คอลัมนิสต์

เด็กนายใหญ่ “ชาญ” เผือกร้อนลวกมือ “อนุทิน” ที่แท้อดีตขุนศึกสีน้ำเงิน

ย้อนรอยลุงชาญ อดีตขุนศึกคู่ใจอนุทิน-เนวิน เจอวิบากกรรมเก่า ลุ้นนั่งนายก อบจ.ปทุมฯ สมัยที่ 4 ใต้เงาทักษิณ เผือกร้อนกลับมาอยู่ในมือ มท.หนู

เผือกร้อน ชาญ นั่งนายก อบจ.ปทุมธานี ได้หรือไม่ ในอุ้งมือมหาดไทย อนุทิน แกนนำเพื่อไทยกุมขมับ ลุ้นศาลชี้ทางออก ไปต่อหรือหยุดปฏิบัติหน้าที่
 

ย้อนรอยเส้นทาง ลุงชาญ อดีตขุนศึกคู่ใจอนุทิน-เนวิน นำทัพสีน้ำเงินลุย สส.ปทุมฯ 2 สมัยพ่ายยับ จึงหวนคืนสู่อ้อมอกนายใหญ่จันทร์ส่องหล้า 


เหมือนบุญมีแต่กรรมบัง ชาญ พวงเพ็ชร์ เพิ่งฉลองชัยชนะ แต่ก็เจอวิบากคดีค้างเก่า ทำให้การหวนคืนสู่เก้าอี้นายก อบจ.ปทุมธานี สมัยที่ 4 ต้องสะดุด


สืบเนื่องจาก ชาญ พวงเพ็ชร์ สมัยดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี ปี 2555 ถูกร้องเรียนกรณีทุจริตจัดซื้อถุงยังชีพ ซึ่ง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด และส่งฟ้องศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 

ชาญ พวงเพ็ชร์ ได้ยื่นขอประกันตัวสู้คดี และศาลไม่ได้สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพราะเวลานั้น ชาญ  ไม่ได้เป็นนายก อบจ.ปทุมธานี 

 

แกนนำเพื่อไทยประสานเสียง ลุงชาญ จะปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่ ต้องรอ กกต.รับรองผลการเลือกตั้ง และขอให้ศาลเป็นผู้สั่งว่า ควรจะทำอย่างไร
 


บังเอิญก่อนหน้านี้ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ทำหนังสือชี้แจงถึง อนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะ รมว.มหาดไทย กรณีนักการเมืองท้องถิ่น ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดและศาลประทับรับฟ้อง หากได้รับเลือกตั้งเป็นผู้บริหารท้องถิ่นในอีกวาระหนึ่ง ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ม. 81 และม. 93 เทียบเคียงความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา 

 

ด้าน อนุทิน ชาญวีรกูล ให้ความเห็นกรณีของลุงชาญ ว่า จะหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่เป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะด้านกฎหมาย มหาดไทยไม่เกี่ยว

 

สาเหตุที่ มท.หนู ต้องออกลูกชิ่ง เพราะในอดีต ลุงชาญคือ แม่ทัพสีน้ำเงินเมืองปทุมฯ โดยวันนี้ ลุงชาญ สวมเสื้อเพื่อไทย และได้รับการสนับสนุนจากตระกูลชินวัตร

 

“อย่าให้เกี่ยวกับกระทรวงมหาดไทยเลย แค่นี้ก็ปวดหัวตายอยู่แล้ว” อนุทิน กล่าวติดตลก แต่ลึกๆ คงรู้อยู่แก่ใจว่า นี่เป็นเผือกร้อน 
 

ใต้ร่มธงไทยรักไทย


ชาญ พวงเพ็ชร์ หรือ ลุงชาญ ตัวดำใจดี ลูกชาวนาเกิดที่ ต.ป่างิ้ว อ.สามโคก จ.ปทุมธานี และเป็นศิษย์หลวงปู่ฟ้อน จึงผันตัวเองสู่การเป็นนักปกครองท้องถิ่น จากผู้ใหญ่บ้าน ขยับเป็นกำนัน ต.ป่างิ้ว

 

เมื่อรับบทกำนันชาญ 10 ปี พรรคพวกจึงชวนไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ได้เป็น สจ.ปทุมธานี เขต อ.สามโคก ในยุคที่ตระกูล “หาญสวัสดิ์” ยึดครองเมืองปทุมธานี

 

ปี 2547 ชาญ ร่วมมือกับ สจ.สายบ้านใหญ่หาญสวัสดิ์ และ สส.ปทุมธานี พรรคไทยรักไทย ก่อตั้ง “กลุ่มปทุมรักไทย” ลงสมัครนายก อบจ. จึงได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.ปทุมธานี สมัยแรก

 

 

ปี 2551 ชาญ จับมือ เอกพจน์ ปานแย้ม และ สุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล 2 สส.ปทุมธานี พรรคชาติไทย(สมัยโน้น) พร้อมได้ สุทิน นพขำ สส.ปทุมธานี พรรคพลังประชาชน หนุน ชาญจึงคว่ำหลานสาวของตระกูลหาญสวัสดิ์ ได้เป็นนายก อบจ.สมัยที่ 2

 

 

ความปราชัยของตระกูลหาญสวัสดิ์ ในสนาม อบจ.ปทุมฯ ถือว่าเป็นการปิดฉากบ้านใหญ่หาญสวัสดิ์ นับแต่ พ.ศ.นั้นเป็นต้นมา

 

อดีตแม่ทัพสีน้ำเงิน
 

การเลือกตั้งปี 2554 เนวิน ชิดชอบ แยกตัวจากนายใหญ่มาตั้งพรรคภูมิใจไทย โดยรวบรวม “นายก อบจ.” ภาคกลางมาสังกัดค่ายสีน้ำเงิน รวมถึง ชาญ พวงเพ็ชร์ นายก อบจ.ปทุมธานี

 

ชาญ จึงจัดทีมผู้สมัคร สส.ปทุมฯ ภูมิใจไทย ลงชนเพื่อไทยทุกเขต โดยนายกเบี้ยว-กฤษฎา หลีนวรัตน์ เพื่อนลุงชาญ ก็สวมเสื้อสีน้ำเงิน ลงสนาม สส.ปทุมธานี เขต 5 แต่พ่ายแพ้กระแสเสื้อแดง
 

ปี 2555 ชาญ ลงป้องกันแชมป์เจอสายเสื้อแดง สุเมธ ฤทธาคนี อดีต สส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย ตอนนั้น แกนนำ นปช.แห่มาเสียงช่วยสุเมธ แต่ ชาญก็เอาชนะไปได้ เป็นนายก อบจ.ปทุมฯ สมัยที่ 3 


 

การเลือกตั้งปี 2562 ชาญ ยังเป็นแม่ทัพภูมิใจไทย จัดทีมผู้สมัคร สส.ทั้ง 6 เขตแต่ก็ได้ สส.มาแค่คนเดียวคือ พิษณุ พลธี 


 

ผลพวงจากสนามผู้แทนฯ กลายเป็นโดมิโน่มาถึงสนามนายก อบจ. ชาญ แพ้ พล.ต.อ.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง แบบไม่ได้ลุ้น 


 

หลังจากนั้น บ้านใหญ่บุรีรัมย์ ก็แยกทางกับ ลุงชาญ เพราะประเมินผลงานการเลือกตั้ง สส. 2 ครั้ง สอบไม่ผ่าน ลุงชาญ  จึงหันกลับไปหานายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า

ข่าวที่น่าสนใจ