มาเลย์เตรียมเผยคืบหน้าMH370สัปดาห์หน้า

 

                     25 เม.ย.57 นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ของมาเลเซีย สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการให้สัมภาษณ์สำนักข่าว CNN ว่า รายงานการสืบสวนไปสู่การหายไปอย่างลึกลับของเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777 200ER เที่ยวบิน MH 370 พร้อมด้วยผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา จะถูกเปิดเผยในสัปดาห์หน้า ขณะที่รัฐบาลของเขายังคงเผชิญกับความโกรธ

แค้นของเหล่าสมาชิกในครอบครัว ที่ยังรอคอยบุคคลอันเป็นที่รัก ที่ยังไม่อาจทำใจยอมรับว่า เครื่องบินตก เว้นแต่ว่า จะมีหลักฐานที่ชัดเจนมายืนยัน 

 

                     นายนาจิบ เปิดเผยต่อริชาร์ด เควสต์ พิธีกรของ CNN ว่า ผลการสืบสวนในเบื้องต้นจะถูกเผยแพร่ต่อสาธารณชน แต่ก็บอกว่า จำเป็นต้องคำนึงถึงความรู้สึกของญาติพี่น้องของ

ผู้โดยสารบนเครื่องบินด้วย ซึ่งเมื่อวานนี้ ได้มีการปฎิเสธข่าวไปแล้วว่า วัตถุที่พบที่ชายหาดของออสเตรเลีย ไม่เกี่ยวข้องกับ MH370

 

                     รายงานการสืบสวน ได้ถูกส่งไปยังองค์การการบินพลเรือนสากลของสหประชาชาติแล้ว แต่ไม่มีการเผยแพร่สู่สาธารณชน นายนาจิบ บอกว่า เขาได้สั่งการไปยังทีมผู้เชี่ยวชาญการสืบสวนภายใน ให้ตรวจสอบรายงานฉบับนี้ ก่อนจะเผยแพร่ในสัปดาห์หน้า 

 

                     แม้ว่าจะผ่านมา 7 สัปดาห์แล้ว นับตั้งแต่ MH370 หายไปอย่างไร้ร่องรอย แต่เขาเลี่ยงที่จะบอกอย่างตรงไปตรงมา จะไม่มีโอกาสได้พบเครื่องบินอีกแล้ว เพื่อเป็นการเคารพต่อความรู้สึกของครอบครัวผู้สูญหาย แต่แม้จะเลี่ยงคำพูดที่กระทบกระเทือนความรู้สึก แต่เมื่อราวหนึ่งเดือนก่อน สายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์สใช้การส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือ ระบุว่า ไม่มีผู้รอดชีวิตแล้ว 

 

                     รัฐบาลมาเลเซีย ตกเป็นเป้าการวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงจากบรรดาญาติผู้สูญหาย ส่วนใหญ่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่า ไม่มีการดำเนินการอย่างเพียงพอในการค้นหาเครื่องบิน แต่ถ้อยแถลงล่าสุดของผู้นำมาเลเซีย ก็มีขึ้นในช่วงที่พายุไซโคลนก่อตัวอีกและเป็นอุปสรรคต่อการค้นหาทางอากาศ บนผิวน้ำและใต้น้ำ ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง26 ชาติ ในมหาสมุทรอินเดีย 

 

                     การค้นหาทางอากาศถูกระงับมาแล้ว 2 วัน เนื่องจากฝนตกหนัก และคลื่นลมแรง ด้วยเพราะอิทธิพลของพายุไซโคลนแจ็ค ปฏิบัติการค้นหาครั้งนี้ ได้ชื่อว่า แพงที่สุดในประวัติศาสตร์การบิน และพุ่งเป้าไปที่บริเวณที่สามารถตรวจจับสัญญาณ "ปิง" ที่เชื่อว่าออกมาจากล่องดำของเครื่องบิน 

 

                     สิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญของภารกิจค้นหาคือ เรือดำน้ำขนาดเล็กที่มีชื่อว่า บลูฟิน-21 ที่ใกล้จะเสร็จภารกิจการค้นหาใต้ท้องทะเลในพื้นที่เกือบ 10 ตารางกิโลเมตรแล้ว โดยที่ยังไม่สามารถพบร่องรอยใด ๆ ของเครื่องบิน และในอนาคตมันจะถูกส่งไปค้นหาในพื้นที่อื่นต่อไป และอาจต้องพึ่งแนวทางการค้นหาใหม่ ๆ ถ้าการค้นหาครั้งนี้ล้มเหลว