คอลัมนิสต์

หักดิบไม่ง่าย ‘อนุทิน’ ส่งคำเตือน ‘กัญชา’ นายใหญ่ใช้เป็นก็ปลอดภัย

นายใหญ่-ครูใหญ่รู้ทันกัน อนุทินเลือกแนวทางกัญชาสามัคคี เกมหักดิบกัญชาเป็นยาเสพติดไม่ง่าย พท.ติดกับดักอนุรักษนิยมใหม่

ฤทธิ์นายใหญ่ อนุทิน เลือกแนวทางกัญชาปรองดอง น้ำเงิน-แดง ต่างกล้ำกลืนรักษาดีลข้ามขั้ว วันนี้ไม่ใช่วันวาน พท.แค่ 140 เสียง

 

นายใหญ่-ครูใหญ่ คนรู้ทันกัน เกมหักดิบกัญชาเป็นยาเสพติดไม่ง่าย พท.ติดกับดักอนุรักษนิยมใหม่ ภท.แนวทางบ้านใหญ่ก็ไปต่อยาก 

 

เก็บตกดินเนอร์การเมืองที่ร้านเยี่ยมใต้ South Cuisine จ.นนทบุรี ซึ่งมีทักษิณ ชินวัตร ศูนย์กลางอำนาจตัวจริง เสมือนเป็นเจ้าภาพ  มีนักการ เมืองทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลไปชุมนุมกันคึกคัก

 

ที่น่าสนใจคือ การปรากฏตัวของ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในร้านเยี่ยมใต้ ตามคำเชิญของเจ๊ใหญ่เมืองเหนือ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เสี่ยหนู ได้พบทักษิณต่อหน้าสาธารณชน

 

เมื่อเสี่ยหนู ร่วมโต๊ะอาหารกับ สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ย่อมมีคนพูดถึงประเด็นดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด

 

เช่นเดียวกันในโต๊ะนั้น มี เกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย ซึ่งกำลังมีประเด็นแบ่งงานในกระทรวงมหาดไทย เมื่อเพื่อไทยขอคุมกรมพัฒนาชุมชน 

 

เดิมทีกรมพัฒนาชุมชน อยู่ในการดูแลของชาดา ไทยเศรษฐ์ แต่วันนี้ มท.หนู ต้องแบ่งไปให้เสี่ยเกรียงดูแลแทน

 

 

ปรองดองกัญชา

 

หลังจากดินเนอร์การเมืองที่เยี่ยมใต้ผ่านไป 1 วัน แนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย ได้แถลงข่าวกรณีจะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด โดยภูมิใจไทยเสนอให้รัฐบาล รีบพิจารณา พ.ร.บ.กัญชา กัญชง...ให้จบกระบวนการ จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

 

สิ่งที่นายกฯเศรษฐา กังวลนั้น ในร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง..ของพรรคภูมิใจไทยนำเสนอได้ควบคุมไว้หมดแล้ว 

 

“เราเป็นห่วงว่า อยู่ๆ จะเอากัญชากลับเป็นยาเสพติด แล้วจะมีมาตร การใดที่มารองรับผลกระทบกับประชาชนที่ใช้กัญชาเพื่อสุขภาพ”

 

ท่วงทำนองของโฆษกพรรคสีน้ำเงินนั้น พูดตามหลักการคล้ายแนวทางปรองดอง โดยไม่มีการเปิดวิวาทะข้ามพรรค 

 

แหล่งข่าวในบุรีรัมย์เปิดเผยว่า ครูใหญ่สั่งห้ามเด็ดขาด ไม่ให้ลูกพรรค เปิดวิวาทะกรณีนายกฯเศรษฐาดึงกัญชากลับเป็นยาเสพติด

 

“นายใหญ่ได้กลับบ้านก็เพราะกัญชา นายใหญ่รู้ดีที่สุดว่า จะใช้กัญชาอย่างไรให้รัฐบาลเศรษฐาอยู่รอดปลอดภัย” แหล่งข่าว กล่าว

 

มท.หนู ทำใจเรื่องกัญชา เพราะวันนี้ ไม่ใช่หมอหนู

 

 

นายใหญ่เคาะหรือไม่

 

อันที่จริง เพื่อไทยก็เตรียมดันร่าง พ.ร.บ.กัญชา..ฉบับใหม่เข้าสู่สภาฯไว้แล้ว แต่ทำไมนายกฯเศรษฐา กลับสั่งการให้ สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ออกประกาศกระทรวงดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด

 

เมื่อวันที่ 6 ม.ค.2567 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุขในเวลานั้น ได้ลงนามร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ฉบับใหม่ ส่งไปยังเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีแล้ว


หลังจากกฎหมายกัญชาของภูมิใจไทย ไม่ผ่านสภา หมอชลน่านก็สั่งการให้มีการยกร่างกฎหมายใหม่ เพราะจำเป็นต้องมีกฎหมายเฉพาะออกมารองรับ เพราะราก ต้น ใบ ดอก ไม่ใช่ยาเสพติด แต่มีสารเสพติดในตัว หากนำไปใช้ทางที่ผิด ก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

 

ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง..ฉบับภูมิใจไทย กับฉบับหมอชลน่าน หลัก การไม่แตกต่างกันคือ เพื่อการแพทย์สุขภาพ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ

 

การส่งเสริมใช้ทางการแพทย์ สุขภาพ ก็ต้องเขียนให้ชัด ทำอย่างไรไม่ให้เอากัญชากัญชง ส่วนที่เป็นต้น ราก ใบ ดอก ไปใช้ผิดประเภท

 

กฎหมายกัญชาฉบับใหม่ จะควบคุมเรื่องสันทนาการ คุ้มครองบุคคลเพื่อไม่ให้ใช้กัญชาผิดประเภท ห้ามเปิดร้านกัญชา และเอาทั้งคนเปิดร้านและคนเสพ 

 

การเคลื่อนไหวของหมอชลน่าน ในประเด็นร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ฉบับใหม่ คนในพรรคเพื่อไทยไม่ทราบเลยหรือ น่าคิดมาก

 

พลันที่มีการปรับ ครม.เศรษฐา 2 หมอชลน่าน พ้นจากตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข นายกฯเศรษฐา ก็เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้อง และสั่งการให้ดึงกัญชากลับมาเป็นยาเสพติดทันที

 

ดังนั้น ข้อเสนอของภูมิใจไทย ให้พรรคร่วมรัฐบาลช่วยกันผลักดันกฎ หมายกัญชาที่ค้างอยู่ในสภาฯ จะมีเสียงขานรับหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่นายใหญ่

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ