐกิจ ดอกเบี้ย การเงิน ถือเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันมากกว่า...ผมอยากให้ทุกฝ่ายให้เกียรติท่านนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะเป็นสุภาพสตรีด้วย และเป็นนายกฯ ของประเทศ ส่วนเรื่องดังกล่าวเป็นไปตามที่ท่านนายกฯ ให้ข่าวไปแล้ว" (ที่มา: https://www.posttoday.com/politics/138518)

 

 

ก่อนจะมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ เมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว "เศรษฐา" ประกาศว่าได้สมัครเป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทย ผ่านบัญชีทวิตเตอร์ส่วนตัวและถัดมาเดือน มี.ค. 2566 พรรคเพื่อไทยก็แต่งตั้งเขาเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวของพรรค หรือเป็นที่ปรึกษาให้กับ "อุ๊งอิ๊ง" แพทองธาร ชินวัตร 

 

 

หลังจากนั้นเขาได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Srettha Thavisin ขอโอนหุ้นแสนสิริ 661,002,734 หุ้น หรือ 4.44% คิดมูลค่ากว่า 700 ล้านบาท ให้แก่ "ชนัญดา ทวีสิน" ซึ่งเป็นลูกสาว ก่อนลงเล่นการเมือง

 

 

"เศรษฐา ทวีสิน" ในวัย 60 ที่กระโจนเข้าสู่การเมืองนั้นไม่ธรรมดา เพราะผลประกอบการของอาณาจักรแสนสิริประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยในปี 2565 แสนสิริมียอดขายสูงถึง 5 หมื่นล้านบาท โตขึ้นเกือบ 50% จากปี 2564 ทำให้มีรายได้รวมทั้งสิ้น 34,983 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิสูงถึง 4,280 ล้านบาท

 

 

นอกจากบทบาทนักธุรกิจอสังหาฯ ที่เก่งและโดดเด่นแล้ว ไลฟ์สไตล์ "เศรษฐา" เป็นที่รู้กันดีว่าเขาเป็นผู้ชายที่หลงใหลกีฬาลูกหนังอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นคนบ้าบอล โดยปัจจุบันยังปลีกเวลาลงสนามลับแข้งกับเพื่อนฝูงอยู่สม่ำเสมอ และยังสร้าง "แสนสิริอะคาเดมี่" เพื่อฝึกทักษะการเป็นนักฟุตบอลที่ดีให้กับเยาวชนอีกด้วย

 

 

นอกจากนั้นแล้วใครที่ได้มีโอกาสเจอะเจอ "เศรษฐา" ตัวเป็นๆ มักจะเห็นสัญญลักษณ์สีแดงตามตัวเขาด้วยเสมอ ส่วนหนึ่งอาจเพราะเขาชื่นชมลีลาของขุนพลหงส์แดงลิเวอร์พูล สีแดงจึงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเศรษฐา ตั้งแต่เคสมือถือยันถุงเท้าที่สวมใส่ ฯลฯ 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ