หลังจาก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ออกมาเปิดโปงข้อมูล "สารวัตรซัว" นายตำรวจ สังกัดโยธาธิการ เป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่โดยมี "นายพล จ." เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคม ที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ผบ.ตร. สั่งจเรตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีนายพล จ. เอี่ยวพนันออนไลน์-น้ำมันเถื่อน ให้รายงานผลภายใน 15 วัน
พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษกตร.) เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร)มีหนังสือที่ 0001(ผบ)/32 ลง 13 กุมภาพันธ์ 2566 สั่งการไปยังจเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่ปรากฎตามข่าวสังคมออนไลน์ และสื่อต่าง ๆ กล่าวถึงข้าราชการตำรวจที่ชื่อ "สารวัตรซัว" ซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ และยังกล่าวถึงข้าราชการตำรวจ นามว่า "นายพล จ." ว่ามีการจัดระเบียบการพนันออนไลน์ เรียกรับผลประโยชน์ แบ่งประเภทการจ่ายต่อเดือน นอกจากนั้น ยังมีการพาดพิงถึงการเรียกรับผลประโยชน์น้ำมันเถื่อน
"ผบ.ตร. สั่งการให้ จตช. ตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว เพื่อให้ปรากฎข้อเท็จจริง ทั้งพฤติการณ์การกระทำผิดและบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมีข้าราชการตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ทั้งทางอาญา วินัย แล้วรายงานให้ทราบภายใน 15 วัน โดยหากมีข่าว หรือข้อมูลทางสื่อมวลชน หรือสื่อออนไลน์ ในเรื่องเดียวกันเพิ่มเติม หรือมีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกัน ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มไปในคราวเดียวกันด้วย"
โฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยในประเด็นดังสั่งการให้ ผบ.ตร. ตรวจสอบกรณีมีตำรวจระดับนายพล เข้าไปเกี่ยวข้องคดีเว็บพนันออนไลน์ หากมีหลักฐานว่าเกี่ยวข้องกับใคร ให้ลงโทษอย่างเด็ดขาดทุกราย
"นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการย้ำว่า ตำรวจ มีทั้งดีและไม่ดี เมื่อไม่ดีก็ต้องขจัดออกไปให้ได้ และต้องให้กำลังใจกับคนดี ๆ ที่ทำงาน ที่มีอยู่จำนวนมาก โดยให้สร้างอุดมการณ์ สร้างคุณธรรมจริยธรรมให้กับข้าราชการตำรวจ ซึ่ง ผบ.ตร.ก็รับนโยบายดังกล่าวมาขับเคลื่อน ทำมาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง" โฆษก สตช.กล่าว
ขณะที่ในส่วนการทำงานของตำรวจสอบสวนกลาง ยอมรับว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดเชิงลึก เกี่ยวกับความเชื่อมโยงในเครือข่ายธุรกิจของสารวัตรซัว ได้มากนัก แต่ในขณะที่สื่อมวลชนขุดคุ้ยจนพบว่า สารวัตรซัว มีธุรกิจในเครือข่ายไม่ต่ำกว่า 20 แห่ง และยังพบความเชื่อมโยงกับตำรวจที่มีฉายาในวงการเซียนพระว่า "เซียนอ้วน ลอยฟ้า" เคยตกเป็นข่าวดังเมื่อปี 61 ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง