ข่าว

เผาร่าง "ผอ.เหมียว" สุดเศร้า น้องสาวประกาศเตรียมทุบบ้าน ส่งคืนญาติอดีตสามี

สุดเศร้างานเผาร่าง ผอ.เหมียว พร้อมกับญาติ รวม 3 ราย ขณะที่น้องสาวประกาศเชิญทำข่าวทุบบ้านเจ้าปัญหา ส่งคืนญาติฝ่ายชาย เดือดโยนความผิดให้พี่สาว

27ก.ค.2567 กรณี นายปฐพี หรือ ผอ.เขี้ยว  อดีตสามี ซึ่งเป็นอดีตผอ.โรงเรียน แห่งหนึ่ง ในจ.บุรีรัมย์ ก่อเหตุยิง น.ส.ดวงเดือน หรือ ผอ.เหมียว ผอ.โรงเรียน แห่งหนึ่ง ใน จ.ศรีสะเกษ พร้อมญาติเสียชีวิต รวม 4 คน จากนั้นขับรถหนีข้ามจังหวัดไปบุรีรัมย์ ก่อนใช้ปืนกระบอกเดียวกันปลิดชีพตัวเอง เหตุเกิดวันที่ 23 ก.ค. 2567 เวลาประมาณ 21.45 น. 


ล่าสุดมี พิธีณาปนกิจศพ ผอ.เหมียว และญาติ รวม 3 ศพ ที่วัดบ้านหอย จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อเวลา 12.45 น. ญาติๆ พี่น้อง ลูกหลาน ของทั้ง คุณพ่อ บุญเลื่อน, คุณแม่ หยกมณี, และ ผอ.เหมียว ได้ประกอบพิธีขอขมา เพื่อเป็นการให้เกียรติผู้ตายและถือเป็นการให้ผู้ตายหมดห่วง เป็นการขอขมากับผู้ตายที่เคยล่วงเกินในสิ่งต่างๆ ต่อหน้าผู้เสียชีวิต ทั้ง 3 ศพ 

 

เวลา 13.45 น. พระครูสิริปริยัติการ รองเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ เจ้าอาวาสวัดบ้านเพียงนาม ได้ขึ้นแสดงธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ หลังฟังธรรมเทศนา เสร็จทางญาติได้ทำการบริจาคทานให้กับหน่วยงานต่างๆ เพื่อเป็นการทำบุญ ทำกุศล ให้กับผู้เสียชีวิต ก่อนจะมีการรำไว้อาลัยให้กับทั้ง 3 ท่านด้วยชื่อการแสดงคือ สังขารวายปานสกาน้อมส่ง นำแสดงโดยคุณครูโรงเรียนมารีย์วิทยาจังหวัดศรีสะเกษ 

 

15.35 น. จะประกอบพิธีสวดมาติกา - บังสุกุศล และพิธีทอดผ้าบังสุกุศล วางดอกไม้จันทน์ หลังวางดอกไม้จันทร์เสร็จ ฝนก็ตกลงมาอย่าหนัก ประมาณ 30 นาที ก่อรนที่เวลา 

 

17.30น. จะนำโล่งที่บรรจุทั้ง 3 ร่าง ทำพิธีประชุมเพลิง ซึ่งก่อนจะนำโล่งเข้าเตาเผา

เผาร่าง \"ผอ.เหมียว\" สุดเศร้า น้องสาวประกาศเตรียมทุบบ้าน ส่งคืนญาติอดีตสามี

โดยตั้งศพไว้ที่ศาลาวัดบ้านหอย แต่เมรุของวัด มีเพียง 1 เมรุ ให้ใช้เผาร่างของอดีตผู้ใหญ่บุญเลื่อน นอกนั้น ศพของ ผอ.เหมียว และคุณแม่หยกมณี จะใช้เมรุลอยที่มีการติดตั้งไว้ข้างเมรุใหญ่ของวัด พิธีจะถือตามประเพณีแบบดั้งเดิม โดยหากมีใครที่เสียชีวิตอย่างกะทันหัน หรือที่ชาวบ้านเรียก “ตายโหง” ปกติชาวบ้านจะไม่เผาในทันที โดยจะมีการนำไปฝังดิน หรือที่ชาวบ้านเรียก “ดอยศพ” เอาไว้ก่อน อย่างน้อย 100 วัน เพื่อให้ศพ ให้ดวงวิญญาณให้สงบ หรือเย็นลงก่อน 

 

แต่วันนี้พิเศษ พระคุณเจ้าจะนำร่างทั้ง 3 ศพไปฝั่งดิน แล้วก็จะเดินบิณฑบาต เพื่อขอร่าง ทั้ง 3 ศพ เพื่อนำขึ้นมาจากดิน แล้วนำมาสู่เมรุ ทั้ง 3 ศพ แยก 3 เตาเผา ในวัด เผาพร้อมกันเลย โดยให้ถือเป็นไปตามพิธีแบบโบราณกาลด้วย 

 

ทั้งนี้ที่หน้าโล่งศพของ ผอ.เหมียว ได้มีสิ่งหนึ่งที่ทางญาติมาตั้งไว้ คือ ชุดข้าราชการครู สีกากี พร้อม หูฟังบูทูล ที่ ผอ.เหมียว เคยซื้อให้ น้องฟงฟง โดยน้องฟงฟง ได้นำมาคืนให้กับแม่ (ผอ.เหมียว) ที่หน้าโล่งศพ เพื่อที่แม่จะนำเอาไปฟังในภพภูมิที่แม่ไปด้วย โดยตอนเอาโล่งศพ ของ คุณยาย หยกมณี กับ ผอ.เหมียว เข้าเตาเผา น้องสาวของ ผอ.เหมียว กับ น้องฟงฟง ลูกชาย ผอ.เหมียว ได้ก้มกราบหน้าเตาเผาศพของทั้งสองคือ น้องสาวของ ผอ.เหมียว บอกกับ ผอ. เหมียว ว่าให้บอกบนสวรรค์ว่า ผอ.เหมียว ทำความดีอะไรมาบ้าง และบอกว่า "ไม่ต้องห่วง น้องฟงฟง นะเค้าจะดูแลหลานเป็นอย่างดี ส่วนแม่ก็หลับให้สบาย ไม่ต้องห่วงทางนี้"

น้องสาว ผอ.เหมียว ก้มกราบพี่สาว

 

น้องหลิน น้องสาว ผอ.เหมียว นำธูป 9 ดอก เทียน 2 เล่ม ดอกไม้ 3 คู่ ไปจุดขอขมาปักลงดินบริเวณด้านหน้าโบสถ์ หรือสิมเก่าของทางวัด และสวดมนต์ตามที่หาได้ในมือถือ ขออย่าให้ฝนตก ปรากฏว่าท้องฟ้าเปิดออกทันที จากนั้นก็ได้ดำเนินพิธีได้ตามปกติ อ่านประวัติผู้ตาย ทั้ง 3 คน จนถึงการทอดผ้าบังสุกุลจบสิ้น ท่ามกลางญาติๆ แขกเรื่อ ทั้งจังหวัดศรีสะเกษและจังหวัดนครราชสีมา วังน้ำเขียว มาร่วมงานราว 500 คน 

ขณะเดียวกัน น้องสาว ผอ.เหมียว เห็นโพสต์ของญาติๆ ของ ผอ.จากบุรีรัมย์ (ผู้ก่อเหตุ) ที่พยายามโยนความผิดมาให้พี่สาวตน ทั้งที่ ผอ.ทางบุรีรัมย์ เป็นมือยิง ขาดสติ ขนาดเคยเป็นผู้บริหาร เป็น ผอ.มาก่อน แต่วันนี้เป็นฆาตกรรม ผอ.ปืนโหด อยู่ๆ ก็จะมากลายเป็นคนดีที่ฆ่ายกครัวคนศรีสะเกษ แค่เพียงเข้าใจว่า ผอ.เหมียว นำเงินมาสร้างบ้าน มาสร้างเรือนหอ แต่ความจริง ผอ.เหมียว ถูกทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด หลายครั้งที่ไม่สามารถไปทำงานได้ เพราะตาบูดบวม ใบหน้าเขียวช้ำ ที่ ผอ.บุรีรัมย์ ซ้อมเอา

 

โดยน้องหลิน น้องสาว ผอ.เหมียว บอกเพียงว่า เสร็จงานศพ เคลียร์งานทุกอย่างจบ จะนัดหมายผู้สื่อข่าว ทุกแขนง มาทำข่าวใหญ่ จะทุบบ้านหลังนี้ แล้วนัดหมายให้ญาติทางบุรีรัมย์ มารับเอาไปทุกชิ้น พร้อมประกาศยกที่ดินบริเวณสร้างบ้าน ราว 2 งาน ถวายยกให้สาธารณะกุศล เพื่อเป็นการตัดกรรม อย่าได้มาจองเวรจองกรรมกันอีกต่อไปเลย ทุกภพ ทุกชาติ ทั้งกับพี่สาวตน ทั้งกับแม่ตน รวมทั้งญาติ และอดีตผู้ใหญ่บ้านบุญเลื่อนด้วย สาธุ 

 

ญาติพี่น้อง เพื่อนๆ แห่มาร่วมฌาปนกิจศพ
ขณะที่บรรยากาศวัดมหาพุทธาราม หรือ วัดพระโต ตำบลเมืองเหนือ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งพิธีบำเพ็ญกุศลฌาปนกิจศพ ทนายป้อม ซึ่งกำหนดการเริ่มประมาณเวลา 14.00 น. โดยเป็นฟังพระธรรมเทศนา จำนวน 1 กัณฑ์ หลังจาก เป็นการสวดมาติกา – บังสุกุล ทอดผ้าบังสุกุล และวางดอกไม้จันทน์ ตามลำดับ ซึ่งพิธีการดังกล่าวจัดขึ้นภายในศาลาการเปรียญของวัดฯ หลังจากพิธีดังกล่าวแล้วเสร็จ เวลาประมาณ 16.00 น. ครอบครัว ญาติพี่น้องของทนายป้อม ได้ช่วยกันแบกโลงศพ เคลื่อนศพไปยังเมรุวัด และทำการฌาปนกิจ ตามพิธีกรรมทางศาสนา ท่ามกลางบรรยากาศอันโศกเศร้าของครอบครัว ญาติสนิท มิตรสหายที่มาร่วมงาน ขณะที่แม่ของทนายป้อมอยู่ในอาการเสียใจและหลั่งน้ำตาร้องไห้ตลอดพิธีในครั้งนี้

 

นางสาวอารียา สาสังข์ หลานสาวของทนายป้อม เปิดเผยว่า ทนายป้อมเป็นคนที่มองโลกในแง่บวก และคอยให้กำลังใจผู้อื่นอยู่เสมอ ดังเช่นตน ตั้งแต่ที่พ่อได้เสียชีวิตไป เหลือเพียงแม่และน้องชาย ทนายป้อมก็เป็นผู้ส่งเสียค่าเทอม และนำตนมาฝึกทำงานด้วย เพราะตัวของทนายป้อมเองไม่มีบุตร จึงอยากให้หลานทั้งสองคนเดินตามเส้นทางอาชีพทนายของตน และคอยย้ำเสมอว่าให้หลานตั้งใจเรียนเพื่อจะได้มีความรู้และเป็นทนายที่มีคุณภาพ ซึ่งตนและน้องจะตั้งใจเรียนให้จนและสอบใบประกอบวิชาชีพทนายความให้ได้ ซึ่งเป็นสิ่งสุดท้ายที่ทนายป้อมเป็นห่วงและแกพูดทุกวัน ซึ่งตนจะทำให้สำเร็จ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวยอดนิยม