คอลัมนิสต์

กุมดุลใหม่ “ทักษิณ” มนต์เสื่อม “เนวิน” มนต์สั่ง สีน้ำเงินผงาดนิติบัญญัติ

สว.ขวาจัดได้เวลากลับบ้าน ทักษิณ ติดกับดักนิติสงคราม เนวิน ขยับหมากเสื้อน้ำเงิน ยึดกุมนิติบัญญัติ ถือดุลใหม่ ค่ายสีส้ม โดนเซาะกร่อนโตยาก

สามก๊กไทย ทักษิณ ติดกับดักนิติสงคราม เนวิน ขยับหมากเสื้อน้ำเงิน ยึดกุมนิติบัญญัติ ถือดุลใหม่ ธนาธรและพลพรรคสีส้ม โดนเซาะกร่อนโตยาก 

 

ขั้วอนุรักษ์เดิมได้เวลากลับบ้าน ครูใหญ่อีสานใต้ได้มนต์สั่งทัพขวาใหม่ นายใหญ่มนต์เสื่อม หนีไม่พ้นกฎอนิจลักษณะ ยุคทองเพื่อไทยผ่านพ้นไปแล้ว



คำเตือน! ชั่วโมงนี้ พายุสีน้ำเงินพัดปกคลุมสภาสูง ชาวเรือลำเก่าที่จับทิศทางลมฟ้าอากาศไม่ได้ เรือธงสีเหลืองใกล้หมดอายุ อาจอับปางกลางทะเล ควรนำเรือกลับเข้าฝั่งกลับบ้านไปดูแลลูกหลาน

 

ปรากฏการณ์ “สว.สีน้ำเงิน” ยังโจษขานกันไม่จบ และถนนทุกสายมุ่งหน้าสู่บุรีรัมย์ เนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่ค่ายภูมิใจไทย จะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวอย่างไร ทุกสำนักข่าววิเคราะห์ไปในทิศทางเดียวกัน บารมีเนวิน มาเต็มในชั่วโมงนี้

 


ตรงกันข้ามกับ ทักษิณ ชินวัตร ที่สื่อต่างชี้ไปในทิศทางเดียวกันคือ มนต์เสื่อม ไม่ว่า สมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะสอบตก สว.ด้วยเหตุผลใดก็ตาม

ภายหลัง กกต.ประกาศรับรองผลการเลือก สว. ก็คงได้เห็นโฉมหน้า 200 สว.ชุดใหม่ที่มาจาก 20 กลุ่มอาชีพ ซึ่งในนี้ มี สว.ที่เรียกขานกันว่า “สว.สีน้ำเงิน” ประมาณ 130-140 คน 

 

ในมิติทางรัฐศาสตร์ “สว.สีน้ำเงิน” คือ ตัวแทนพลังอนุรักษนิยม สังเกตจากวันเลือก สว. ที่มีคนสวมเสื้อเหลืองตบเท้าเข้าสู่อิมแพ็คเมืองทอง ราวกับกองทัพขวาใหม่ 

 

แหล่งข่าวสภาสูงชุดรักษาการ เปิดเผยว่า จำนวน สว.สีน้ำเงิน 140 เสียง มาทดแทน สว.สายลุงตู่ ได้สบายๆ และไม่มีเหตุผลอันใดที่ กกต.จะไม่ประกาศรับรองว่าที่ สว.ทั้ง 200 คน 

 

ดังนั้น ดุลอำนาจสภาสูงไม่เปลี่ยนไปจากยุค สว.สาย คสช. 250 คน ฉะนั้น กูรูการเมืองจึงอ่านการเมืองข้ามช็อต

1.ขั้วสีน้ำเงิน ยึดสภาสูงได้ ย่อมถือแต้มต่อรองฝ่ายนิติบัญญัติไว้ในมือ เพราะ สว.ชุดใหม่ ยังมีอำนาจการพิจารณาร่างกฎหมาย ที่จะต้องให้ความเห็นชอบในด่านสุดท้าย

 

2.ปิดประตูแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามธงขั้วสีส้ม หรือแดงก้าวหน้า เพราะการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องประชุมร่วมของ 2 สภา ซึ่งจะต้องได้เสียง สว.ที่เห็นชอบ อย่างน้อย 67 เสียง จึงจะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญได้



3.ขั้วสีน้ำเงินกุมดุลใหม่ เพราะสภาสูง ยังมีอำนาจการเห็นชอบบุคคลดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระเช่น ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ, กกต. , ปปช. ฯลฯ



เสื้อน้ำเงินสู่เสื้อเหลือง
 


ปลายปี 2551 เนวิน ชิดชอบ นำ สส.พรรคพลังประชาชน 30 กว่าคน ในนาม กลุ่มเพื่อนเนวิน แยกตัวจากทักษิณ ชินวัตร และแปรสภาพกลุ่มเพื่อนเนวินเป็นพรรคภูมิใจไทย 

 

ช่วงปี 2553-2554 เนวินจัดตั้งขบวนการ“เสื้อสีน้ำเงิน” ปกป้องสถาบันและเป็นยุทธศาสตร์ตีโต้คนเสื้อแดง ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งปี 2554

 

ยุทธศาสตร์เสื้อน้ำเงินของเนวิน ล้มเหลว เพราะเลือกตั้งปี 2554 ภูมิใจไทย ได้ สส.เขต 29 คน และ สส.บัญชีรายชื่อ 5 คน

 

เลือกตั้งปีที่แล้ว เนวินหันมาใช้กลยุทธ์ตอกเสาเข็มหรือ “บ้านใหญ่” เฉพาะภาคอีสาน ภูมิใจไทย ได้ สส.เขตเพิ่มขึ้นรวม 35 ที่นั่ง จากที่เคยได้ 16 ที่นั่งเมื่อปี 2562

 

ขณะที่เพื่อไทย ได้ สส.เขต 73 ที่นั่ง จาก สส.อีสานทั้งหมด 133 ที่นั่ง สะท้อนว่า ทักษิณมนต์เสื่อม และวันนี้ เรตติ้งเพื่อไทย ก็ยังไม่กระเตื้องขึ้นมา

 


มีข้อน่าสังเกต นับแต่เปิดประชุมสภาฯ สมัยล่าสุด สส.ภูมิใจไทย พร้อมใจกันสวมเสื้อเหลืองเข้าสภาฯ และช่างบังเอิญ วันเลือก สว.ก็มีคนเสื้อเหลือง นั่งรถตู้มากันเป็นทีม



นายใหญ่มนต์เสื่อม

 

ต้นทุนพรรคแนวปฏิรูปของเพื่อไทยหมดไปเยอะ ตั้งแต่วันที่นายใหญ่ ตัดสินใจเปิดดีลข้ามขั้ว จับมือภูมิใจไทย พลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ หนุนเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี

 

ปัจจุบัน ก้าวไกล มีเรตติ้งทิ้งห่างเพื่อไทยออกไปเรื่อยๆ กระทั่งนายกฯเศรษฐา ก็เครียด เพราะทำงานหนัก แต่คะแนนนิยมกลับมีแต่ร่วงเอาร่วงเอา

 

สำหรับทักษิณ แม้ดีลใหญ่ยังไม่เปลี่ยน แต่ก็ยังติดบ่วงตกเป็นจำเลยความผิด มาตรา 112 ยังไม่รู้ชะตากรรม จะรอดหรือร่วง

 

เมื่อวันนี้ สภาสูงเต็มไปด้วย “สว.สีน้ำเงิน” ต้นทุนอำนาจนายใหญ่ก็ลดฮวบ เพราะขั้วสีน้ำเงิน โชว์ผลงานกำราบสีส้มได้สำเร็จ จากยุทธการเลือก สว.ที่เพิ่งผ่านพ้นไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ