Leicester Football Clinic ไม่ใช่ แค่ สอนเตะบอล : คอลัมน์ Eat play life โดย... นันทขว้าง สิรสุนทร
ดูเหมือนว่า ในจำนวน 4 ครั้ง ที่ “เนชั่นทีวี” ไปทำข่าวเกี่ยวกับเลสเตอร์ ซิตี้นั้น ...เป็นครั้งหลังสุดที่ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา บอสของทีม neverdie ดูสดชื่นมากกว่าทุกครั้ง... อันที่จริง ครั้งแรกเมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่คิงเพาเวอร์ สเตเดี้ยม เขาก็ก้าวขึ้นเวทีด้วยรอยยิ้มให้สัมภาษณ์สื่อไทยหลังจากหนีตกชั้นสำเร็จ แต่เมื่อบ่ายวันพฤหัสที่ผ่านมา อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ขึ้นเวทีอีกครั้งด้วยความมั่นอกมั่นใจมากขึ้น
...ส่วงหนึ่งอาจเป็นเพราะเลสเตอร์โชว์ฟอร์มร้อนแรง แพ้ยาก และคัมแบ็กอยู่ตลอดเวลา จนทีมที่นำไปก่อน ก็ไม่ค่อยมั่นใจว่า จะชนะหรือเปล่า (ฮา) แต่เหตุผลที่มากกว่านั้น น่าจะเป็นเรื่องนี้... ถ้าเอาจำนวนทั้ง 4 ครั้ง มาสแกนดูอย่างละเอียด เราจพบว่า สารตัวหนึ่งที่อยู่ในคำพูดของเขาก็คือ ความตั้งใจอันแน่วแน่และมุ่งมั่น ที่จะให้เลสเตอร์มีส่วนพัฒนา สร้างโอกาสแบบต่อเนื่อง ยาวนาน ให้เยาวชนไทย พยานปากสำคัญเสียงหนึ่ง ก็คือ โครงการนำเอาเด็กไทยไปศึกษาที่อังกฤษ และฝึกฝนทักษะด้านฟุตบอลเพื่อปูทางไปสู่อนาคตที่สดใส โครงการนี้รุ่นที่ 1 ผ่านไปแล้วอย่างราบรื่น แต่เมื่อจะถึงรุ่นที่ 2 การเปิดพื้นที่อย่างเต็มที่ จึงควรจะสร้างกิจกรรมระยะยาว เพื่อคัดเลือกและให้โอกาสที่เท่าเทียมกัน
แนวคิดนี้ งานแบบนี้ จะให้ดีต้องมีตัวจริงที่สังคมยอมรับ และ “เขาคนนั้น” ก็คือผู้ชายที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของเลสเตอร์เอง ซึ่งก็คือ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง โดยได้รับความร่วมมือกับทางผู้อำนวยการอคาเดมีของเลสเตอร์ อย่าง จอห์น รัดกิ้น ทั้ง 3 คนขึ้นเวทีต่อหน้าสื่อมวลชนคับคั่งที่มารอทำข่าวที่คิงเพาเวอร์...
คุณอัยยวัฒน์ เล่าให้ฟังว่า โครงการฟุตบอลคลินิก ถือเป็นโครงการที่ต่อยอดความรู้ทั้งในเรื่องลูกหนังและโอกาสทางอาชีพ ซึ่งส่วนนี้เป็นความตั้งใจของทางเลสเตอร์ และคิดว่าตอนนี้ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเริ่มเดินหน้าเต็มตัว เขาบอกว่าเยาวชนไทยจากทุกภาคจะมีโอกาสเท่ากันหมด เพราะในทุกภาคที่ฟุตบอลคลินิกไปนั้น มีถึง 9 โรงเรียนหลักในการเป็นเซ็นเตอร์ของกิจกรรมนี้ (สามารถดูและสมัครได้ที่ www.lcfcthai.com) ส่วนโค้ช “ซิโก้” ขยายความต่อว่า เรื่องบางเรื่องไม่ใช่งานที่ต้องเร่งรีบแบบทำวันนี้ พรุ่งนี้ต้องได้ผล เขาเปรียบเทียบการสร้างเยาวชนไทยกับฟุตบอลนั้น เหมือนปลูกต้นไม้ใหญ่ “ต้องใช้เวลาและใส่ใจตลอดเวลา”
น้ำผลไม้สีเขียวในงานปากทางเข้า ว่าหวานเย็นแล้ว แต่บรรยากาศในงาน ดูหวานชื่นกว่า... หวานชื่นกว่า เพราะมีเหล่าพันธมิตรมากมายมาร่วมกันทำให้กิจกรรมที่เรียกว่า ฟุตบอลคลินิก เดินไปข้างหน้า เช่น สายการบินแอร์เอเชีย, การบินไทย, ทรู และสิงห์ รวมทั้งอีกมากมายหลายชื่อ สื่อมวลชนหรือนักข่าวไทยบางคน ที่เคยไปรายงานในคิงเพาเวอร์ สเตเดี้ยม มองว่าฟุตบอลคลินิกเลสเตอร์มีความน่าสนใจหลายประการ อย่างแรก ทีมที่ว่านี้มีเทรนนิงกราวน์ที่ดีสุดติด 1 ใน 10 ของสนามซ้อมดีสุด (เหมือนที่ซิโก้บอก) อย่างที่สอง, เจ้าของทีมตั้งใจทำจริงจัง “ระยะยาว” มากกว่า “ระยะสั้น”
แต่ผมมองอย่างที่สาม ที่อาจจะไม่ได้พูดบนเวที... ทว่า จดจำได้จากการสนทนากับรองประธานสโมสรในบางเวลา ผมเคยเขียนไว้ว่า ไม่ว่าจะอย่างไร และไม่ว่าจะเงื่อนไขไหน “เลสเตอร์” ก็น่าจะเป็นทีมแรกๆ อยู่ดี ที่อาจจะมีคนไทย เด็กไทย ลงเล่นฟุตบอลอาชีพในแบรนด์ “พรีเมียร์ลีก” เป็นครั้งแรก ! การที่นักเตะสักคนที่มีความสามารถ ไม่ว่าจะมาจากชาติไหน ทุกคนต้องผ่านกติกาสำคัญของอีพีแอล นั่นคือ ต้องผ่านการติดทีมชาติมาแล้วกี่ครั้ง แต่อีกข้อที่ง่ายขึ้นก็คือ ต้องศึกษาในประเทศอังกฤษในระยะเวลาหนึ่ง... อย่างหลังนี่เอง ที่ทำให้เยาวชนไทย เด็กไทย น่าจะมีโอกาสมากขึ้นหากมีความสามารถไปถึงระดับนั้น นักเตะดังๆ บางคนอาจอยากย้ายมาเล่นที่อังกฤษ แต่เวิร์กเพอร์มิตไม่ผ่าน เพราะกฎบางอย่าง ทว่า ตอนนี้ เด็กไทยมีโอกาสแล้ว
เพียงแต่สิ่งแรกที่ต้องทำตอนนี้และก่อนทุกอย่าง คือ ไปสมัครโอกาสเหล่านี้ในฟุตบอลคลินิก (ทางเว็บไซต์ www.lcfcthai.com) เพราะเราล้วนเชื่อว่า เด็กไทยนั้นมี sense ของจิ้งจอกน้อย... จิ้งจอกที่ในความหมายของฟุตบอล คือ... ผู้หยั่งรู้แห่งการเป็นผู้ชนะ และเซนส์ในการทำประตู
.......................................
(หมายเหตุ Leicester Football Clinic ไม่ใช่ “แค่” สอนเตะบอล : คอลัมน์ Eat play life โดย... นันทขว้าง สิรสุนทร)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง