ข่าว

แม่ - ย่า ใจชื้น ลุ้นหลักฐานสำคัญไขคดี "น้องอลิส" ลั่น ได้ยินเสียงลูกจะรู้เลย

ครอบครัว "น้องอลิส" ใจชื้น หวังกล้องวงจรปิดผู้ใหญ่บ้านเห็นภาพ ช่วยไขคดีลูก อบต.คอนกาม แจงพร้อมจ่ายชดเชย รอรับฟังคำพิพากษาศาล

28 มิถุนายน 2567 ที่ ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดค้อทอง อบต.คอนกาม อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ วันนี้ทีมงานช่าง ที่ได้เตรียมปูน หิน ทราย เหล็กมากองไว้ตั้งแต่เมื่อวานก่อน วันนี้ได้นำทีมช่างของ อบต.มาทำการในการเริ่มต้นการซ่อมแซมศูนย์ บริเวณรอบๆ ศูนย์ รั้วรอบขอบชิด หลังเกิดเหตุสลด น้องอลิส เสียชีวิต

 

การติดตั้งตาข่าย เสาปูน เทลาดพื้นด้านหลัง ปิดกั้นบริเวณโดยรอบศูนย์ เพื่อเปิด-ปิด ให้ทุกคน รวมทั้งเด็ก สามารถเข้าออกเพียงทางเดียว คือประตูด้านหน้า ที่ต่อไปก็จะมีประตูเปิด-ปิด ที่ชัดเจน โดยเบื้องต้นใช้งบ อบต.ซื้อวัสดุไปแล้ว กว่า 50,000 บาท 

 

ส่วนกล้องวงจรปิด นายก อบต.จะขอใช้เงินส่วนตัว ซื้อมาติดตั้งก่อน 4 ตัว คือ ข้างในศูนย์ที่สามารถมองเห็นเด็กได้ตลอด 1 ตัว และบริเวณรอบนอกโดยรอบ อีก 3 ตัว ให้สามารถครอบคลุมทุกด้าน ทุกมุมของศูนย์ พร้อมยังได้แสดงความคิดเห็นอีกว่า ในการที่ญาติน้องอลิส เรียกร้องค่าสินไหมทดแทน กรณีที่ครู 3 คน จำนวน 10 ล้านบาท อบต.อีก 1 หน่วยงาน 5 ล้านบาท 

 

นายมุนินทร์ แก้วคำ นายก อบต.คอนกาม เปิดเผยว่า วันนี้ได้เริ่มมาทำรั้วรอบขอบชิดศูนย์เด็ก พร้อมเทพื้นด้านหลัง ที่ล้างจานที่มันทรุดลง งบก็ใช้ไปแล้ว 50,000 กว่าบาท ส่วนกล้องวงจรปิด ไม่สามารถเอาเงิน อบต.ออกมาซื้อได้ เพราะเป็นครุภัณฑ์ แต่ก็จะอาเงินส่วนตัวของนายก มาซื้อกล้องติดตั้งไปก่อน 

 

แม่ - ย่า ใจชื้น ลุ้นหลักฐานสำคัญไขคดี \"น้องอลิส\" ลั่น ได้ยินเสียงลูกจะรู้เลย

ในส่วนการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน แยกเป็น 2 ส่วน คือ ของคณะครู ที่ญาติเรียกมา 10 ล้านบาท ตนได้สอบถามคุณครู เขาก็บอกว่าเยอะมาก ทำงานทั้งชีวิต ก็ไม่รู้ว่าจะมีเงินถึง 10 ล้านไหม เพราะเงินเดือนครูปูเป้ พึ่งมาสอนไม่นาน เงินเดือน ราวๆ 11,000 บาทเศษ ส่วนครูน้อย กับครูหนุ่ย สอนมานานแล้ว เงินเดือนก็ราวๆ คนละ 20,000 บาทเศษ 

 

ในส่วน อบต.เองก็ต้องไปตามกฎหมาย ต้องให้เขาฟ้องศาล เพราะเป็นเงินที่ไม่สามารถหยิบออกมาใช้ได้เลยทันที ซึ่งเงิน อบต.ก็จะเป็นเงินส่วนกลาง ที่มาจากการเก็บเงินภาษามาจากประชนชนทุกคนในตำบลคอนกาม แต่หากเทียบกันกับชีวิตน้องอลิส หากเทียบกัน กับ 1 ชีวิต ก็ไม่สามารถเทียบกันได้ว่ามากน้อยขนาดไหน แต่ในเมื่อมันเกิดการสูญเสียเข้าไปแล้ว เราก็จะต้องเยียวยาไปในทิศทางที่เป็นไปได้ ซึ่งจะต้องรอรูปคดีก่อนว่าเรากระทำผิดในตัวใดบ้าง ซึ่งวันที่ 2 กค. นี้ที่ตำรวจนัดเจรจากันอีกที ก็รับว่าจะไป เพื่อไปสอบถามว่าญาติจะยึดตัวเลขตัวเดิมไหม ค่อยว่ากัน 

 

ในส่วนของคุณครู ก็จะต้องไปดูว่า เขาจะรับได้ขนาดไหนอีกที ก็ค่อยว่ากันในวันที่ 2 กค.2567 ที่สถานีตำรวจยางชุมน้อย 

 

แม่ - ย่า ใจชื้น ลุ้นหลักฐานสำคัญไขคดี \"น้องอลิส\" ลั่น ได้ยินเสียงลูกจะรู้เลย

 

นางบี แม่น้องอลิส เล่าว่า เมื่อวานพอรู้ว่ากล้องวงจรปิดที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน ที่ติดอยู่ด้านหลังกับศูนย์เด็ก ดีใจมาก มีความหวังขึ้นมาเยอะเลย ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือมาจากกล้อง ซึ่งหากกล้องจะไม่เห็นอะไร ก็หวังว่าจะได้ยินเสียงลูกหนู ถ้ามีคนอุ้มไป ถ้าไม่มีใครอุ้ม ก็จะไม่มีเสียง แต่ถ้ามีคนอุ้มไปพาไป ก็จะต้องมีเสียงพูดคุยกันบ้าง หรือถ้าเดินไปคนเดียว น้องอลิส ก็อาจจะคุยไป พูดไป ก็ค่อยว่ากัน แต่พอรู้ว่ากล้องเปิดได้ ใจก็ชื้นมาระดับหนึ่ง 

 

ตอนนี้ก็ขอให้วิญญาณของลูกอลิส ว่า อย่าพึ่งไปไหน อยู่กับพ่อกับแม่ก่อน จนกว่าจะจับคนร้ายได้ค่อยไปเกิดใหม่ และหากเป็นไปได้ ก็ขอให้มาเกิดเป็นลูกแม่อีกรอบก็จะดีมาก 

 

ขณะที่ย่า ทองทิพย์ เปิดเผยว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กล้องวงจรปิดไป ก็มีความหวังขึ้นเยอะเลย ซึ่งเมื่อก่อนนั้น ผู้ใหญ่บ้าน ก็ว่ากล้องพัง ไม่มีอะไร ดูไม่ได้ แต่พอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเจอ ก็มีความหวังขึ้น ว่าทุกเรื่องจะกระจ่าง ก็อยากจะบอกว่า ใครรู้ตัวว่าทำอะไรไว้ ก็ขอให้มาบอกความจริงกับสื่อ กับตน หรือใครก็ได้ ทางเราก็จะรับฟังจะเห็นใจ 

 

ส่วนในวันที่ 2 กค.67 ที่นัดหมายจะไปเจรจารอบสอง ในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะค่าสินไหม ก็แล้วแต่เขา คิดได้ คิดไม่ได้อย่างไรก็แล้วแต่เขา อยากบอกว่า มาถึงขนาดนี้แล้ว มีอะไรก็พูดมาเถอะ ไม่ต้องปิดบังไว้อีกต่อไปแล้ว ความจริง อย่างไรก็เป็นความจริงวันยังค่ำ เปิดออกมาเถอะ สังคม พ่อแม่ ย่า ก็อยากรู้ความจริง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ