ชนะแต่แพ้ “ประวิตร” แสลงหูหัวร้อนป่วน “บ้านป่า” ใบสั่งบ้านจันทร์ตัดทิ้ง

ชนะแต่แพ้ ประวิตร ฝันสะดุด เศรษฐาหลุดแต่ไร้หวัง ชื่ออุ๊งอิ๊งแสลงหู ลุงหัวร้อนทำเอาบ้านป่ารอยต่อฯ เป็นตำบลกระสุนตก

 

ยุทธการสอยเศรษฐา มีต้นทางจากบ้านป่า แผนล้มนายกฯสำเร็จ แต่ลุงป้อมไม่สมหวัง เพราะค่าย พปชร.ป่วน ค่ายสีน้ำเงินไม่รับลูก

 

ไม่ผิดคาด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้เดินทางไปรัฐสภา ไปโหวตเห็นชอบแพทองธาร ชินวัตร ตามมติพรรค โดยทำหนังสือขอลาไปปฏิบัติภารกิจในฐานะประธานโอลิมปิกแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมเลี้ยงต้อนรับนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 33

ระหว่างที่ พล.อ.ประวิตร กำลังเดินทางกลับบ้านป่าฯ ได้เจอกับกองทัพนักข่าวดักรออยู่ จึงมีการยิงคำถามเกี่ยวกับโหวตเลือกนายกฯ แพทองธาร ทำให้ลุงป้อมเปลี่ยนอารมณ์ทันที โดยย้อนว่า “ถามอะไรก็ไม่ได้ยิน” และจังหวะนั้นก็เงื้อมือไปตีหัวนักข่าว

 

คลิปข่าวลุงป้อมหยุมนักข่าว ถูกเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางคำถามว่า เหตุใตลุงป้อมที่มีบุคลิกใจดี จึงมีอาการหัวร้อน

 

กูรูการเมืองหน้าจอบางคนถึงกับโยงเรื่องลุงป้อมเก็บอาการไม่อยู่ เพราะอาจได้ยินกระแสข่าวผู้มากบารมีจะไม่ให้น้องชาย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ได้เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลแพทองธาร

 

เหนืออื่นใด พล.อ.ประวิตร ยังไม่ละทิ้งความฝันที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี จึงมีนักการเมือง อดีต สว. และนักกิจกรรมสีเสื้อบางกลุ่มวิ่งเข้าไปที่บ้านป่ารอยต่อฯ เพื่อวางแผนสร้างฝันให้เป็นจริง

 

ฉะนั้น การที่ได้ยินบางชื่อ บางประเด็นที่เสียดแทงใจ จึงมีอาการของขึ้น เหมือนบางสำนักใช้คำว่า หยุมหัวนักข่าว หรือตบนักข่าว

 

ก๊วนแค้นทักษิณ

 

ช่วงที่มีปฏิบัติการลับสายฟ้าแลบของ 40 สว.(ชุดเดิม) ยื่นสอยพิชิต-เศรษฐา ก็มีการวิเคราะห์ว่า ลุงบ้านในป่า หวังที่จะให้ศาลรัฐธรรมนูญเชือดเศรษฐาตกเก้าอี้นายกฯ ซึ่งจะนำไปสู่การล้างไพ่ใหม่

 

ปรากฏการณ์ 14 สิงหา ก็เป็นไปตามแผนของบ้านป่า เศรษฐาหลุดจากนายกฯ แต่นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า ชิงรุกล็อกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเดิม และเสนอชื่ออุ๊งอิ๊ง เป็นนายกฯคนใหม่ในทันที

 

เดิมทีทีมงานลุงบ้านในป่า วาดหวังว่าจะเปิดดีลรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับเพื่อไทย โดยดึงภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ มารวมตัวเป็นพันธมิตรการเมือง และอาศัยงูเห่าสีส้มเพิ่มเติม

 

แผนการทุกอย่างพังพาบ เมื่อเนวิน ชิดชอบ และอนุทิน ชาญวีรกูล เลือกยืนข้างนายใหญ่ มิหนำซ้ำ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และสันติ พร้อมพัฒน์ รวมหัวกันวิ่งไปบ้านจันทร์ส่องหล้า

 

บ้านป่า-ผู้กอง

 

ในที่สุด ทักษิณก็ตรึงขั้วรัฐบาลเดิมไว้ได้หมด 314 เสียง จึงโหวต “เห็นชอบ” แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี อย่างพร้อมเพรียง แถมมีงูเห่าไทยสร้างไทย มาเสริมอีก 6 คน

 

อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขการโหวตแพทองธาร ของอดีตพรรคร่วมรัฐบาล คือต้องการยึดโควตารัฐมนตรีเดิมที่เคยแบ่งกันเอาไว้ในรัฐบาลเศรษฐา ซึ่งทางบ้านจันทร์ และเพื่อไทยก็ตอบตกลง

 

พรรคที่จะมีปัญหาคือ พลังประชารัฐ เนื่องจากโจทย์ของนายใหญ่ ต้องการเอาลุงป้อมออกจากพรรคร่วมรัฐบาล

 

นั่นหมายว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ จะไม่ได้ไปต่อกับรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง ทำให้เก้าอี้รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ่วงรองนายกรัฐมนตรี ก็หลุดลอยไปด้วย

 

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส มีโอกาสบวกเก้าอี้รองนายกฯ แทนที่พล.ต.อ.พัชรวาท โดยมีเงื่อนไขต้องมี สส.มาสนับสนุนรัฐบาล ไม่น้อยกว่า 25-30 เสียง

 

ส่วนเจ้าพ่อมะขามหวาน สันติ พร้อมพัฒน์ ที่มาแท็กทีมกับธรรมนัส ก็พยายามวิ่งไปแตะมือกับสมศักดิ์ เทพสุทิน และสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เพราะหนนี้ สันติหวังนั่งรัฐมนตรีว่าการ

 

ความไม่ลงตัวของพลังประชารัฐ จึงเกิด “งูเห่า” 6 คน เพราะหวังส้มหล่นได้เก้าอี้ รมช.สักตำแหน่ง หากเสียง สส.จำนวนหนึ่ง จากพลังประชารัฐหายไปพร้อมลุงป้อม