ข่าว

รู้ตัวแล้ว ป้ามหาภัยจุดไฟเผาธนาคาร ญาติอ้างมีอาการป่วยจิต

รู้ตัวแล้ว ป้ามหาภัยจุดไฟเผาธนาคาร ตำรวจแกะรอยไปถึงบ้าน พบปิดประตูเงียบ ขู่ตำรวจเข้ามาจะเผาบ้านเสียให้หมด ญาติอ้างมีอาการป่วยทางจิต

วงจรปิดที่เกิดเหตุหน้าธนาคารแห่งหนึ่ง

จากกรณีที่เกิดเหตุวางเพลิงเผาหน้าประตูทางเข้าธนาคาร ธกส.สาขาจันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณลานประตูด้านหน้าทางเข้าธนาคารดังกล่าว มีร่องรอยเผาไหม้เป็นคราบดำ กลิ่นน้ำมันเบนซินคลุ้งไปทั่วบริเวณ เบื้องต้นมีกระจกธนาคาร ได้รับความเสียหาย 4 บาน และกล้องวงจรปิด 1 ตัว รวมมูลค่าความเสียหาย ประมาณ 1 แสนบาท 


ต่อมา เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ช่วงเวลาประมาณ 10.22 น. ได้มีหญิงอายุประมาณ 40 ปีเศษ สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว สีดำ สวมหมวกกันน็อคสีน้ำเงิน ขี่รถจักรยานยนต์สีแดง ไม่ทราบยี่ห้อ และทะเบียน มาจอดหน้าธนาคาร ท่าทีลุกลี้ลุกลน ในมือข้างซ้ายถือถุงสีน้ำเงินขนาดใหญ่ เข้ามายืนกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม

วงจรปิดก่อนเกิดเหตุ หน้าธนาคารที่เกิดเหตุ

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ชาญยุทธ เรืองดิษฐ์ ผกก.สภ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าตำรวจชุดสืบสวน สภ.ฉวาง ทำการสืบสวนสอบสวนและแกะรอยกล้องวงจรปิดเส้นทางหลบหนีของคนร้ายรายนี้จนรู้ตัวแล้วทราบชื่อ น.ส.อมรสุข อายุ 48 ปี เป็นชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงนำกำลังตำรวจชุดสืบสวนและสายตรวจเดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว


แต่ น.ส.อมรสุข บ้านปิดบ้านเงียบ ไม่ยอมเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าจับกุมตัว พร้อมขู่ว่าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าไปในบ้าน น.ส.อมรสุข จะจุดไฟเผาบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องยอมถอยร่นออกมาก่อนเพื่อความปลอดภัย ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทราบว่า น.ส.อมรสุข มีอาการป่วยจิตเวชมานานแล้ว ซึ่งชาวบ้านเป็นที่รู้ดีของชาวบ้านในหมู่บ้าน

 

 




พ.ต.อ.ชาญยุทธ คาดว่าน่าจะเกิดจากอาการสติไม่สมประกอบของผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นไม่มีสาเหตุโกรธแค้นกับธนาคารที่ก่อเหตุ และผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้เป็นลูกค้าของธนาคาร ที่เกิดเหตุ


โดยก่อนเกิดเหตุมีพยานเห็นผู้ก่อเหตุ ซื้อน้ำมันจากปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.จันดี จำนวน 250 บาท ก่อนจะใส่ถุงพลาสติกแล้วนำมาก่อเหตุที่ธนาคารดังกล่าว  ซึ่งตำรวจจะได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเสนอขออนุมัติศาลจังหวัดทุ่งสง ออกหมายจับ น.ส.อมรสุข ต่อไป


ส่วนที่ญาติอ้างว่า ผู้ก่อเหตุ ป่วยโรคจิตเวชจริงหรือไม่ จะมีการตรวจพิสูจน์ต่อไป
 

ข่าวที่น่าสนใจ