ข่าว

เปิดโพสต์ล่าสุด บทสรุป 10 ปี คดีน้องการ์ตูน แม่ลั่นสู้ก็แพ้ ไม่สู้ก็แพ้

เปิดโพสต์ล่าสุด บทสรุป 10 ปี คดีน้องการ์ตูนเหยื่อกระบะซิ่ง แม่ลั่นสู้ก็แพ้ ไม่สู้ก็แพ้ ท้อจนไม่มีแรงสู้ต่อแล้ว เผยเบื้องลึกอ่านแล้วจุกอก

2 ก.ย. 2567 จากกรณี เหตุการณ์ สะเทือนใจ เมื่อปี 2557 มีรถกระบะขับแข่งกันมาก่อนจะเสียหลักพุ่งชน ร้านสเต็ก ย่านเอกมัย 119 ซึ่งในตอนนั้น เป็นเหตุให้พ่อ "น้องการ์ตูน" เสียชีวิต ขณะที่ "น้องการ์ตูน" ได้รับบาดเจ็บสาหัส และกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงจนถึงปัจจุบัน

 

 

โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้นคนขับรถรับโทษติดคุก 1 ปี และได้รับการปล่อยตัวออกมา ขณะที่ศาลสั่งให้ชำระค่าเสียหาย แต่อีกฝ่ายกลับโพสต์เย้ยไม่มี ไม่หนี ไม่จ่ายและอีกไม่นานคดีจะหมดอายุความ

 

ล่าสุดแม่น้องการ์ตูน ได้ออกมาเคลื่อนไหว ผ่านเฟซบุ๊ก ร้านสเต็กคุณแม่การ์ตูน Mother's Grill Steak House "ย่างด้วยรัก หมักด้วยใจ"  ระบุว่า สู้ก็แพ้ ไม่สู้ก็แพ้  ขอสรุปบทชีวิตของแม่และน้องการ์ตูน ในเดือนที่เกิดเหตุ 19 กันยายน 2557 เหตุการณ์ที่ไม่มีใครให้อยากเกิดขึ้น และคดีความจะหมดในวันที่ 19 กันยายน 2567

 

อุทาหรณ์ภาคต่อ (บทสรุป) ประเทศไทยขับรถแข่งกัน บนถนนหลวงผลลัพท์ คือ ตาย 1 ศพ,เด็ก 5 ขวบ พิการอีก 1 คน โทษที่จะได้รับคือติดคุก 1 ปี และไม่ต้องเสียเงินเยียวยาตามคำสั่งศาลแม้แต่บาทเดียว ย้ำ..แม้แต่บาทเดียว

 

 

วิธีง่ายๆ ก็แค่ไม่ครอบครองทรัพย์สินอะไรยาวๆ 10 ปี และให้เจ้าทุกข์ฟ้องล้มละลายก็ทนอีกแค่ 3 ปี (ก็ทนมา 10 ปี แล้วทนอีกแค่ 3 ปี ชิวๆ) The end  จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง Set Zero กลับมาใช้ชีวิตปกติได้สบายๆ ฝั่งเหยื่อ สิ่งที่เหยื่อจะได้รับคือ?

  • สูญเสียชีวิตคนในครอบครัว
  • ทุกอย่างที่เคยวางแผนไว้ให้ลูกพัง ครอบครัวพัง จากชีวิตครอบครัวที่ไม่ลำบากพัง
  • ต้องหาเงินดูแลรักษาผู้พิการตลอดชีวิต (รายจ่ายตลอดชีพจนกว่าจะสิ้นลม ซึ่งไม่รู้ว่าแม่หรือลูกที่จะสิ้นลมก่อนกัน)
  • กระดาษ 1 แผ่นที่ศาลให้ตอนจบคดีว่า คนผิดจะต้องเยียวยาและชดใช้ให้กี่บาท (ศาลแค่สั่งว่าถ้าจะจ่ายต้องจ่ายกี่บาท แต่ไม่จ่ายก็ได้ก็ศาลแค่สั่งเฉยๆ )
  • เจ้าทุกข์ถ้าอยากได้เงิน ก็แค่ไปหาเงินมาจ้างคนให้ตามสืบทรัพย์ 10 ปี +3ปี (ตอนฟ้องล้มละลาย)
  • ถ้าเจ้าทุกข์ไม่มีเงินจ้างล่ะ? ก็ตามยึดทรัพย์ไม่ได้เลยไง (ก็ไม่มีเงินไปจ้างแล้ว ใครจะมาทำให้ฟรีๆ คะ)
  • แล้วถ้าคนผิดมันตั้งใจทำให้ตัวเองไม่มีทรัพย์สินล่ะ? ก็เท่ากับจ่ายเงินจ้างคนตามสืบทรัพย์ฟรีๆ (ก็ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่ายอ่ะ จะทำไม มีปัญญาทำไรได้ป่ะล่ะ) เพราะกฎหมาย Thailand กำหนดให้ "เหยื่อ" ต้องมาแจ้งกองบังคับคดีเองว่า ผู้กระทำความผิดมีเงิน มีทรัพย์ อะไรให้ไปตามยึดบ้าง (อธิบายง่ายๆคือ หน้าที่ของ "เหยื่อ" หรือเจ้าทุกข์คือไปหา ไปสืบทรัพย์ ผู้กระทำผิดเอาเองนะเธอ เพราะไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานรัฐนะตัวเธอ)
  • "เหยื่อ" เงินไม่มีต้องทำไง? ง่ายๆ ก็ทนให้ครบ 10 ปี  แล้วไปหาเงินไปกู้เงินมาจ้างทนายทำเรื่องฟ้องล้มละลายผู้กระทำความผิดเอง (เหยื่อจ่ายอีกแล้ว)

 

คดีน้องการ์ตูนหน่วยรัฐช่วยส่งทนายมาทำเรื่องส่งฟ้องล้มละลายให้

 

ขั้นตอนนี้จะได้กระดาษใบที่ 2 มาใส่กรอบโชว์ แลกกับความอัปยศของชีวิตที่ฝั่ง "เหยื่อ" ได้รับมาตลอด 10 ปี ระหว่างทางมีทนายหลายท่าน ยื่นมือเข้ามาให้คำปรึกษาและอาสาตามสืบทรัพย์ให้  พอทำไปช่วงนึงก็หายกันไป เพราะแต่ละท่านก็ต้องทำงานส่วนของตัวเอง เพราะทุกท่านก็มีครอบครัว ไม่สามารถช่วยได้ตลอด เพราะทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายทั้งนั้น (ตรงจุดนี้คุณแม่เข้าใจ และต้องขอขอบพระคุณพี่ๆ ทนายทุกๆ ท่านมากๆ จริงที่เข้ามาช่วยคุณแม่นะคะ)

 

 

ขอย้อนกลับไปเรื่องการดูแลรักษาลูก ที่เป็นผู้ป่วยพิการไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เพราะความแรงของรถที่พุ่งชนทำให้ "สมอง" ไหลออกมาจากกะโหลกศรีษะ เป็นเหตุให้สมองตายไป 75% ไม่เพียงแค่นั้นดวงตาทั้ง 2 ข้าง ยังบอดสนิทและพูดไม่ได้ อวัยวะภายในบางส่วน โดนตัดทิ้งเพื่อรักษาชีวิต ไม่มีภูมิคุ้มกันร่างกายใดๆ และเหลือปอดเพียง 1 ข้าง

แต่ชีวิตของน้องการ์ตูน...ยังมีลมหายใจ น้องการ์ตูนยังสามารถยิ้มและร้องไห้ได้ นั่นคือการสื่อสารที่เหลืออยู่เพียง 2 สิ่ง แต่การยิ้มและร้องไห้ของน้องการ์ตูนนั้น คุณแม่ไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าน้องการ์ตูนยิ้มเพราะอะไร หรือร้องไห้เพราะอะไร หัวอกคนเป็นแม่ไม่มีทางเลือกอื่น ทางเดียวที่ต้องทำคือการดูแลรักษาชีวิตของลูกให้มีลมหายใจต่อไป

 

แต่สิ่งที่ต้องแลกกับลมหายใจของลูก คือค่าใช้จ่ายในเเต่ละเดือนสูงมากๆ จนบางครั้งก็ท้อ และสิ่งที่แม่ต้องคิดหนักและเจ็บอยู่ในอก จุกอยู่ในใจตลอดคือในวันข้างหน้า ถ้าแม่ไม่สามารถดูแลน้องได้แล้ว แม่ใกล้สิ้นลมขึ้นมา สิ่งที่แม่ต้องเลือกคือต้องให้ลูกไปก่อนแม่ เพราะไม่มีใครที่จะดูแลรักษาน้องได้อีกต่อไป นั่นก็แปลว่าน้องจะมีอายุขัยได้มากที่สุด เท่ากับที่แม่จะมีชีวิตอยู่  เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง และสภาพที่เป็นอยู่ ต้องดำเนินไปในวิถีทางนี้ ในละครหรือหนังตอนจบใช่ว่าจะ happy ending เสมอไป หลายต่อหลายเรื่องก็จบแบบ bad ending เฉกเช่นเดียวกับเรื่องนี้

 

 

นี่คือบทสรุปของคดี "น้องการ์ตูน" ที่เกิดขึ้น  เมื่อ 19 กันยายน 2557 คดีดังที่ไม่มีใครลืม.... แต่ คนผิดสบายตัว... แล้วถีบความหายนะอยู่กับเหยื่อไปตลอดชีวิต กฏหมายไทยช่วยได้แค่ กระดาษจริงๆ...นะ...หรือ...??? thailand only แม่ขอกราบขอบพระคุณ สื่อมวลชน ทุกท่าน รวมถึงรายการดังๆ ทุกรายการ และเพจ ใหญ่ทุกเพจ ที่ช่วยเหลือแม่ และแฟนเพจทุกท่านที่สนับสนุนแม่ และน้องการ์ตูนมาเสมอ นับจากนี้ขอไม่สู้แล้ว ขอให้เคสแม่ เป็นอุทหรณ์ สอนใจ แก่ผู้ประสบเหตุการณ์เช่นกันนะคะ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวยอดนิยม