ถอดรหัสสปีค"นายกฯ" ตรงไหนคือขอเงิน-ขอทานจาก20เศรษฐี

“ผมทราบว่า หลายภาคส่วนในทีมประเทศไทย ได้เริ่มลงมือทำอะไรที่สำคัญ และมีประโยชน์ไปแล้วหลายอย่าง แต่วันนี้ผมต้องการเพิ่มความร่วมมือกับท่านทั้งหลาย ให้มากยิ่งขึ้น โดยเริ่มที่ภาคเอกชนก่อน สิ่งที่ผมจะทำในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า ประการแรก คือผมจะออกจดหมายเปิดผนึกถึงมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย 20 ท่าน ขอให้ท่านเหล่านั้นได้บอกผมว่า ในฐานะที่ท่านเป็นผู้อาวุโสของสังคม ท่านจะร่วมมือกันกับเราอย่างไร และท่านจะลงมือช่วยเหลือประเทศไทยของเราให้มากขึ้นได้อย่างไรบ้าง

มหาเศรษฐีของประเทศไทยทั้งหลาย ล้วนมีอิทธิพลอย่างมากต่อเศรษฐกิจของประเทศ และถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ผมขอให้ท่านได้มีบทบาทสำคัญ ในการร่วมกันช่วยเหลือประเทศ และร่วมเป็นทีมประเทศไทยด้วยกันกับเรา

ผมเข้าใจและซาบซึ้ง ที่หลายท่านได้ลงมือทำไปแล้วหลายเรื่อง แต่ผมต้องการให้ทุกท่าน ทำเพิ่มเติม มากกว่าที่ท่านได้ทำไป.ผมรู้ว่าทุกท่านต่างก็เต็มใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ประเทศ ต้องการความช่วยเหลืออย่างมากที่สุด เพราะผมรู้ว่า ความเดือดร้อนของคนไทยก็คือความเจ็บปวดของท่านด้วย

 ผมขอให้ทุกท่าน ได้แบ่งปันความสามารถ และความฉลาดหลักแหลมรวมทั้งมุมมองอันมีวิสัยทัศน์ของพวกท่าน พร้อมกับใช้องค์กรที่มีศักยภาพสูงของท่าน มาช่วยกันจัดการกับวิกฤตที่เรากำลังเผชิญอยู่ในวันนี้ นอกเหนือจากกลุ่มมหาเศรษฐี ของประเทศไทย ผมยังอยากจะรับฟังและใช้ความรู้ความสามารถ ของภาคเอกชนทั้งหมดอีกด้วย

ดังนั้น สิ่งที่ผมจะทำ ในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า ประการที่สอง คือ ผมจะไปพบกับสมาคมภาคธุรกิจไม่ว่าจะขนาดกลาง หรือขนาดเล็ก เพื่อรับฟังพวกท่านด้วยตัวของผมเองโดยตรง ไม่ต้องผ่านหน่วยงานใดเพื่อให้ผมจะได้รับทราบถึงสถานการณ์ที่แท้จริง”

นี่คือถ้อยคำบางส่วนที่ถอดจากคำพูดทั้งหมดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในวันศุกร์ที่17 เมษายน ที่ผ่านมา แล้วถูกฝ่ายตรงข้ามตีความว่า รัฐบาลถังแตก ไม่มีเงินมาบริหารจัดการหรือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด ถึงกับต้องไป”ขอทาน” จาก 20 มหาเศรษฐีไทย

คำว่าท่านจะช่วยอะไรประเทศชาติได้บ้าง จากที่ท่านได้ทำอยู่แล้ว ตรงนี้กระมังที่พากันตีความว่าจะให้เศรษฐีเอาเงินมาช่วย

แต่หากอ่านและจับใจความทั้งหมดแล้ว จะเห็นว่า นายกฯต้องการความเห็น ต้องการวิสัยทัศน์ของมหาเศรษฐีที่ประสบความสำเร็จจนร่ำรวยมหาศาล ว่ามีไอเดียในการแก้ปัญหาอย่างไร

เนื่องจากไวรัสโควิดมีปัญหาที่มาพร้อมกันสองอย่างคือ โรคภัย กับปัญหาเศรษฐกิจ นายกฯจึงอยากจะได้องค์ความรู้จากภาคเอกชน เพื่อนำมาผสมผสานกับการทำงานของภาครัฐ ในการกอบกู้วิกฤติครั้งนี้ ดังที่ในตอนท้ายนายกฯได้พูดถึงการดึงภาคเอกชนมาร่วมเป็นทีมประเทศไทย เพื่อฝ่าฟันวิกฤติไปด้วยกัน

หากมองอย่างเป็นธรรม และมองเจตนาของนายกฯ ย่อมไม่มีตรงไหนเลยที่นายกฯจะออกหนังสือเชิญ20มหาเศรษฐีหรือมากกว่านั้น มาเพื่อจะขอเงิน  สถานการณ์ของคนไทยตอนนี้ชี้ให้เห็นเลยว่า การที่นายกฯอยากจะให้ไม่มีสีเสื้อ ไม่แบ่งฝ่ายไม่มีเรื่องการเมืองนั้น คงเป็นไปได้ยาก เพราะมีกลุ่มการเมืองที่เสียผลประโยชน์จากรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ และกลุ่มการเมืองเหล่านี้ก็จ้องที่จะต่อต้านทุกอย่างที่รัฐบาลทำเพราะกลุ่มหนึ่งก็หนีไปต่างประเทศ อีกกลุ่มหนึ่งก็ถูกยุบพรรค.