บันเทิง

Music from Another Dimension.jpgมิติอื่นของแอโรว์สมิธ

Music from Another Dimension.jpgมิติอื่นของแอโรว์สมิธ

14 มี.ค. 2556

Music from Another Dimension.jpgมิติอื่นของแอโรว์สมิธ : คอลัมน์ มองผ่านเลนส์คม โดย.. วิภว์ บูรพาเดชะ twitter.com/VipHappening

          บอกว่าวงแอโรว์สมิธเป็นฮาร์ดร็อกรุ่นใหญ่ก็คงไม่ผิด เพราะพวกเขาอยู่ในวงการมาร่วม 40 ปีเข้าไปแล้ว แต่สถานะของแอโรว์สมิธไม่ได้เป็นแค่รุ่นใหญ่ที่ให้ความรู้สึกถึงความเก๋าเท่านั้น พวกเขายังสามารถรักษาสถานะร็อกสตาร์และกระทั่งป๊อปสตาร์ไว้ได้อย่างอยู่รอดปลอดภัย
 
          เอาง่ายๆ ผมเชื่อว่าเด็กวันนี้ยังร้องเพลงประกอบภาพยนตร์สุดดังอย่าง I Don't Want to Miss a Thing ได้ ในขณะที่คนรุ่นน้าก็ยังไม่เลิกปลื้มเพลง Walk This Way และ Dream On ของพวกเขาเช่นกัน อีกประการหนึ่งที่ทำให้แอโรว์สมิธยังคงอยู่ในกระแสป๊อปคัลเจอร์ก็คือการที่นักร้องนำปากกว้าง สตีเฟน ไทเลอร์ (พ่อแท้ๆ ของดาราสาวสวย ลิฟ ไทเลอร์) สามารถเอาตัวไปอยู่ในรายการสุดแมสอย่าง อเมริกัน ไอดอล ขนาดที่ว่าแม้อัลบั้มนี้จะทิ้งห่างจากอัลบั้มชุดที่แล้วถึงสิบกว่าปี! (ไม่นับอัลบั้มแสดงสดและอัลบั้มคัฟเวอร์) เราก็ยังรู้สึกว่าแอโรว์สมิธไม่ได้ห่างหายไปไหนสักเท่าไหร่ ยังเห็นชื่อนี้และเห็นหน้าค่าตาของ สตีฟ ไทเลอร์ อยู่เสมอๆ แล้วอยู่ดีๆ พวกเขาก็ออกอัลบั้มใหม่ชุดนี้มาครับ ในชื่อปกว่า Music from another Dimension! ทำให้เราตื่นเต้นว่าพวกน้าๆ เขาจะมีมิติอะไรใหม่ๆ มานำเสนอในบทเพลงหรือเปล่า พวกเขาเปิดอัลบั้มด้วยเสียงพูดต้อนรับคนฟังเข้าสู่มิติพิเศษ เร่งให้เรารู้สึกตื่นเต้น แล้วก็เริ่มด้วยเพลง Luv XXX ที่เป็นร็อกหนักๆ ตามสไตล์ ท่อนฮุกพอมีเมโลดี้ให้ติดหู ดนตรีมีน้ำหนักที่หนักแน่น ซึ่งจะว่าไปก็ไม่ถึงกลับแปลกใหม่เท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าทำได้ไม่เสียฟอร์มเลย
 
          แล้วหลังจากนั้นทั้งอัลบั้มใหม่ของแอโรว์สมิธก็ดำเนินไปในแบบที่ไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์เลย คือมันไม่ต้องเป็นอัลบั้มที่รอเป็นสิบปีแล้วค่อยทำก็ได้ ถ้าออกต่อกับอัลบั้ม Just Push Play (2001) หรือ Nine Lives (1997) ก็ดูจะเป็นอัลบั้มร่วมรุ่นกันได้สบายๆ หลายเพลงในอัลบั้มนี้เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์คนหมู่มากได้ดีอย่างที่พวกเขาเคยทำมา เพลงร็อกอกหักอย่าง What Could Have Been Love นั้นติดหูหมับตั้งแต่รอบแรก ในขณะที่เพลงที่ได้ ไดแอน วอร์เรน นักแต่งเพลงสาวที่เคยเขียนเพลง I Don't Want to Miss a Thing ให้พวกเขาดังระเบิดมาแล้วก็ยังมาแต่งเพลงให้กำลังใจชื่อ We All Fall Down ให้ด้วย และอัลบั้มนี้ยังมีเพลงเด็ดที่ต้องเป็นซิงเกิ้ลแน่ๆ คือ Can't Stop Lovin' You ซึ่งได้นักร้องคันทรีป๊อปชื่อดัง แครี อันเดอร์วู้ด มาฟีเจอริ่งด้วย ท่วงทำนองไพเราะ ท่อนฮุกทรงพลัง เนื้อเพลงพูดถึงรักร้าวตามสไตล์ รับรองว่าฮิตแน่ๆ
 
          แต่แอโรว์สมิธก็ยังมีด้านที่ร็อกกันหนักๆ และไม่ทำตามใจตลาดอยู่หลายเพลง ที่ชัดก็คือ Street Jesus และ Out Go the Lights ซึ่งเครดิตการแต่งเพลงเป็นของสมาชิกวงเต็มๆ ใส่สีสันดนตรีกันแบบหนักมือ ท่อนโซโลและริฟฟ์กีตาร์โชว์ลีลาเต็มที่ เนื้อหาซีเรียสจริงจัง แถมยังเป็นเพลงที่ยาวถึง 6 นาทีทั้งคู่ ก็เลยเป็นเหมือนจุดพีกทางดนตรีของอัลบั้มนี้อยู่กลายๆ ในขณะที่เพลงที่ได้อารมณ์พังก์ร็อกอย่าง Love Alot ก็ดูลงตัวและสนุกสุดเหวี่ยงกันได้สะใจในเวลาแค่ 3 นาทีกว่าๆ ก็นับเป็นสีสันแก้เบื่อในอัลบั้มชุดนี้ได้เหมือนกัน
 
          แม้ Music from another Dimension! ไม่ได้พาเราไปถึงมิติใหม่ๆ ของแอโรว์สมิธ แต่ด้วยความเก๋าของพวกเขาที่ยังไม่เสื่อมคลาย และความสามารถทางดนตรีที่ไม่ได้ถูกภาพลักษณ์ป๊อปๆ กลบไปเสียก่อน ก็ยังทำให้อัลบั้มที่มีเพลงใหม่เอี่ยมในรอบสิบกว่าปีของร็อกระดับตำนานวงนี้สามารถรักษาเพดานบินไว้ได้ มีเพลงที่น่าจะฮิต และมีเพลงที่คอร็อกน่าจะพอใจอยู่ร่วมกันอย่างกลมกล่อม
 
          แอโรว์สมิธปิดอัลบั้มนี้ด้วยเพลง Another Last Goodbye ที่ได้ เดสมอน ไชลด์ นักแต่งเพลงเจ้าพ่อเพลงฮิตอีกคนมาร่วมแต่งด้วย เป็นเพลงอำลาความรักที่ร้องกับเปียโนและมีเครื่องดนตรีอื่นๆ มาช่วยเสริมเป็นระยะๆ ลีลาแบบมิวสิคัลนิดๆ ถูกเติมเข้ามา เพลงนี้ก็ดูจะเป็นสีสันใหม่นิดๆ หน่อยๆ ของแอโรว์สมิธได้อยู่ แม้ว่าจะไม่ถึงกับโดดเด่นมากมาย
 
          แต่ดูจากพลังดนตรีที่ยังคุกรุ่น ภาพลักษณ์ความเป็นร็อกสตาร์ที่ยังเฉิดฉาย และคอนเนกชั่นที่สามารถหาคนมาร่วมสร้างเพลงฮิตใหม่ๆ ต่อไปเรื่อยๆ ผมเชื่อว่าอัลบั้มนี้ยังไม่ใช่การอำลาครั้งสุดท้ายของแอโรว์สมิธแน่นอน
.......................................
(หมายเหตุ Music from Another Dimension.jpgมิติอื่นของแอโรว์สมิธ : คอลัมน์ มองผ่านเลนส์คม โดย.. วิภว์ บูรพาเดชะ twitter.com/VipHappening)