แม่แทบขาดใจ ลูกสาวขับจยย. มาซื้อข้าวให้ ถูกคนเมาแล้วขับหลุดโค้งชน

เมื่อเวลา 23.15 น. วันที่ 21 ก.ค.67 เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งเฉี่ยวชนรถจยย.ที่จอดข้างทาง บริเวณถนนเขางูสายเก่า หมู่ที่ 1 ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง จ.ราชบุรี จนเป็นเหตุให้เด็กหญิงอายุ 13 ปี เสียชีวิต 1 ราย 

 

พ.ต.ต.ณัฐพงษ์ อาจอ่ำ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลราชบุรี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ พบว่าเป็นบริเวณร้านขายน้ำดื่มข้างทาง ผู้เสียชีวิตคือ ด.ญ.ชัชญานุช หรือ น้องฟีฟ่า อายุ 13 ปี ชาวราชบุรี และเป็นเด็กนักเรียนในเขตเทศบาลเมืองราชบุรี 

สภาพศพสวมเสื้อแขนสั้นลายขาวดำ ใส่กางเกงขาสั้นสีชมพู นอนหงายเสียชีวิต สภาพแขนและขาหัก ส่วนรถจยย. สภาพถูกชนพังยับทั้งคัน โดยไฟหน้าไฟเลี้ยวยังเปิดค้างอยู่ และยังพบชิ้นส่วนกันชนรถ 

 

น.ส.อรุณี อายุ 52 ปี ผู้เป็นแม่ของผู้เสียชีวิตนั่งและกอดศพลูกสาวร้องไห้จนแทบขาดใจ พร้อมเรียกชื่อลูกสาวและพูดขอโทษลูกตลอดเวลา 

 

ใกล้กันนั้น พบเศษชิ้นส่วนรถเก๋งกระจายเกลื่อนเต็มพื้นถนน ห่างออกไป 10 เมตร กันชนด้านหน้าหลุดหายและล้อหน้าด้านซ้ายแตก โดยมี นายวิหก อายุ 56 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร เป็นผู้ขับขี่รถ ถูกชาวบ้านและจนท.มูลนิธิฯควบคุมตัวเอาไว้ได้ พบว่ามีอาการคล้ายคนมึนเมา ซึ่งตรวจค้นภายในรถเก๋ง พบขวดเบียร์ที่เปิดดื่มและขวดเบียร์ที่ยังไม่เปิดรวมเป็น 2 ขวด พร้อมกระป๋องเบียร์ที่ยังไม่เปิดดื่มอีก 1 กระป๋อง ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน 

 

ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวเอาไว้ในรถตู้ของมูลนิธิฯ เพราะเกรงจะถูกชาวบ้านและญาติผู้เสียชีวิตรุมประชาทัณฑ์ ผู้สื่อข่าวเข้าไปพยายามสอบถามนายวิหก ผู้ขับขี่รถเก๋ง ให้การด้วยอาการยิ้มหัวเราะ ไม่มีอาการสลดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยบอกว่าดื่มสุรามาหลายขวดและเมาสุราจริง ทำให้มีชาวบ้านจำนวนมากไม่พอใจ 

จากการสอบถาม น.ส.อรุณี และญาติของ น้องฟีฟ่า ให้ข้อมูลว่า น้องฟีฟ่า ขี่รถจยย.ออกมาหาซื้อข้าวไปให้แม่ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้ากิน แต่น้องฟีฟ่า จอดรถจยย.ข้างทางเพื่อรับโทรศัพท์ กระทั่งถูกนายวิหกขับรถเก๋งมาด้วยความเร็วพุ่งชน จนน้องฟีฟ่าและรถจยย.กระเด็นลอยเข้าไปในร้านขายน้ำดื่มข้างทาง ทำให้น้องฟีฟ่าเสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ 

 

ขณะที่ 1 ในผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ยืนยันว่า ตอนที่คนขับรถเก๋งลงจากรถได้กลิ่นเหล้าคลุ้งออกมาจากตัวคนขับรถ และเจ้าตัวก็ยอมรับว่าเมาด้วย ซึ่งเธอขี่รถจยย.มาตามหลังรถเก๋ง เพื่อจะกลับบ้าน ซึ่งรถเก๋งขับมาด้วยความเร็วอยู่เลนส์ขาว จนเธอไม่กล้าขี่รถเข้าไปใกล้ มาถึงที่เกิดเหตุ เธอเห็นน้องผู้เสียชีวิตขี่รถจยย.มาจอดอยู่ข้างทางได้แปบเดียว รถเก๋งก็ขับแหกโค้งพุ่งชนเสยน้องผู้เสียชีวิต ทั้งคนและรถกระเด็นลอยเข้าไปในร้านขายน้ำดื่ม ทำให้น้องเสียชีวิต ส่วนรถเก๋งเสียหลักจอดแน่นิ่งอยู่กลางถนน ซึ่งหลังเกิดเหตุคนขับรถเก๋งยังไม่ยอมลงจากรถ พยายามจะเร่งเครื่องหนี แต่รถไม่สามารถเคลื่อนที่ไปได้เพราะล้อหน้าหักและยางแตก 

 

ด้านนางเพ็ญ อายุ 64 ปี ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกที่เกิดเหตุเล่าว่า เธอกำลังนอนอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงดังสนั่นคล้ายรถชนกัน จึงออกมาดูพร้อมกับหลานสาว จนพบรถเก๋งจอดอยู่กลางถนน ส่วนคนขับนั่งอยู่ในรถ พยายามจะเหยียบดันเร่งหนี ซึ่งตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่าน้องฟีฟ่าถูกชนจนเสียชีวิต แต่พอหันไปดูที่ร้านขายน้ำ พบน้องฟีฟ่านอนเสียชีวิตใกล้รถจยย. เธอกับหลานพร้อมญาติน้องฟีฟ่าและชาวบ้าน จึงบอกให้คนขับรถเก๋งลงมาจากรถ แต่คนขับก็ไม่ยอมลง จนมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ มาถึงที่เกิดเหตุ คนขับรถเก๋งจึงยอมออกมาจากรถ ในสภาพคล้ายคนมึนเมาและมีกลิ่นเหล้าเคล้าคลุ้ง จึงช่วยกันควบคุมตัวไว้ 

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่เทศบาลตำบลเขางู เพื่อขอตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนพบว่า ช่วงเวลา 23.15 น. น้องฟีฟ่า ขี่รถจยย.มาจอดอยู่ริมถนน โดยได้เปิดไฟหน้าและไฟเลี้ยวซ้ายติดไว้ มีรถเก๋งคู่กรณีขับหลุดโค้งมาด้วยความเร็ว ชนเสยท้ายรถจยย.ของ น้องฟีฟ่า จนรถจยย.และ น้องฟีฟ่า กระเด็นลอยไปกว่า 20 เมตร เข้าอยู่ในร้านขายน้ำข้างทาง 

 

เบื้องต้นทางตำรวจสอบปากคำพยานบุคคลและหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุ ก่อนควบคุมตัว นายวิหก คนขับรถเก๋ง ไปสอบปากคำที่สภ.เมืองราชบุรี และเป่าวัดแอลกอฮอล์ในร่างกาย ขึ้นอยู่ที่ 222 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ให้ควบคุมตัวเองไม่ได้ การรับรู้ลดลง จึงตั้งข้อกล่าวหานายวิหก คนขับรถเก๋ง เมาแล้วขับจนทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต ก่อนส่งตัวฝากขังที่ศาลราชบุรีในช่วงเช้า ส่วนรถเก๋งคันเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนตรวจยึดไว้ตรวจสอบ จนทราบว่า ทั้งทะเบียนและพ.ร.บ.ขาด ไม่ได้มีการต่อ 

 

ส่วนร่างของ น้องฟีฟ่า ได้ส่งผ่าชันสูตรที่ศูนย์นิติเวชรพ.ราชบุรี ก่อนจะมอบร่างให้ญาติไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป