สอท.ทลายรัง 'กลูต้า' สวมแบรนด์ดัง 'แม่ค้าแสบ' หยอดแคปซูลเองในคอนโด จ.ชลบุรี

จากกรณีตำรวจ บก.สอท. ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีการจำหน่าย ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ความงาม ที่มีการโฆษณาเกินความเป็นจริง จึงวางแผนจับกุมพร้อมขออนุญาตหมายค้น จากศาลจังหวัดพัทยา

การตรวจค้นครั้งนี้ นำโดย พ.ต.ท.เอกภณ คณะญาพงศ์ รอง ผกก.2 บก.สอท.2 สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.2 พร้อมด้วยนายจิระสันต์ มีรัตน์ธนวัต เภสัชชำนาญการพิเศษ ประจำสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ได้หมายค้นเข้าตรวจสอบภายในห้องพักภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งเขต อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

กระทั่งพบ น.ส.ณัฐกิจ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี พร้อมผลิตภัณฑ์อาหารเสริมความงาม ประเภท กลูต้า บำรุงผิวขาว ยี่ห้อดังจำนวนมาก อยู่ในบรรจุภัณฑ์เตรียมส่งจำหน่ายให้กับสายรักความงาม เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางเป็นอาหารเสริมยี่ห้อดัง จำนวน 1,497 กระปุก สารที่ใช้เป็นส่วนผสมจำนวนหลายกิโลกรัม รวมทั้งอุปกรณ์บรรจุ แคปซูล และแคปซูลสำหรับบรรจุจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าตกใจมากกว่าการยึดของกลางอาหารเสริมดังกล่าว ตำรวจบอกว่าก็คือ ภาพที่เจ้าหน้าที่เห็นขณะบุกเข้าตรวจค้นเพราะนอกจากจะพบอุปกรณ์การผลิต รวมทั้งตัวแคปซูลที่ถูกบรรจุอยู่ในถุงสีดำกว่า 10,000 แคบซูลแล้ว บุคคลที่ถูกบุกจับ ยังอ้างว่าอุปกรณ์ทั้งหมดถูกส่งมาจากกรุงเทพฯ และตนเองเป็นเพียงผู้รับจ้างนำส่วนผสมทั้งหมด มาผสมเองก่อนบรรจุลงแคปซูล โดยไม่สามารถอธิบายได้ว่าส่วนผสมต่างๆ มีอะไรบ้าง

ขณะเดียวกัน น.ส.ณัฐกิจ ยังสาธิตวิธีการผสมอาหารเสริมดังกล่าวโดยใช้ช้อนตัก บรรจุลงแคปซูลก่อนนำใส่กระปุกและบรรจุกล่องแบรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่น จากนั้นก็จะนำไปโพสต์ขายผ่านทางเฟซบุ๊กในราคากระปุกละ 190 บาท จนสามารถสร้าง รายได้ มากถึง 30,000-50,000 บาทต่อเดือน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว น.ส.ณัฐกิจ พร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “ผลิต นำเข้าเพื่อจำหน่าย หรือจำหน่าย ซึ่งอาหารปลอม ซึ่งเป็นอาหารที่มีฉลากเพื่อลวงหรือพยายามลวงผู้ซื้อให้เข้าใจผิดในเรื่องคุณภาพ ปริมาณ ประโยชน์ หรือลักษณะพิเศษอย่างอื่น หรือในเรื่องสถานที่และประเทศที่ผลิต”ตามมาตรา 25 (2) ประกอบมาตรา 27(4) พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 เพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมาย

ส่วนสารที่ใช้เป็นส่วนผสมในอาหารเสริมดังกล่าวเจ้าหน้าที่จะส่งไปตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าเป็นสารอันตรายต่อผู้บริโภคหรือไม่ จากนั้นจึงจะดำเนินคดีในข้อหาต่างๆ เพิ่มเติมต่อไป