ฝังถุงขนม “ทักษิณ” ดีลใหญ่ไปต่อ “เศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง” คู่กายนายกฯเงา

ดีลฝังถุงขนม ทักษิณ สู้คดี 112 ยังยาวไกล เศรษฐา ลุ้นรอด อุ๊งอิ๊งรับสภาพเพื่อไทยอนุรักษนิยม ดีลใหญ่ไปต่อ ชนชั้นนำไม่เปลี่ยนตัวผู้ถือธง 
 

ขบวนการปั่นถุงขนม ภาค 2 ทำเอาตลาดหุ้นผวา 18 มิถุนาผ่านไปราบรื่น 4 คดีการเมือง ยังไม่ถึงทางตัน ลุ้นยุบก้าวไกล-ถอดเศรษฐา

ผลของคดีการเมือง 4 กรณีในวันที่ 18 มิ.ย.2567 ไม่มีคดีไหนพลิก เป็น ไปตามการคาดการณ์ของสื่อหลัก ยกเว้นคนบางกลุ่มผิดหวัง การเมืองไม่ถึงทางตัน

กรณีแรก คดี 112 ทักษิณ ชินวัตร ได้รับการประกันตัวในคดีความผิดอาญา ม.112

กรณีที่สอง ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ วินิจฉัยว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ปี พ.ศ.2560

กรณีที่สาม คดียุบพรรคก้าวไกล ศาลรัฐธรรมนูญ นัดพิจารณาครั้งต่อไป วันที่ 3 ก.ค.2567 และนัดให้คู่กรณีเข้ามาตรวจพยานหลักฐานวันที่ 9 ก.ค.2567

กรณีที่สี่ คดีนายกฯเศรษฐา ศาลรัฐธรรมนูญให้หน่วยงานหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็น และจัดส่งสำเนาเอกสารหลักฐานยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน และกำหนดนัดพิจารณาวันที่ 10 ก.ค.2567

สรุปแล้ว ทั้ง 4 คดีใหญ่ มีข้อยุติแล้วคือ คดี พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 

ดีลใหญ่ได้ไปต่อ
 

ก่อนจะถึงวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีกระบวนการปั่นและปล่อยเอกสารเกี่ยวกับถุงขนม โดยระบุว่า มีคนติดสินบน 2,000 ล้าน ผ่านบริษัทกาสิโนในฮ่องกง ของประเทศสารขัณฑ์ ซึ่งเรื่องนี้เขย่ากระบวนการยุติธรรม

ว่ากันว่า คนปั่นกระแสถุงขนมหวังผลทางการเมือง เพื่อดิสเครดิตใครบางคน สื่อหลายสำนักก็เล่นข่าวตามน้ำไปด้วย

พลันที่นายใหญ่ได้รับการประกันตัว กระแสปั่นถุงขนมล้มบ้านจันทร์ ก็เงียบหายไป

อย่างไรก็ตาม คดี 112 ยังมีกระบวนการพิจารณาคดีอีกยาวไกล นายใหญ่จึงมีอิสระที่จะเคลื่อนไหวทางการเมือง ในนามส่วนตัวเหมือนที่ผ่านมา

อย่างเช่นค่ำวันที่ 18 มิ.ย.2567 ทักษิณไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพบิดาของ เมย์ อียู แกนนำเสื้อแดงที่ใกล้ชิดนายใหญ่ ที่เมืองชลบุรี 
 

กล่าวอย่างถึงที่สุด การได้ประกันตัวของทักษิณ ก็เป็นเครื่องการันตีว่า “ดีลใหญ่” ได้ไปต่อ และนายใหญ่อาจตัดสินใจกระชับอำนาจ และจัดระเบียบรัฐบาลใหม่ 

หากจากนี้ไป จะเห็นบทบาท “นายกฯเงา” มากขึ้น ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะวันจันทร์ที่ผ่านมา จึงมีภาพ รมว.คลัง มุดรั้วเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า
 

ขณะที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยังต้องลุ้นคดี 40 สว.ถอดถอนจากตำแหน่งนายกฯ ยังต้องฝากผีฝากไข้ไว้กับเนติบริกร วิษณุ เครืองาม และฟังว่า แนวโน้มคดีค่อนข้างไปทางบวกมากกว่าลบ
 

จริงๆแล้ว นายใหญ่ได้ออกแบบการบริหารประเทศไว้ชัดคือ นายกฯเศรษฐา อยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล และอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ประจำการอยู่ที่พรรคเพื่อไทย 

ธงนำอนุรักษ์ไม่เปลี่ยน
 

นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์หลายสำนัก พยายามชี้ทางให้พรรคเพื่อไทยเปลี่ยนยุทธศาสตร์การสร้างพรรค โดยขอให้ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แสดงบทบาทในฐานะผู้นำการเมืองรุ่นใหม่

พูดง่ายๆ ต้องดิสรัปต์เพื่อไทยให้เป็นพรรคแนวทางเสรีนิยมประชาธิป ไตย เพื่อเป็นคู่แข่งพรรคก้าวไกล

ปัจจุบัน เพื่อไทยในสถานการณ์ดีลลับดีลใหญ่ ฉุดให้กลายเป็นพรรคอนุรักษนิยมใหม่ 

ทักษิณ ชินวัตร ใช่ว่ามองไม่เห็นปัญหาความตกต่ำของพรรค แต่เงื่อน ไขดีลใหญ่ เหมือนเป็นไฟท์บังคับ จึงทำให้นายใหญ่ต้องกระโดดเข้ามาช่วยลูกสาวเต็มตัว

ยามที่ขั้วอนุรักษนิยม ต้องยื้ออำนาจให้อยู่ในความควบคุมต่อไป จำเป็นต้องใช้บริการของทักษิณ และพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคการเมืองในเครือข่ายชนชั้นนำ คะแนนนิยมสู้พรรคก้าวไกลไม่ได้

ทักษิณลงทุนเดินสายพบ “บ้านใหญ่” เล่นการเมืองสูตรโบราณ นักวิชา การรุ่นใหม่อาจมองว่า เป็นการเมืองเก่าล้าหลัง มิอาจเอาชนะพรรคสีส้มได้

สำหรับสถานการณ์เฉพาะหน้า เพื่อไทยจำเป็นต้องผนึกกำลังกับพรรคเครือข่ายอนุรักษนิยมสู้พรรคสีส้ม ดังนั้น การเดินเกมแบบนายใหญ่ จึงเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้