คอลัมนิสต์

ทางแพร่งส้ม ‘ปิยบุตร’ ฝากถึง ‘ธนาธร’ พรรคเถ้าแก่หรือพรรคซ้ายใหม่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คู่ต่อสู้เปลี่ยน ปิยบุตร ชี้ไม่ใช่ 3 ป. ฝากการบ้าน ธนาธร ก้าวไกลแลนด์สไลด์ไม่ง่าย ฝ่าด่านชนชั้นนำผนึกเพื่อไทย พิทักษ์ระบอบเก่า

โจทย์ท้าทาย ปิยบุตร ฝากการบ้าน ธนาธร ก้าวไกลไม่ง่าย ฝ่าด่านชนชั้นนำ ผนึกเพื่อไทย พิทักษ์ระบอบเก่า 


ก้าวไกลยุค สส.หน้าใหม่ ไร้ประสบการณ์ จะบริหารแบบไหน การนำรวมหมู่ หรือจบที่พรรคเถ้าแก่สีส้ม


การประกาศวางมือทางการเมืองของ ปิยบุตร แสงกนกกุล อาจทำให้คนบางกลุ่มในพรรคก้าวไกลโล่งอกโล่งใจ เนื่องจากระยะหลัง อาจารย์ป๊อก สวมวิญญาณครูใหญ่วิจารณ์ สส. และผู้บริหารพรรคก้าวไกลแบบตรงไปตรงมา จนมีแรงกระเพื่อม

ขณะที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เดินเกมภาย ในพรรคผ่านมือทำงานที่ใกล้ชิด กระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงภายในพรรค


เมื่อ ชัยธวัช ตุลาธน ก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค พร้อมกับอภิชาติ ศิริสุนทร เป็นเลขาธิการพรรค ทั้งคู่ถือว่าเป็นผู้อาวุโสของพรรค และมีประสบการณ์ทางการเมือง


การปรับทัพสีส้มครั้งนี้ มีเป้าหมายชัดว่า ต้องการเป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง โดยมีชัยธวัช รับบทผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ


ส่วน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถูกวางตัวให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เหมือนเดิม เพราะอีก 4 ปีข้างหน้า ก้าวไกลยังต้องใช้ทิม พิธา เป็นจุดขาย หากตัวเขาไม่สะดุดคดีหุ้นสื่อ หรือคดีใช้ ม.112 หาเสียง

 

คู่ต่อสู้เปลี่ยนไป
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจารย์ป๊อก-ปิยบุตร ให้สัมภาษณ์ The Room 44 ว่าด้วยเรื่องสถานการณ์การเมือง และพรรคก้าวไกล


โจทย์ยากของพรรคก้าวไกลในปัจจุบันคือ คู่ต่อสู้เปลี่ยน ไม่ใช่กลุ่ม 3 ป. แต่เป็นพรรคเพื่อไทย ซึ่งชนชั้นนำดั้งเดิม ชั้นนำทางการเมืองและชนชั้นนำทางเศรษฐกิจ สนับสนุน เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี

ดังนั้น สิ่งที่ด้อมส้มวาดหวังกันว่า เลือกตั้งสมัยหน้า ก้าวไกลจะมาแบบฟ้าถล่ม 300 กว่าเสียง มันอาจเป็นเรื่องเพ้อฝันก็ได้


ปิยบุตร ประเมินผลการเลือกตั้งครั้งที่แล้วว่า พรรคก้าวไกล ได้ 14.4 ล้านคะแนน จาก สส.บัญชีรายชื่อ “...น่าจะเกินครึ่งแน่ๆ เป็นกระแสการไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี โดยที่พรรคก้าวไกล ชูธงมีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง กลายเป็นจุดเด่น”


แสดงว่า คนที่เลือกพรรคสีส้มในเชิงอุดมการณ์จริงๆ น่าจะอยู่ที่ 7-8 ล้านคะแนน และสมัยหน้า ไม่มีประยุทธ์แล้ว ก้าวไกลจะเอาอะไรมาสู้กับเพื่อไทย 

 

ในวันที่พรรคเพื่อไทย ได้อำนาจรัฐ ก็อัดฉีดประชานิยมเต็มที่ ยึดปากท้องนำการเมือง คะแนนนิยมที่หดหายไปก็จะกลับคืนมา 

 

 

สมัยที่ธนาธร และปิยบุตร ร่วมกันสร้างพรรคอนาคตใหม่

 

 

สร้างพรรคแบบไหน
วันที่พรรคอนาคตใหม่ ได้มา 80 กว่าที่นั่ง ก็มีปัญหาการบริหารจัดภายในพรรค แบ่งฝักแบ่งฝ่าย จนทำให้เกิดมี สส.งูเห่า และอดีตผู้สมัคร สส.จำนวนหนึ่ง ถอยทัพไปอยู่พรรคอื่น


ปัจจุบัน พรรคก้าวไกลโตพรวดพราด มี 151 ที่นั่ง จะบริหารพรรคกันแบบไหน ยิ่งเป็นพรรคเปิด พรรคมหาชน ก็ยิ่งเลี่ยงการขัดแย้งแตกหักได้ยาก


“..ต้องทำให้เห็นว่า ทุกคนมีส่วนร่วม ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่งทุบโต๊ะเป็นอย่างนี้อย่างนั้นหมด มันจะเป็นความท้าทายอันนี้ในเรื่องบริหารความต้องการของคน” ปิยบุตร ได้แสดงความเห็นไว้น่าสนใจ


มีใครบางคนทุบโต๊ะในพรรคก้าวไกลได้จริงหรือ เหมือนที่มีคนวิจารณ์ว่า พรรคสีส้มไม่ต่างจากพรรคเถ้าแก่แบบเพื่อไทย 


อย่างที่รู้กัน ต้นขั้วของพลพรรคสีส้ม เริ่มจากพรรคอนาคตใหม่ จนมาถึงพรรคก้าวไกล คือ การพบกันของผู้ชาย 2 คนคือ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และปิยบุตร แสงกนกกุล


ธนาธร เติบโตในอาณาจักรธุรกิจอะไหล่รถยนต์ ได้เห็นอา-สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เล่นการเมืองกว่า 30 ปี จึงมีข่าวลือสะพัดเรื่องดีลลับฮ่องกงในช่วงวันเกิดทักษิณ เมื่อสองเดือนก่อน


ดังนั้น เสี่ยเอก จึงมีความยืดหยุ่นทางการเมืองมากกว่าอาจารย์ป๊อก และเข้าใจธรรมชาติการเมืองเก่า จึงปรับแกนนำพรรคสีส้มชุดใหม่ เน้นความเก๋ามากกว่าความสด 


เสี่ยเอกมั่นใจในตัวเพื่อนต๋อม ชัยธวัช จะสร้างพรรคก้าวไกลให้เป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง และสร้างพรรคอยู่บนพื้นฐานความจริง ไม่ใช่การก๊อปปี้พรรคฝ่ายซ้ายในยุโรปมาทั้งดุ้น


 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ